สารสกัดโพรพอลิสเข้มข้น กับฤทธิ์บรรเทาอาการเจ็บคอ เสียงแหบ ฯลฯ

สารสกัดโพรพอลิส (Propolis Extract)

         สารสกัดโพรพอลิส คือ สารสกัดที่ได้จากผิวของรังผึ้ง มีลักษณะเหนียวคล้ายกาว (ในต่างประเทศจึงนิยมเรียกว่า “Bee glue” หรือกาวผึ้ง) มีเรซินจากยางไม้เป็นส่วนประกอบหลัก 50%, ไขผึ้ง 30%, น้ำมันหอมระเหย 10%, เกสรดอกไม้ 5% และสารประกอบอื่น ๆ ตามธรรมชาติอีก 5% ในทางการแพทย์มีการใช้สารสกัดโพรพอลิสเพื่อบรรเทาอาการปวด สมานแผล และฆ่าเชื้อมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอ ปวดฟัน ซึ่งมีใช้มาตั้งแต่สมัยกรีก โรมัน จวบจนถึงปัจจุบันก็ยังใช้สารสกัดโพรพอลิสอยู่

         แต่ด้วยความที่โพรพอลิสเป็นสารสกัดจากธรรมชาติและมีการศึกษาพบว่า พื้นที่และภูมิอากาศของแหล่งผลิตที่แตกต่างกันจะทำให้คุณสมบัติของโพรพอลิสนั้นแตกต่างกันไปด้วย จึงเป็นที่มาของการคัดเลือก “สารสกัดโพรพอลิสเข้มข้นมาตรฐานสแตนดาร์ดไดซ์” เพื่อใช้ทดแทน “สารสกัดบราซิลเลียน กรีน โพรพอลิส” ที่อาจให้ผลเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละฤดูกาล

         สารสกัดโพรพอลิสเข้มข้นมาตรฐานสแตนดาร์ดไดซ์ หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า “สแตนดาร์ดไดซโพรพอลิส (Standardized Propolis Extract)” จึงจัดเป็น Top Class ของสารสกัดโพรพอลิส เพราะต้องผ่านกระบวนการวิเคราะห์จนได้ปริมาณสารสำคัญที่แม่นยำ เที่ยงตรง (ในทุก ๆ ล็อตของการผลิต) และให้ผลการรักษาที่ดีกว่า โดยไม่ต้องกังวลเรื่องประสิทธิภาพของสารสกัดจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศอีกต่อไป และที่สำคัญสแตนดาร์ดไดซ์โพรพอลิสมีประสิทธิภาพเหนือกว่าโพรพอลิสทั่วไป 10 เท่า ซึ่งเป็นมาตรฐานควบคุมคุณภาพยาระดับสากล และยังเป็นแบรนด์ที่ขึ้นทะเบียนเป็นยา

โพรโพลิซ พลัส เอ็กเฮิร์บ (Propoliz Plus Extherb)

         โดยหนึ่งในสินค้าที่มีสแตนดาร์ไดซ์โพรพอลิสก็คือ โพรโพลิซ พลัส เอ็กเฮิร์บ (Propoliz Plus Extherb) ซึ่งเป็นสเปรย์สำหรับสุขภาพช่องปากและลำคอที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ 100% โดยเฉพาะสแตนดาร์ดไดซ์โพรพอลิสที่มีผลงานวิจัยทางการแพทย์ในเรื่องของการดูแลปัญหาในช่องปากและลำคอมากกว่า 2,000 งานวิจัยทั่วโลก

ส่วนประกอบสำคัญ

• สแตนดาร์ดไดซ์โพรพอลิส (Standardized Propolis Extract) คือ สารสกัดโพรพอลิสเข้มข้นที่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์จนได้ปริมาณสารสำคัญที่เที่ยงตรงและแม่นยำกว่าสารสกัดโพรพอลิสแบบเดิม และมีประสิทธิภาพเหนือกว่าโพรพอลิสทั่วไปถึง 10 เท่า จึงให้ผลการรักษาที่ดีกว่า
  • ผลการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการพบว่า สารสกัดโพรพอลิสเข้มข้นมีส่วนประกอบของสารสำคัญต่าง ๆ ดังเช่น Bioflavonoids (มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อในช่องปากและลำคอ), Artepillin C (มีฤทธิ์เป็นยาปฏิชีวนะจากธรรมชาติที่ช่วยฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการเจ็บคอและเหงือกอักเสบ), Caffeic acid phenethyl ester (มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบบวม บรรเทาอาการเจ็บปวด และช่วยเร่งกระบวรการสมานแผลในช่องปากและลำคอ)
  • งานวิจัยของสารสกัดโพรพอลิสจำนวนมากระบุถึงฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในระบบทางเดินหายใจ (URTIs) เช่น ฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่พบว่าสารสกัดฤทธิ์โพรพอลิสสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในระบบทางเดินหายใจที่ตรวจพบในโรงพยาบาลได้ เช่น เชื้อฮิโมฟิลุส อินฟลูเอนซา (Haemophilus influenzae), เชื้อสเตรปโตคอคคัส นิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae), เชื้อเคล็บซีเอลลา นิวโมเนียอี (Klebsiella pneumoniae), เชื้อมอร์ริเซลล่า คาตาราลีส (Moraxella catarrhalis), เชื้อสเตรปโตคอคคัส ไพโอจีเนส (Streptococcus pyogenes) หรือฤทธิ์ฆ่าเชื้อราที่พบว่าสามารถฆ่าเชื้อราแคนดิดาในช่องปากได้เทียบเท่ากับยาคลอร์เฮกซิดีน (Chlorhexidine) เป็นต้น
• เทอร์มิน่าเลีย ชีบูล่า (Terminalia Chebula Extract) หรือ สมอไทย มีสารสำคัญอย่าง กาลิก แอซิด (Gallic acid) ที่มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อจุลชีพ (Antimicrobial activity)
• น้ำผึ้ง (Honey) นอกจากจะช่วยให้รสชาติหอมหวาน เพิ่มความชุ่มชื้นในลำคอ ลดการระคายคอ และบรรเทาอาการเสียงแหบแห้งได้แล้ว ในน้ำผึ้งยังมีสารอินฮิบิน (Inhibine) ที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในลำคอด้วยครับ
• เมนทอล (Menthol), เปปเปอร์มินท์ ออยล์ (Peppermint oil) และสเปียร์มินท์ ออยล์ (Spearmint oil) เป็นตัวเพิ่มความเย็นซ่า ให้กลิ่นหอมสดชื่น จึงช่วยระงับกลิ่นปากได้ดี นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียแลไวรัสในลำคอ และทำให้รู้สึกชา (มีผลช่วยลดความรู้สึกเจ็บคอ) ได้ด้วย

ประโยชน์ของโพรโพลิซ พลัส เอ็กเฮิร์บ (Propoliz Plus Extherb)

1. บรรเทาอาการเจ็บคอ ระคายคอ ทอนซิลอักเสบ โดยบรรเทาอาการได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
2. ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อราที่ก่อโรคในช่องปากและลำคอ
3. ให้ความชุ่มชื้นกับลำคอ ช่วยลดอาการคอแห้ง เสียงแหบ ไม่มีเสียง หลอดเสียงอักเสบ ระคายเคือง
4. ช่วยบรรเทาอาการปวดฟัน รวมถึงอาการปวดหลังการถอนฟันหรือจัดฟัน
5. ช่วยลดการอักเสบและลดบวม เช่น เหงือกอักเสบ เหงือกบวม เนื้อเยื่อรอบฟันอักเสบ เบ้าฟันอักเสบ รากฟันอักเสบ
6. สมานแผลในช่องปากและลำคอ เช่น แผลร้อนใน แผลในปาก

Propoliz Plus Extherb สแตนดาร์ดไดซ์โพรพอลิส ทางเลือกใหม่จากธรรมชาติเพื่อสุขภาพที่ดีของช่องปากและลำคอ

วิธีและข้อควรระวังในการใช้

• ใช้ฉีดพ่นภายในช่องปากและลำคอครั้งละ 2-3 พัฟ วันละ 2-3 ครั้ง หรือบ่อยตามที่ต้องการ โดยอาจใช้วิธีการฉีดพ่นในช่องปากและลำคอตามปกติ หรืออาจฉีดพ่นลงในสำลีพันปลายไม้แล้วใช้ป้ายแผลในปาก หรือป้ายเหงือกและฟันในบริเวณที่มีอาการก็ได้
• ผู้ที่แพ้เกสรดอกไม้หรือผลิตภัณฑ์จากรังผึ้ง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
• ควรเก็บไว้ในที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส และเก็บให้พ้นแสงแดด ส่วนวันหมดอายุสามารถดูได้ที่ข้างขวด (ปกติจะมีอายุ 3 ปีนับจากวันผลิต)

สถานที่ซื้อและราคา

• Propoliz Plus Extherb ขนาด 15 ml. ราคาประมาณ 185 บาท
• สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ และซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น บู๊ทส์ (Boots), วัตสัน (Watson), พีแอนด์เอฟ (P&F), เพรียว (pure), ดรัก เพลส (DRUG PLACE), เมดิค กรุ๊ป (Medic group), ดี-เชน (D-Chain), ฟาสซิโน (fascino), ยูแคร์ (U CARE), โอเกนกิ (OGENKI), ซูรูฮะ (TSURUHA), หมอยา, ศูนย์ยา, เทสโก้ โลตัส (TESCO LOTUS), ท็อปส์ (Tops), กูร์เมต์ มาร์เก็ต (Gourmet Market) ฯลฯ

รีวิวการใช้โพรโพลิซ พลัส เอ็กเฮิร์บ

         จากที่ได้ลองใช้มาสักระยะหนึ่งแล้วขอแยกการรีวิวออกเป็น 4 ประเด็นดังนี้ครับ

1. ส่วนประกอบ : เป็นเหตุผลหลักสำคัญที่ผมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนี้ครับ เพราะเป็นสแตนดาร์ดไดซ์โพรพอลิสที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าโพรพอลิสทั่วไปถึง 10 เท่า ดังที่กล่าวไปแล้ว แต่อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ Propoliz Plus Extherb ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล แซคคารีน สารกันบูด และเมทิลซาลิไซเลต ! (เหมือนที่หลาย ๆ ยี่ห้อมี)
   • ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล (Sugar Free) จึงไม่ทำให้ฟันผุ
   • ไม่มีแซคคารีน/ขัณฑสกร (Saccharin Free) ที่เป็นอันตรายกับร่างกาย
   • ไม่มีสารกันบูด (Preservative Free) เพราะมีฤทธิ์ฆ่าเชื้ออยู่แล้ว
   • ไม่มียาปฏิชีวนะที่ทำให้เกิดการดื้อยา เนื่องจากการทานยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็นถือเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาเชื้อดื้อยาในปัจจุบัน เพราะ 90% ของอาการเจ็บคอมักเกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งจะหายได้เองโดยไม่ต้องใช้ยาใด ๆ อีกทั้งยาปฏิชีวนะก็มีไว้ใช้สำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ไม่ใช่เชื้อไวรัสที่พบได้บ่อย
   • ไม่มียาเมทิลซาลิไซเลต (Methyl salicylate) ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้หากใช้ในระยะยาว (เมาท์ สเปรย์บางยี่ห้อจะใส่ยานี้เข้าไปเพื่อหวังฤทธิ์ลดการอักเสบ แต่ในขณะที่สแตนดาร์ดไดซ์โพรพอลิสก็มีฤทธิ์ลดการอักเสบอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องใส่)
2. บรรจุภัณฑ์ : ถือว่าออกแบบมาได้มาตรฐานครับ มีลักษณะเป็นขวดแก้วสีชาที่กันแสงได้ น้ำหนักเบา ขนาดไซส์กำลังดี (15 ml.) จึงง่ายต่อการพกพา ที่หัวสเปรย์มีฝาใสปิด (แต่ฝาปิดยังไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ เหมือนจะโคลงเคลงหน่อย ๆ แต่ก็ไม่หลุดออกง่ายยามพกพา) ส่วนหัวสเปรย์เมื่อฉีดแล้วก็สามารถกระจายละอองออกมาได้ดีถึงในลำคอ และออกมาในปริมาณที่พอดี ๆ ไม่มากหรือน้อยเกินไป
3. สี กลิ่น รสชาติ และความรู้สึก : ตัวน้ำยาไม่มีสี กลิ่นโดยรวมออกหอมเย็น กลิ่นค่อนข้างชัดเจนคล้ายหมากฝรั่งรสมินท์หรือสเปียร์มินท์ ส่วนรสชาติจะออกหวานอ่อน ๆ ในช่วงแรกจะเป็นรสเมนทอลแรง ๆ รู้สึกเย็นลึก สดชื่น และสบายในช่องปากและลำคอ (ความเย็นอยู่ได้ประมาณ 10-15 นาที) ไม่ได้รู้สึกขม หรือรู้สึกแปลก หรือระคายเคืองแต่อย่างใด (เหมือนเป็นรสชาติที่คนทั่วไปคุ้นชินนั่นแหละครับ คล้าย ๆ กับตอนเราอมฮอลล์คูลหมดแล้ว แต่กลิ่นและความเย็นสดชื่นยังคงอยู่) ส่วนใครที่เคยใช้คามิลโลซานแล้วไม่ค่อยชอบกลิ่นหรือรสชาติของสมุนไพร ขอบอกว่าตัวนี้ใช้ง่ายกว่าครับ
4. ผลการรักษา : โพรโพลิซ พลัส เอ็กเฮิร์บ มีการรักษาที่หลายหลาก แต่จะดีสุดๆ จะแนะนำ
   • สำหรับอาการเจ็บคอ หลังจากพ่นในครั้งแรก จะมีความชุ่มคอ ทำให้หายเจ็บคอได้ในครั้งแรกที่ใช้
   • เสียงแหบ (เพราะพูดเยอะ) หลังจากพ่นอาการก็ดีขึ้นอย่างรู้สึกได้และรู้สึกโล่งคอขึ้นมาทันที
   • ส่วนอาการแผลร้อนที่เคยเป็นอยู่ครั้งหนึ่งในระหว่างทดลองใช้ที่ปกติจะเป็นอยู่นานประมาณ 4-5 วันหาย แต่หลังจากใช้ก็รู้สึกว่าแผลหายเร็วขึ้นครับ (ลดเหลือ 2-3 วัน)

หากกล่าวโดยสรุปแล้ว Propoliz Plus Extherb คงเป็นอีกหนึ่งไอเทมสามัญที่ควรมีไว้ใช้เป็นอย่างมาก เพราะปลอดภัย ราคาไม่แพง และมากไปด้วยสรรพคุณครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีอาการเจ็บคอ ระคายคอ หรือผู้ที่ต้องใช้เสียงอยู่บ่อย ๆ ควรพกติดตัวไว้เลย ส่วนคนทั่วไปก็สามารถซื้อหามาใช้เพิ่มความชุ่มชื้นในช่องปากและลำคอพ่นป้องกันเสียงแหบ เวลาใช้เสียงมาก ๆ หรือพกไว้ใช้เมื่อมีอาการเจ็บคอ หรือไปต่างจังหวัด ต่างประเทศก็ได้เช่นกัน

         สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.propolizspray.com หรือสอบถามรายละเอียดผ่านทาง facebook.com/Propolizspray

เอกสารอ้างอิง

1. PubMed.  “Recent advances in the chemical composition of propolis.”.  (Shuai Huang, Cui-Ping Zhang, Kai Wang, George Q. Li, Fu-Liang Hu). [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/25432012.  [17 เม.ย. 2018].
2. PubMed.  “Antifungal activity of propolis against Candida species isolated from cases of chronic periodontitis.”.  (Siqueira AB, Rodriguez LR, Santos RK, Marinho RR, Abreu S, Peixoto RF, Gurgel BC.). [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/26154370.  [17 เม.ย. 2018].
3. Academic Journals.  “Antimicrobial activity of propolis extract on bacteria isolated from nasopharynx of patients with upper respiratory tract infection admitted to Central Hospital, Benin City, Nigeria”.  (E. A. Ophori, E. C. Wemabu). [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.academicjournals.org.  [17 เม.ย. 2018].

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)