หน้ากลม
เชื่อได้เลยว่าใคร ๆ ก็อยากมีรูปหน้าสวยติดตัวมาตั้งแต่เกิดทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วใบหน้าดั๊นไม่เพอร์เฟกต์อย่างที่หวังไว้ เช่นเดียวกับสาวหน้ากลมที่มีเนื้อบริเวณแก้มค่อนข้างเยอะ ทำให้ขาดความมั่นใจ จะถ่ายรูปแต่ละทีเป็นต้องเสียเวลาเลือกมุมกล้อง วันนี้ทีมงานก็เลยรวบรวมวิธีลดไขมันแก้มมาให้ได้อ่านกัน จะหน้ากลม แก้มบวม แก้มป่อง แก้มยุ้ย แก้มเยอะ แก้มใหญ่ แก้ได้แน่นอน งั้นอย่ารอช้า รีบไปทำตามกันเลยโลดด~
วิธีลดแก้ม
- หมั่นออกกำลังเป็นประจำ การออกกำลังกายเป็นประจำนอกจากจะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายแล้ว มันยังช่วยขับเหงื่อลดไขมันที่สะสมในร่างกายรวมถึงไขมันบริเวณแก้มได้อีกด้วย แต่ไขมันที่แก้มจะค่อนข้างลดยากกว่าส่วนอื่น ๆ นะครับ อันนี้ให้ทำใจไว้ได้เลย ให้คิดว่าออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและให้มีรูปร่างดีก็ได้ครับ โดยมันจะค่อย ๆ ลดลงอย่างช้า ๆ จนลืมสังเกต มารู้สึกตัวอีกทีก็แบบเอ๊ะ หน้าฉันเล็กลงเหมือนฝันไป~
- การใช้ชีวิตประจำวันอย่างระมัดระวัง ก็สามารถป้องกันปัญหาเนื้อแก้มเยอะและไขมันสะสมได้ โดยอาการบวมนั้นอาจเกิดจากความชื้นที่สะสมในร่างกายนานเกินไป จนทำให้อุณหภูมิของร่างกายเย็นลง ส่งผลทำให้ร่างกายต้องเร่งสร้างไขมันเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น ส่งผลให้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้หากร่างกายเย็นลงจะทำให้หัวใจเต้นช้าลง ร่างกายไม่เผาผลาญและก่อให้เกิดไขมันสะสมได้
- การนอน สำหรับใครที่หน้าบวมอยู่ ให้ลองสังเกตดูว่าคุณเป็นคนชอบนอนคว่ำหรือนอนหมอนสูงหรือไม่ เพราะการหนุนหมอนสูง ๆ จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก ส่งผลทำให้หน้าบวมได้ง่าย ส่วนการนอนคว่ำจะทำให้ความชื้นมากองรวมอยู่ที่บริเวณใบหน้า ส่งผลให้เกิดอาการบวมขึ้น การเลือกนอนหนุนหมอนต่ำและนอนในท่านั่งจะช่วยป้องกันการเกิดอาการบวมบริเวณใบหน้าได้
- เลือกดื่มน้ำอุ่นและรับประทานอาหารอุ่น ๆ การรับประทานอาหารเย็น ๆ หรือการดื่มน้ำเย็นเป็นประจำจะทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดไม่ปกติ จนส่งผลให้เกิดอาการบวมขึ้นมาได้ นอกจากนี้คุณควรหลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่น ๆ จนเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้เลือดไม่ไหลเวียน
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจผิดว่า การดื่มน้ำบ่อย ๆ อาจทำให้แก้มใหญ่ขึ้น แต่ความจริงแล้วการดื่มน้ำน้อยเกินไปจนไม่เพียงพอต่อความต้องการจะทำให้ร่างกายเกิดการสะสมสำรองน้ำเอาไว้บริเวณแก้มและรอบดวงตา และทำให้แก้มดูอวบใหญ่มากยิ่งขึ้นได้ เพราะฉะนั้นการดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ
- ลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและดื่มเป็นประจำ จะทำให้ร่างกายเกิดอาการขาดน้ำและจะเกิดการกักเก็บสำรองน้ำเอาไว้บริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณแก้ม จนทำให้แก้มบวมป่องมากขึ้น
- เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หันมารับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น เพราะนอกจากจะมีประโยชน์แล้ว ยังอุดมไปด้วยน้ำที่สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว มันจึงช่วยรักษาระดับน้ำบริเวณแก้มได้ อีกทั้งผักและผลไม้ยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารและควรหันมารับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม เช่น นม ชีส โยเกิร์ต ฯลฯ เพราะจะช่วยลดการกักเก็บน้ำเอาไว้บริเวณใบหน้าได้
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเค็มจัด เนื่องจากการรับประทานอาหารเค็มจัดก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หน้าเกิดอาการบวมน้ำและแก้มป่องมากกว่าขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากร่างกายจะต้องกักตุนน้ำไว้เป็นจำนวนมากเพื่อเตรียมขับโซเดียมออกมา หากรู้ตัวว่าชอบรับประทานอาหารเค็มก็ให้รีบลดเสียตั้งแต่วันนี้ ส่วนอาหารที่มีรสหวานจัด มีเกลือและน้ำตาลในปริมาณมากก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน
- ซักถามเกี่ยวกับยาตามใบสั่งทุกครั้งหลังจากไปพบแพทย์ เพราะตัวยาบางชนิดอาจทำให้ร่างกายและใบหน้าของคุณเกิดผลข้างเคียงในการกักเก็บน้ำมากขึ้น และขอให้เปลี่ยนมาใช้ยาที่ไม่ทำให้เกิดอาการบวมน้ำแทน แต่อย่างไรก็ตาม หากตัวยาเหล่านั้นมีความสำคัญต่อการรักษาโรคใด ๆ ของคุณ คุณก็ต้องยอมรับแล้วหันมาลดแก้มด้วยวิธีอื่นต่อไป
- ใช้นิ้วนวดหน้า หลังล้างหน้าตอนเช้าให้นวดปาดเนื้อแก้ม โดยการใช้นิ้วกลางและนิ้วนาง นวดแก้มทั้งสองข้าง โดยเริ่มจากข้างจมูกริมดั้ง ย้อนรูขุมขนขึ้นไปจนถึงเหนือขมับ โดยให้ทำติดต่อกันอย่างต่อเนื่องประมาณ 60-70 ครั้ง หรือทำต่อเนื่องกันประมาณ 1 นาที เวลาทำอย่าลืมเอาฝ่ามือด้านในกวาดเนื้อตรงคางขึ้นไปด้วย หน้าจะดูเรียว ๆ หลังทำครั้งแรกจะรู้สึกได้ว่าหน้าตึง ๆ หนึบ ๆ อ้าปากได้โดยไม่โดนแก้มมายุ้ยที่มุมปาก (ใครที่แก้มยุ้ยคงชินความรู้สึกนี้เนอะ) โดยให้ทำอย่างต่อเนื่องทุก ๆ วัน เมื่อผ่าน 2 อาทิตย์ ก็จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง ท่านี้นอกจากจะช่วยลดแก้มได้แล้วยังช่วยให้ริมฝีปากบนดูหนาขึ้น ทำให้ปากดูสมส่วน แถมจมูกก็ดูชัดขึ้น เนื่องจากแก้มลด อ้อ…ระหว่างทำถ้ามีครีมนวดหน้าก็เอามาประกอบการนวดด้วยก็ได้
- นวดกดจุด ท่านี้ให้คุณใช้นิ้วมือ (ยกเว้นนิ้วโป้ง) วางจุดใกล้เคียงกับปีกจมูก แล้วลากปลายนิ้วขึ้นมาถึงโหนกแก้มพร้อม ๆ กันทั้งสองข้าง ทำซ้ำ 50 ครั้ง หรือประมาณ 1 นาที จะช่วยทำให้แก้มทั้ง 2 ข้างดูกระชับ เข้ากับรูปหน้ามากยิ่งขึ้น
- ฝึกปรับเปลี่ยนใบหน้าอยู่บ่อย ๆ การใช้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าอยู่บ่อย ๆ เช่น การฝึกยิ้มกว้าง ๆ สลับกับการขยับปากเอ อู เอ อู การออกเสียงเอ อู ยาว ๆ การเกร็งย่นใบหน้าแล้วแผ่ออก การทำแก้มพองลมสลับซ้ายขวาอย่างช้า ๆ การอ้าปากค้างไว้แล้วค่อย ๆ คลายลง การอ้าปากให้กว้างที่สุดแล้วดึงปากมาหุ้มฟันไว้และยิ้มให้กว้างที่สุด การดูดแก้มทำปากจู๋ หรือดูดกระพุ้งแก้มแล้วทำค้างไว้สักพัก ก็ช่วยลดไขมันส่วนเกินและอาการบวมของใบหน้าได้ แต่ควรทำเป็นกิจวัตรและสม่ำเสมอวันละหลาย ๆ ครั้ง จึงจะเห็นผล ดังนั้นใครที่ชอบทำหน้านิ่ง ๆ ไม่ขยับปรับเปลี่ยนใบหน้าหรือไม่บริหารกล้ามเนื้อบริเวณหน้า ก็ควรรีบปรับพฤติกรรมโดยด่วน !!
- ลูกกลิ้งนวดหน้า ด้วยการใช้อุปกรณ์นวดหน้ารูปตัว Y ที่มีคุณสมบัติช่วยปรับให้ใบหน้าเรียวเล็ก เพียงแค่หยิบมานวดกลิ้งขึ้น-ลง ตั้งแต่ช่วงกรามไปจนถึงโหนกแก้ม สะดวกตอนไหนก็ทำตอนนั้น แต่ต้องเน้นทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่องวันละ 10-15 นาที จึงจะเห็น
- ทรงผมคนแก้มป่อง การไว้ผมยาวและดัดผมให้พอง ๆ แล้วเอาผมไปไว้ด้านเดียวก็ช่วยทำให้หน้าดูเรียวเล็กขึ้นได้ประมาณหนึ่งนะครับ
- เฉดดิ้ง & ไฮไลต์ กลบแก้มยุ้ย คือ เทคนิคการปรับรูปหน้าที่เป็นการสร้างแสงเงาเพื่อให้หน้าดูมีมิติ ช่วยแก้ไขรูปหน้าให้ดูสวยงามและสมส่วนมากขึ้น โดยจะทำการเฉดดิ้งเพื่ออำพรางจุดด้อย และทำการไฮไลต์เพื่อดึงจุดเด่นบนหน้าให้โดดเด่นออกมา ส่วนเทคนิคการทำอันนี้ต้องถามช่างแต่งหน้าแล้วละครับ เพราะแต่ละรูปหน้าจะใช้เทคนิคไม่เหมือนกัน (ภาพประกอบ : www.manager.co.th)
- จัดฟัน สำหรับบางคน ย้ำนะครับว่า “บางคน” การไปจัดฟันก็อาจทำให้หน้าดูเรียวเล็กลงได้ เพราะจะทำให้แก้มดูตอบลง คางดูยาวขึ้น ส่งผลให้รูปหน้าเปลี่ยนไปเมื่อเปรียบเทียบก่อนไปจัดฟัน แต่ถ้าฟันสวยปกติดีแล้วก็อย่าไปทำเลยครับ เปลืองเงินเปล่า ๆ (ภาพประกอบ : pantip.com by น้องกะตั้ว มั่วแหลกลาน)
- การดูดไขมันที่แก้ม (Vaser Liposelection) เป็นการดูดสลายไขมันโดยใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียง (Ultrasound) เพื่อให้ไขมันเกิดการแตกตัวหรือสลายตัวเป็นไขมันเหลวเพื่อให้ดูดออกมาได้โดยง่าย โดยไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง เช่น เส้นเลือด เส้นประสาท และเนื้อเยื่อเกี่ยวกันอื่น ๆ หลังทำเสร็จจะเห็นความแตกต่างได้ค่อนข้างชัดเจน ส่วนราคาทำต่อครั้งก็ประมาณ 3 หมื่นบาทขึ้นไป (ภาพประกอบ : ww.bloggang.com by sweet natural)
- ฉีดเมโสลดแก้ม (เมโสแฟต) หรือ การฉีดลดแก้ม คือ การกำจัดไขมันและลดเซลลูไลท์ส่วนเกินเฉพาะที่โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด เป็นการฉีดยาที่มีสรรพคุณในการสลายไขมันเข้าไปบริเวณที่ต้องการ โดยใช้กลุ่มยาหลาย ๆ ตัวผสมกันแล้วฉีด เช่น Phosphatidylcholine, L-carnitine, Deoxycholate, Dexpanthenol (B5), Amino acids, Minerals ฯลฯ ซึ่งตัวยาจะเข้าไปทำให้ผนังไขมันเกิดการแตกตัว ไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อนจะสลายออกเป็นไขมันเหลวแล้วถูกขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระ แต่ต้องทำติดต่อกันอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ทำ 2-3 ครั้งก็ควรจะเห็นผลแล้วนะครับ แต่ก็มีหลายคนเหมือนกันนะครับที่ทำจนครบคอร์สแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล ส่วนราคาการทำต่อครั้งหลักพันขึ้นไปครับ (ภาพประกอบ : www.youtube.com by lifestylehattaya70)
- เทอร์มาจลดแก้ม (Thermage) คือ การนำเทคโนโลยีความถี่ของคลื่นวิทยุ (RF – Radiofrequency) เพื่อส่งพลังงานเข้าไปในผิวหนังชั้น Demis โดยคลื่นพลังงานดังกล่าวจะไปสร้างความร้อนอย่างสม่ำเสมอเพื่อลงไปแก้ปัญหาเส้นใยคอลลาเจนที่หย่อนคล้อยขาดการยืดหยุ่น ทำให้โครงสร้างใต้ผิวหนังเกิดการกระชับตัวมากขึ้น และคอลลาเจนจะถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยกระชับผิว แก้มและคางจะค่อย ๆ ยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ ในระยะเวลาการทำ 6 เดือน หลังจากทำจะช่วยทำให้กรอบหน้าดูเรียวกระชับขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอและไม่ทำให้เกิดแผลแต่อย่างใด อีกทั้งยังช่วยทำให้รูขุมขนกระชับขึ้นอีกด้วย แต่ราคาทำต่อครั้งค่อนข้างสูงมากหรือประมาณ 4-5 หมื่นบาทขึ้นไป และอาจต้องทำซ้ำทุก ๆ ปี (ภาพประกอบ : www.manager.co.th by คุณปูเป้)
- ผ่าตัดลดแก้ม คือ การผ่าตัดเอาไขมันที่มีอยู่ในกระพุ้งแก้มออก (ไขมันที่เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดปัญหาแก้มป่อง) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยกำจัดปัญหาแก้มป่องได้เป็นอย่างดีและให้ผลถาวร เหมาะกับผู้ที่แม้จะลดน้ำหนักตัวลงแล้วก็ตาม แต่แก้มก็ยังป่องบวมอยู่เหมือนเดิม แต่ในกรณีนี้แพทย์อาจต้องพิจารณาเรื่องพันธุกรรมด้วย เพราะในความเป็นจริงไขมันที่แก้มจะลดลงไปตามช่วงอายุอยู่แล้ว หากทำการผ่าตัดไปและภายหลังคนไข้มีรูปหน้าที่ลดลงเองตามธรรมชาติ ประกอบกับผ่านการเลาะกระพุ้งแก้มแล้วก็อาจทำให้ประสบกับปัญหาแก้มตอบได้ เพราะฉะนั้นวิธีนี้จึงเหมาะกับคนไข้ที่อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปและมีปัญหาแก้มป่องมาจากพันธุกรรมมากกว่า ส่วนขั้นตอนการผ่าตัดนั้นแพทย์จะฉีดยาชาตรงบริเวณที่จะผ่าตัด และเริ่มเปิดแผลตรงฟันกรามซี่หนึ่งของฟันบนที่อยู่บริเวณกระพุ้งแก้ม แล้วลากลงมาเป็นเส้นตรงประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร โดยจะผ่านกล้ามเนื้อชิ้นเล็ก ๆ บาง ๆ ก่อน จากนั้นจะพบกลุ่มก้อนไขมัน แล้วค่อย ๆ เลาะโดยรอบของพวงไขมันนั้น ซึ่งอาจจะทำการตัดออกเพียงบางส่วนหรือตัดออกทั้งพวง (ในกรณีที่คนไข้มีไขมันที่เหลือรอบ ๆ มาก แพทย์อาจจะใช้วิธีการดูดไขมันร่วมด้วย โดยใช้ท่อดูดไขมันผ่านแผลในช่องปาก) จากนั้นจะจี้ไฟฟ้าตรงจุดที่ผ่าตัดเพื่อทำให้เลือดหยุดไหล แล้วปิดเย็บปากแผลโดยใช้ไหมละลาย ซึ่งรวมแล้วแพทย์จะใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้วคนไข้ก็สามารถกลับบ้านได้เลย (ภาพประกอบ : www.drkbeauty.com)
- โบทอกซ์แก้ม (Botox) เป็นการฉีดโบทอกซ์ลดกรามเพื่อทำการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กก่อน แล้วทำการฉีดโบทอกซ์เพื่อลิฟต์แก้มให้หน้าดูกระชับขึ้นอีกที วิธีนี้จะช่วยทำให้หน้าของคุณดูเรียวเล็กและแก้มดูกระชับขึ้นได้ แม้มันจะช่วยอะไรไม่ได้มากเท่าไร เนื่องจากไม่ใช่วิธีลดแก้มโดยตรง ถ้าคุณจะโบทอกซ์เพื่อการนี้ผมก็ไม่แนะนำนะครับ แต่ถ้าคุณมีแผนจะฉีดกรามหรือฉีดลิฟต์หน้าอยู่แล้วก็จัดไปครับ เพราะมันจะช่วยทำให้รูปหน้าของคุณดูเป๊ะขึ้นเท่านั้น แต่สำหรับบางคนที่ทำแล้วก็อาจจะไม่เห็นผลถึงความแตกต่างระหว่างก่อนทำและหลังทำก็ได้ ยังไงคุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าสมควรทำหรือไม่ กรณีหน้าของคุณ มันช่วยได้มากน้อยเพียงใด เพราะหมอบางท่านอาจแนะนำให้ใช้วิธีอื่น ๆ ตามที่กล่าวมาแล้วมากกว่า
- ร้อยไหมลดแก้ม คือ การใช้ไหมทางการแพทย์เพื่อช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนยานให้ตึงกระชับ เหมาะสำหรับคนแก้มยุ้ยที่สวยอยู่แล้ว มีแก้มเล็กน้อย หน้าไม่ใหญ่มาก แต่ต้องการเพิ่มความเป๊ะมากขึ้นเช่นเดียวกับการฉีดโบทอกซ์ (ภาพจาก : www.manager.co.th)
- ฟิลเลอร์เติมคาง แม้จะไม่ใช่วิธีการลดแก้มโดยตรง แต่การฉีดฟิลเลอร์เติมบริเวณคางก็ช่วยปรับรูปหน้าโดยรวมของคุณได้ หลังการฉีดจะทำให้คางของคุณดูคมขึ้นและหน้าดูเรียวยาวขึ้นเป็นรูปตัววี (V) ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนและไม่ดูกลมเป็นลูกซาลาเปาอีกต่อไป
- ทำให้หน้าเรียว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ถ้าหากหน้าคุณเรียวขึ้น ก็ช่วยทำให้แก้มคุณดูเล็กลงได้ อ่านได้ที่นี่ 16 วิธีทำให้หน้าเรียว !!
- พกความมั่นใจ สาว ๆ หลายคนที่มีหุ่นดีเป็นทุนอยู่แล้วหรือตัวเล็กแต่แก้มใหญ่ อาจจิตตกคิดไปเองว่าหน้าฉันใหญ่และบานมากจนเกินไป ทำให้คนอื่นมองเราไม่สวย และต้องหันไปหาหมอเพื่อเสียเงินเป็นหมื่นเป็นแสน แต่คนอื่น ๆ รอบข้างคุณอาจจะไม่ได้คิดแบบนั้นก็ได้นะครับ หรือถ้าจะให้ดีก็ลองถามเพื่อนและคนรอบข้างของคุณดูก็ได้ครับว่ามันใหญ่มากเกินไปรึเปล่า ส่วนตัวผมเองยังชอบคนมีแก้มเลยครับ แก้มป่อง ๆ ดูเด็กและน่ารักดี เวลาหอมแล้วมันชื่นใจ เพราะฉะนั้น ถ้าแก้มของคุณไม่ได้ใหญ่มากจนเกินไปก็ขอให้มั่นใจเข้าไว้ และไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรครับ เพราะมีแก้มจะทำให้ดูเด็กลง 5 ปี แต่ถ้าแก้มหายจนหน้าตอบหน้าจะแก่มากขึ้นไป 5 ปีเลยนะครับ บอกเลยยย
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)