10 อันดับเครื่องดื่มวิตามินซี 200% ดีจริงหรือ ยี่ห้อไหนอร่อย ?

เครื่องดื่มวิตามินซี 200%

ปัจจุบันเครื่องดื่มที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและมีการเติบโตทางการตลาดสูงก็คือ “เครื่องดื่มผสมวิตามินซี” ซึ่งจัดเป็นเครื่องดื่มประเภทฟังก์ชันนัล (Functional Drinks) หรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ (Health Beverage)

โดยเครื่องดื่มเหล่านี้มักจะมีการกล่าวอ้างสรรพคุณว่าช่วยเพิ่มเติมสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในแต่ละวัน เช่น เสริมกรดอะมิโน เสริมคอลลาเจน วิตามินบีรวมต่าง ๆ รวมไปถึงสารสกัดจากสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการป้องกันโรคต่าง ๆ และสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระซึ่งเน้นเป็นจุดขาย แต่การดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ร่างกายจะได้รับประโยชน์ตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ ? บทความนี้มีคำตอบครับ…

เครื่องดื่มผสมวิตามินซี 200% คืออะไร ?

เครื่องดื่มวิตามินซี 200% หรือ เครื่องดื่มวิตามินซี 2 เท่า คือ เครื่องดื่มที่ระบุว่ามีปริมาณวิตามินซีต่อขวดเท่ากับ 120 มิลลิกรัม หรือคิดเป็น 2 เท่า หรือ 200% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน ซึ่งปริมาณวิตามินซีที่แนะนำขั้นต่ำต่อวันก็คือ 60 มิลลิกรัม (อ้างอิงจากค่า Thai RDI ซึ่งเป็นค่าปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวันสำหรับคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป) ส่วนความต้องการวิตามินซีขั้นต่ำต่อวันถ้าแยกตามเพศและวัยแล้วจะมีความต้องการแตกต่างกันไปดังนี้ครับ

• เด็กวัยรุ่นอายุ 9-13 ปี : 45 มิลลิกรัม
• เด็กวัยรุ่นอายุ 14-18 ปี : 65-75 มิลลิกรัม
• ผู้ใหญ่ (หญิง) : 75 มิลลิกรัม
• ผู้ใหญ่ (ชาย) : 90 มิลลิกรัม
• หญิงตั้งครรภ์ : 85 มิลลิกรัม
• หญิงให้นมบุตร : 120 มิลลิกรัม
• ผู้สูบบุหรี่ : ควรได้รับเพิ่มขึ้นกว่าผู้ที่ไม่สูบประมาณ 35 มิลลิกรัม/วัน เช่น ผู้ใหญ่ชายที่สูบบุหรี่ควรได้รับวิตามินซีขั้นต่ำวันละ 125 มิลลิกรัม

เห็นได้ว่าในผู้ใหญ่ ผู้สูบบุหรี่ หญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร ร่างกายจะต้องได้รับวิตามินซีเพิ่มขึ้นอีกจากปริมาณที่แนะนำต่อวัน และในอนาคตทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจะมีการปรับปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับขั้นต่ำจากวันละ 60 มิลลิกรัม เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 90-100 มิลลิกรัมด้วยครับ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้รับปริมาณวิตามินซีที่เพียงพอมากขึ้นนั่นเอง

“สำหรับผู้ที่รับประทานผักหรือผลไม้จำพวกที่มีรสเปรี้ยวเป็นประจำอยู่แล้ว เช่น ส้ม, ฝรั่ง, ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่, มะเขือเทศ, ผักหวาน, ผักคะน้า, ผักโขม, กะหล่ำ, ดอกกะหล่ำ, ถั่วฝักเขียว, มันเทศ, มันฝรั่ง ฯลฯ คุณอาจไม่จำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มผสมวิตามินซี 200% เลยก็ได้ครับ”

เครื่องดื่มผสมวิตามินซี 200% ดีจริงหรือ ?

วิตามินซี (Vitamin C) เป็นวิตามินชนิดที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้และยังมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ป้องกันอาการเลือดออกตามไรฟัน ช่วยร่างกายสังเคราะห์คอลลาเจน ช่วยต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย บรรเทาอาการภูมิแพ้ บรรเทาอาการความรุนแรงของอาการหวัด มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวหรือเมลานิน (โดยลดจำนวนสารโอควิโนนที่ทำให้เปลี่ยนไปเป็นเม็ดสีผิวที่ทำให้ผิวคล้ำลดลง) ช่วยปกป้องรังสี UV จากแสงแดดที่ทำให้ผิวคล้ำลงได้ ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ร่างกายจึงควรได้รับวิตามินซีขั้นต่ำต่อวันไม่น้อยกว่า 60 มิลลิกรัม หรือควรอยู่ในช่วง 100-200 มิลลิกรัมสำหรับผู้ใหญ่

หลายคนอาจสงสัยว่า วิตามินซีขนาด 120 มิลลิกรัม/วัน นั้นสามารถหวังผลเรื่องสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันได้มากน้อยแค่ไหน ? ตรงนี้ถ้าพูดตามตรงก็ต้องบอกว่า “ปริมาณที่ร่างกายได้รับยังไม่มากพอที่จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้ และประโยชน์ที่ร่างกายได้รับอาจจะไม่คุ้มเสียเท่าไหร่ครับ เนื่องจากเครื่องดื่มเหล่านี้มักมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง (ตั้งแต่ 2-9 ช้อนชา จากคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกที่แนะนำให้บริโภคน้ำตาลจากอาหารทุกชนิดรวมกันไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน) ซึ่งการบริโภคน้ำตาลสูงบ่อย ๆ จะส่งผลเสียต่อร่างกายหลายอย่างไม่ใช่แค่เรื่องเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน เช่น เกิดไขมันสะสมน้ำหนักตัวเพิ่ม ภาวะเลือดเป็นกรด ความดันเลือดสูง ปวดไมเกรน เป็นสิว หน้าแก่ก่อนวัย เป็นตะคริวบ่อย กระดูกเปราะและฟันผุในเด็ก เสี่ยงโรคซึมเศร้า เสี่ยงโรคหัวใจ เสี่ยงมะเร็ง กระตุ้นความรุนแรงของโรคที่เป็นอยู่ให้เพิ่มขึ้น ฯลฯ” (นอกจากเรื่องของน้ำตาลที่ควรระวังแล้ว ผู้บริโภคควรดูข้อมูลการใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลเพิ่มเติมด้วย เพราะสารให้ความหวานแทนน้ำตาลบางชนิดไม่เหมาะกับผู้ป่วยบางประเภท เช่น โรคฟีนิลคีโตนูเรีย (Phenylketonuria))

แต่ถ้าคุณผู้อ่านอยากดื่มบ้างเป็นบางครั้งบางคราวเพราะชอบในเรื่องของรสชาติและร่างกายได้รับวิตามินซีด้วย แบบนี้มันก็ได้ครับไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะดื่มทุกวันเพื่อหวังเรื่องสุขภาพหรือดื่มเช้าดื่มเย็นแบบนี้ไม่แนะนำเลยครับ เพราะการจะทานวิตามินซีเพื่อเสริมสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันได้จริง ๆ นั้นจะต้องทานให้ได้อย่างน้อยวันละ 500 มิลลิกรัม และยิ่งสถานการณ์ในบ้านเราตอนนี้ที่เกือบทั้งปีจะเต็มไปด้วยปัญหาของฝุ่นควัน PM 2.5 ความสะอาดในบ้านเมืองก็มีน้อย เชื้อโรคก็มาก (โดยเฉพาะเชื้อ COVID-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในช่วงนี้) และทุกปีอัตราการเป็นโรคติดต่อทางลมหายใจก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ขนาดที่แนะนำให้ทานเพื่อสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วยเป็นวันละ 1,000 มิลลิกรัม (แต่ใครที่หวังผลเรื่องความงามอยากให้ผิวพรรณกระจ่างใสอันนี้ต้องรับประทานวิตามินซีให้ได้ในขนาดวันละ 2,000 มิลลิกรัมเลยครับ)

สำหรับผู้ที่อยากทานวิตามินซีจริง ๆ เพื่อหวังผลเรื่องสุขภาพ เสริมภูมิคุ้มกัน และหวังเรื่องความงามผิวพรรรณด้วย ถ้าคุณชอบทานวิตามินซีในรูปแบบน้ำก็ขอแนะนำเป็นวิตามินซีแบบผงใช้ชงผสมกับน้ำดื่มครับ ซึ่งก็เป็นวิตามินซีอีกรูปแบบที่กำลังได้รับความนิยมเช่นกัน เพราะให้ปริมาณวิตามินซีเทียบเท่ากับแบบเม็ดและไม่เสื่อมสลายได้เหมือนเครื่องดื่มวิตามินซีสำเร็จรูป แต่การเลือกทานก็ควรเลือกยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน และไม่มีน้ำตาลด้วยนะครับ เช่น แนท-ซี เอสเตอร์ (NAT-C ESTER) ที่ทางเว็บเคยเขียนรีวิวไป และคะแนนโดยรวมก็ไม่ได้ด้อยกว่าวิตามินซีแบบเม็ดเลย เพราะตัวนี้นอกจากจะให้วิตามินซี 1,000 มิลลิกรัมแล้ว มันยังมีส่วนผสมของไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoids) ที่ช่วยให้วิตามินซีดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้นด้วย ถ้าวันไหนรีบๆ ก็สามารถฉีกซองใส่ขวดน้ำเขย่าดื่มได้เลย ตรงนี้ร่างกายก็จะได้รับประโยชน์และหวังผลเรื่องสุขภาพได้ในราคาต่อดื่มที่ถูกกว่าอย่างแน่นอน แต่จะติดตรงที่ว่ามันไม่ได้อร่อยเท่าเครื่องดื่มวิตามินซีสำเร็จรูปที่ใส่น้ำตาลเท่านั้นเองครับ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง : วิตามินซี (Vitamin C) กับประโยชน์ทางการแพทย์

เครื่องดื่มผสมวิตามินซี 200% มีวิตามินซีครบตามที่อ้างหรือไม่ ?

ด้วยวิตามินซีเป็นวิตามินที่สลายตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสกับแสงและความร้อน ! หลายคนจึงสงสัยว่า การดื่มเครื่องดื่มผสมวิตามินซี 200% ที่มักจะเป็นขวดใสและผ่านการขนส่งที่อาจโดนความร้อนทั้งวัน ตัววิตามินซีจะไม่เสื่อมสลายไปหมดหรือ แล้วร่างกายจะได้รับวิตามินซีครบถ้วนตามปริมาณที่ระบุไว้ข้างขวดหรือไม่ ?

คำตอบก็คือ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เราบริโภคครับ “เพราะจากการทดสอบของนิตยสารฉลาดซื้อร่วมกับโครงการสนับสนุนระบบการเฝ้าระวังสินค้าและบริการเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพที่ได้ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างเครื่องดื่มผสมวิตามินซีจำนวน 21 ตัวอย่าง ส่งห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์หาปริมาณวิตามินซี ผลการตรวจก็พบว่า เครื่องดื่มผสมวิตามินซี 200% ส่วนใหญ่มีปริมาณวิตามินซีถึงตามที่ระบุไว้จริงครับ แต่บางยี่ห้อก็ตรวจไม่พบวิตามินซีเลยก็มี” (ผลการทดลองจากนิตยสารฉลาดซื้อฉบับที่ 233)

สาเหตุที่วิตามินซีในเครื่องดื่มเหล่านี้ไม่เสื่อมสลายไปนั้นก็เป็นเพราะว่า ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่มีการเติมวิตามินซีเข้าไปนั้นไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มหรือเครื่องสำอางต่าง ๆ มันไม่ใช่วิตามินซีแท้ ๆ ครับ จริง ๆ แล้วต้องเรียกว่าเป็น “อนุพันธ์” (Derivative) ของวิตามินซีมากกว่า ซึ่งมันจะมีความเสถียร และความทนทานมากกว่าวิตามินซีปกติมาก ถ้าจะให้อธิบายง่าย ๆ ก็คือ มันเป็นการนำสารตัวนั้นมาเปลี่ยนแปลงหมู่ฟังก์ชั่นแค่บางหมู่ เพื่อให้สารตัวนั้นมันคงสภาพได้ โดยที่ยังคงมีคุณสมบัติและโครงสร้างใกล้เคียงกับตัวตั้งต้น ซึ่งอนุพันธ์ของวิตามินซีที่ใส่เข้าไปในเครื่องดื่มนี้ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะมีเอนไซม์ที่เข้าไปจัดการเปลี่ยนหมู่ฟังก์ชั่นของอนุพันธ์จนกลับไปเป็นวิตามินซีตัวเดิมได้ แล้วร่างกายจึงนำไปใช้งานได้นั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ระหว่างการบรรจุและขนส่ง วิตามินซีอาจมีการสูญสลายไปได้บ้างเป็นปกติ จึงทำให้แต่ละยี่ห้อหรือแม้แต่ยี่ห้อเดียวกันแต่ต่างรสชาติกันก็ยังมีปริมาณวิตามินซีไม่เท่ากันได้ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติครับ

รีวิวและจัดอันดับน้ำดื่มผสมวิตามินซี 200%

การจัดอันดับและรีวิวน้ำดื่มผสมวิตามินซีในบทความนี้ ทางเราพยายามเลือกซื้อมาเฉพาะเครื่องดื่มผสมวิตามินซีที่เป็นวิตามินซี 200% เท่านั้น และเลือกเฉพาะยี่ห้อที่เป็นที่นิยมและสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไป เช่น 7-11, Tesco Lotus, Tops ส่วนเกณฑ์การให้คะแนนเพื่อใช้ในการจัดอันดับนั้น หลัก ๆ เราจะมีเกณฑ์การให้คะแนนหลัก ๆ อยู่ 4 อย่างครับ (คะแนนเต็ม 40 คะแนน) คือ

1. รสชาติ : คะแนนเต็ม 10 เป็นการทดลองชิมกันเองจากทีมงาน 4-5 คน แน่นอนครับว่าความชอบของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน อย่าไปซีเรียสกันมากครับ
2. ปริมาณวิตามินซีที่ตรวจพบ : ตรงนี้เราจะอ้างอิงจากผลการทดสอบของนิตยสารฉลาดซื้อเป็นหลัก มีคะแนนเต็ม 10 โดย 10 คะแนนจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตรวจพบว่ามีวิตามินซีสูงสุด, 5 คะแนนคือผ่านเกณฑ์ (ตรวจพบวิตามินซี 120 มิลลิกรัมตามที่ระบุ) และ 0 คะแนนคือตรวจไม่พบปริมาณวิตามินซี
3. จุดเด่น/จุดด้อย : ตรงนี้เราจะดูหลายอย่างครับ ตั้งแต่ตัวผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบที่ใช้ ปริมาณน้ำตาล แคลอรี่ โซเดียม รวมถึงส่วนผสมของวิตามินหรือสมุนไพรอื่น ๆ ที่น่าสนใจ มีคะแนนเต็ม 10 เช่นกัน
4. ราคา : คะแนนเต็ม 10 โดยการให้คะแนนจะแบ่งเป็นราคาต่อขวด และราคาต่อปริมาณแยกกันอย่างชัดเจน

หมายเหตุ : ทุกยี่ห้อที่รีวิวนี้ทางเราไม่ได้รับสปอนเซอร์ใด ๆ ทั้งสิ้นนะครับ เพียงแต่เราเห็นว่าหัวข้อนี้น่าสนใจและน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคที่ชอบดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้อยู่ครับ

อันดับ 1 : วู้ดดี้ ซี+ ล็อค (WOODY C+ LOCK)

วู้ดดี้ ซี+ ล็อค (Woody C+ Lock) เครื่องดื่มวิตามินซี 200% ที่มีส่วนผสมของโรสฮิป (Rose Hip) ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินซีจากธรรมชาติ มาในขวดแก้วสีเขียวป้องกันแสงและฝาล็อคแบบพิเศษอัดล็อค 2 ชั้น เพื่อช่วยคงความเข้มข้นของวิตามินซี ยี่ห้อนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 รส คือ รสเลมอน และรสส้ม

• รสชาติ : 7/10 คะแนน คะแนนวัดจากรสเลมอน (ผ่านแต่ติดมีรสคล้ายยาเล็กน้อย) ส่วนรสส้มไม่ผ่าน (คล้ายรสยามาก)
• ปริมาณวิตามินซีที่ตรวจพบ : 10/10 คะแนน (ผ่าน : ตรวจพบวิตามินซีสูงกว่าปริมาณที่ระบุไว้มาก)
• จุดเด่น/จุดด้อย : 8.6/10 คะแนน
  • ขวดแก้วสีเขียวป้องกันแสงและฝาล็อคแบบพิเศษอัดล็อค 2 ชั้น
  • วิตามินซีจากโรสฮิป (Rose Hip) ที่มีวิตามินซีสูงกว่าผลไม้ตระกูลส้มถึง 20 เท่า
  • จากผลการทดสอบยี่ห้อนี้ตรวจพบปริมาณวิตามินซีสูงที่สุด
  • มีส่วนผสมของซิงค์ 35% (คำนวณจากร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน)
  • มีน้ำตาล 6 กรัม / โซเดียม 45-80 มิลลิกรัม / พลังงาน 30 กิโลแคลอรี่
• ราคา : 5.866/10 คะแนน
  • ราคาต่อขวด : 4/5 คะแนน (ขวดละ 15 บาท)
  • ราคาต่อปริมาณ : 1.866/5 คะแนน (ปริมาณ 140 มล.)
• คะแนนรวม : 31.466 /40 คะแนน

อันดับ 2 : ไฮ่! (Hi!)

ไฮ่! (Hi!) เครื่องดื่มวิตามินซี 200% ผสมน้ำผลไม้แท้ที่การันตีความอร่อยระดับโลก (Superior Taste) จากสถาบัน iTQi มีด้วยกัน 3 รส คือ รสส้ม รสเลมอน และรสมิกซ์เบอร์รี่

• รสชาติ : 9/10 คะแนน
  • โดยรวมแล้วเป็นยี่ห้อที่อร่อยที่สุดของทั้ง 3 รสเลยครับ (เพียงแต่ยังสู้รสพีชผสมลิ้นจี่ของยี่ห้อ Double C ไม่ได้) คือแล้วแต่เลยครับว่าเราชอบรสไหน
• ปริมาณวิตามินซีที่ตรวจพบ : 6.2/10 คะแนน (ผ่าน : ตรวจพบวิตามินซีสูงกว่าปริมาณที่ระบุไว้มาก)
• จุดเด่น/จุดด้อย : 7.4/10 คะแนน
  • ผสมน้ำผลไม้แท้และการันตีความอร่อยระดับโลกจากสถาบัน iTQi
  • เฉพาะรสมิกซ์เบอร์รี่มีส่วนผสมของซิงค์ 50%, วิตามินบี 6 50%, วิตามินบี 12 60% (คำนวณจากร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน)
  • มีน้ำตาล 7-8 กรัม / โซเดียม 20-25 มิลลิกรัม / พลังงาน 45 กิโลแคลอรี่
• ราคา : 6/10 คะแนน
  • ราคาต่อขวด : 4/5 คะแนน (ขวดละ 15 บาท)
  • ราคาต่อปริมาณ : 2/5 คะแนน (ปริมาณ 150 มล.)
• คะแนนรวม : 28.6 /40 คะแนน

อันดับ 3 : ดับเบิ้ล ซี (Double C)

ดับเบิ้ล ซี (Double C) เครื่องดื่มวิตามินซี 200% จากผลไม้ 2 ชนิด รวม 4 สูตร คือ รสเลมอนผสมมะนาว, รสส้มผสมเลมอน, รสพีชผสมลิ้นจี่ และรสองุ่นแดงผสมองุ่นขาว

• รสชาติ : 10/10 คะแนน
  • ส่วนตัวรสพีชผสมลิ้นจี่นี่คืออร่อยที่สุดของน้ำดื่มวิตามินซี 200% เลยครับ ส่วนรสองุ่นแดงผสมองุ่นขาวถ้าเป็นคนชอบองุ่นก็ใช้ได้เช่นกัน แต่อีก 2 รสที่เหลือนี่ยังไม่อร่อยครับ รสเลมอนผสมมะนาวจะเปรี้ยวเกินไป ส่วนรสส้มผสมเลมอนก็ออกแนวปะแล่ม ๆ ไม่เป็นธรรมชาติ
• ปริมาณวิตามินซีที่ตรวจพบ : 3.44/10 คะแนน (ไม่ผ่าน : ตรวจพบวิตามินซีน้อยกว่าปริมาณที่ระบุ คือ 82.56 มิลลิกรัม)
• จุดเด่น/จุดด้อย : 8.33/10 คะแนน
  • เครื่องดื่มสูตรผสมจากผลไม้ 2 ชนิด ที่มีให้เลือกหลายรสชาติ
  • ส่งรหัสหลังฉลากล้นรางวัล (ทริปเที่ยวมัลดีฟส์หรือตุรกี)
  • รสพีชผสมลิ้นจี่มีน้ำตาลน้อยสุด 4 กรัม และพลังงาน 25 กิโลแคลอรี่
  • มีน้ำตาล 4-7 กรัม / โซเดียม 45-65 มิลลิกรัม / พลังงาน 25-35 กิโลแคลอรี่
• ราคา : 5.482/10 คะแนน
  • ราคาต่อขวด : 3.6/5 คะแนน (ขวดละ 17 บาท)
  • ราคาต่อปริมาณ : 1.882/5 คะแนน (ปริมาณ 160 มล.)
• คะแนนรวม : 27.252 /40 คะแนน

อันดับ 4 : วิต อะ เดย์ (VITADAY)

วิต อะ เดย์ (VITADAY) เครื่องดื่มวิตามินซี 200% ที่ใช้วิตามินซีนำเข้าจากประเทศอังกฤษที่ได้รับการรับรองว่าเป็นวิตามินซีคุณภาพ ผลิตโดยบริษัท เจนเนอรัล เบฟเวอร์เรจ มีให้เลือกดื่มด้วยกัน 2 รส คือ รสส้ม และรสเลมอน

• รสชาติ : 7/10 คะแนน
  • คะแนนนี้วัดจากรสเลมอนที่อร่อยสุดของยี่ห้อนี้ ส่วนรสส้มก็พอใช้ได้เหมือนกัน
• ปริมาณวิตามินซีที่ตรวจพบ : 5.58/10 คะแนน (ผ่าน : ตรวจพบวิตามินซีสูงกว่าปริมาณที่ระบุ)
• จุดเด่น/จุดด้อย : 7.16/10 คะแนน
  • วิตามินซีนำเข้าจากประเทศอังกฤษ
  • มีน้ำตาล 6-8 กรัม / โซเดียม 60-85 มิลลิกรัม / พลังงาน 35 กิโลแคลอรี่
• ราคา : 6/10 คะแนน
  • ราคาต่อขวด : 4/5 คะแนน (ขวดละ 15 บาท)
  • ราคาต่อปริมาณ : 2/5 คะแนน (ปริมาณ 150 มล.)
• คะแนนรวม : 25.74 /40 คะแนน

อันดับ 5 : สปอนเซอร์ แอคทีฟ วิตามินซี

สปอนเซอร์ แอคทีฟ วิตามินซี (SPONSOR active High Vitamin C 200%) เครื่องดื่มรสมะนาวผสมวิตามินซี 200% ออกเป็นเครื่องดื่มแนวสปอร์ตดริ้งค์ที่ช่วยชดเชยน้ำและเกลือแร่ในระหว่างออกกำลังกายและให้วิตามินซีด้วย

• รสชาติ : 6/10 คะแนน
  • รสชาติพอผ่านนะครับ แต่ยังเทียบรสออริจินัลของสปอนเซอร์ไม่ได้
• ปริมาณวิตามินซีที่ตรวจพบ : 4.3/10 คะแนน (ไม่ผ่าน : ตรวจพบวิตามินซีน้อยกว่าปริมาณที่ระบุไว้เล็กน้อย คือ 102.89 มิลลิกรัม แต่ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ปริมาณวิตามินซีไม่ควรน้อยกว่า 30% หรือ 84 มิลลิกรัม)
• จุดเด่น/จุดด้อย : 3.933/10 คะแนน
  • เครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี
  • มีราคาต่อขวดต่อปริมาณถูกที่สุด
  • ส่งรหัสใต้ฝาลุ้นรางวัล (แพ็คเกตเชียร์ฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศและท่องเที่ยวญี่ปุ่น, ทองคำ, โทรศัพท์มือถือ)
  • มีน้ำตาล 19 กรัม / โซเดียม 135 มิลลิกรัม / พลังงาน 80 กิโลแคลอรี่
• ราคา : 10/10 คะแนน
  • ราคาต่อขวด : 5/5 คะแนน (ขวดละ 10 บาท)
  • ราคาต่อปริมาณ : 5/5 คะแนน (ปริมาณ 250 มล.)
• คะแนนรวม : 24.233 /40 คะแนน

อันดับ 6 : เพรส แอนด์ เชค วิตามินซี.200%

เพรส แอนด์ เชค วิตามินซี.200% (PRESS AND SHECK VITAMIN C.200%) วิตามินซีที่มารูปของผงในฝาขวด ! งงใช่ไหมล่ะครับ คือ พอแกะซองออกมามันจะเป็นฝาพลาสติกสีขาวที่ข้างในมีผงวิตามินซีผสมอยู่ครับ วิธีการใช้ก็คือ เอาฝานี้ไปใส่แทนฝาน้ำเปล่าเดิม (1 ฝาใช้ผสมกับน้ำเปล่า 350-600 มล.) แล้วกดบนฝาให้ผงวิตามินหล่นลงน้ำ จากนั้นก็เขย่าขวดแล้วเปิดฝาดื่ม ก็ดูเหมือนง่ายไปอีกแบบครับ ยี่ห้อนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 รส คือ รสเลมอน, รสน้ำผึ้งมะนาว และรสส้ม หาซื้อได้เฉพาะที่ร้าน 7-11

• รสชาติ : 7.5/10 คะแนน รสชาติถือว่าใช้ได้ครับ คล้ายเกลือแร่ผงทั่วไปแต่ตัวนี้ทำรสชาติได้อร่อยกว่า แต่มีข้อเสีย คือหลังกินเสร็จแล้วมันรู้สึกฝืด ๆ คอครับ
• ปริมาณวิตามินซีที่ตรวจพบ : 5/10 คะแนน (ไม่มีผลการทดสอบ : เป็นคะแนนจากการคาดการณ์ เนื่องจากตัววิตามินซีในรูปแบบผงจะเสื่อมสลายได้ยาก)
• จุดเด่น/จุดด้อย : 7.7/10 คะแนน
  • ผลิตภัณฑ์มารูปของผงในฝาขวดใช้ผสมกับน้ำดื่มที่อาจช่วยคงคุณภาพของวิตามินซีได้ แต่ก็เพิ่มความยุ่งยากในการดื่มเช่นกัน
  • หลังดื่มเสร็จค่อนข้างรู้สึกฝืดคอ
  • มีน้ำตาล 0 กรัม (ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล)
  • มีโซเดียม 80 มิลลิกรัม / พลังงาน 10 กิโลแคลอรี่
• ราคา : 4/10 คะแนน
  • ราคาต่อดื่ม : 4/5 คะแนน (กล่องละ 15 บาท)
  • ราคาต่อปริมาณ : 0/5 คะแนน (เตรียมน้ำดื่มชงเอง)
• คะแนนรวม : 24.2 /40 คะแนน

อันดับ 7 : ซีวิท (C-vitt)

ซีวิท (C-vitt) เครื่องดื่มวิตามินซี 200% ยอดนิยม ยี่ห้อแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง มีให้เลือก 3 รสชาติ คือ รสส้ม รสเลมอน และรสทับทิม ได้รับการรับรองคุณภาพจากประเทศญี่ปุ่น

• รสชาติ : 4/10 คะแนน
  • จากที่ลองมา 3 รส ไม่มีรสไหนผ่านเลย ถ้าเรียงลำดับจากที่ชอบมากไปน้อยจะเป็นรสส้ม (รสพอได้ แต่รสชาติออกแนวน้ำส้มสำเร็จรูป) > รสเลมอน (ไม่อร่อย รสไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ) > รสทับทิม (เหมือนรสยา)
• ปริมาณวิตามินซีที่ตรวจพบ : 6.57/10 คะแนน (ผ่าน : ตรวจพบวิตามินซีสูงกว่าปริมาณที่ระบุไว้มาก)
• จุดเด่น/จุดด้อย : 7.4/10 คะแนน
  • เฉพาะรสส้มมีส่วนผสมของวิตามินเอ 20% (คำนวณจากร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน)
  • มีน้ำตาล 7 กรัม / โซเดียม 95-105 มิลลิกรัม / พลังงาน 35 กิโลแคลอรี่
• ราคา : 5.5/10 คะแนน
  • ราคาต่อขวด : 3.8/5 คะแนน (ขวดละ 16 บาท)
  • ราคาต่อปริมาณ : 1.7/5 คะแนน (ปริมาณ 140 มล.)
• คะแนนรวม : 23.47 /40 คะแนน

อันดับ 8 : คิวมินซี (QminC)

คิวมินซี (QminC) เครื่องดื่มขมิ้นชันที่ไม่มีกลิ่นฉุนหรือรสชาติของขมิ้นมากวนใจ เครื่องดื่มยี่ห้อนี้มีส่วนผสมหลายอย่างตั้งแต่แอล-ออร์นิทีน, แอล-กลูตาไธโอน, วิตามินบี 6, วิตามินบี 12, วิตามินซี 200% และโดยเฉพาะขมิ้นชันที่ทางบริษัทโฆษณาว่ามีเทคโนโลยีในการสกัดสารให้มีอนุภาคเล็ก (NANO LIPOSOME) ที่จะช่วยให้ร่างกายดึงสารอาหารไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว

• รสชาติ : 7.5/10 คะแนน
  • ส่วนตัวรสชาติใช้ได้เลยนะครับ คล้าย ๆ เครื่องดื่มชูกำลังที่มีอาฟเตอร์เทสเป็นรสส้ม แต่ถ้าคนไม่ชอบรสแนวเครื่องดื่มชูกำลังก็อาจจะรู้สึกว่าไม่อร่อยครับ
• ปริมาณวิตามินซีที่ตรวจพบ : 4.83/10 คะแนน (ไม่ผ่าน : ตรวจพบวิตามินซีน้อยกว่าปริมาณที่ระบุไว้เล็กน้อย คือ 115.89 มิลลิกรัม แต่ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ปริมาณวิตามินซีไม่ควรน้อยกว่า 30% หรือ 84 มิลลิกรัม)
• จุดเด่น/จุดด้อย : 7.56/10 คะแนน
  • ขมิ้นชันและแอล-กลูตาไธโอนนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น
  • มีส่วนประกอบสำคัญอื่น ๆ นอกจากวิตามินซี คือ ขมิ้นชัน 0.3%, แอล-ออร์นิทีน 0.067%, แอล-กลูตาไธโอน 0.033%
  • มีส่วนผสมของแคลเซียม 2%, วิตามินบี 6 120%, วิตามินบี 12 80% (คำนวณจากร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน)
  • มีน้ำตาล 8 กรัม / โซเดียม 100 มิลลิกรัม / พลังงาน 40 กิโลแคลอรี่
• ราคา : 2.2/10 คะแนน
  • ราคาต่อขวด : 1/5 คะแนน (ขวดละ 25 บาท)
  • ราคาต่อปริมาณ : 1.2/5 คะแนน (ปริมาณ 150 มล.)
• คะแนนรวม : 22.76 /40 คะแนน

อันดับ 9 : แมนซั่ม วิตามินซีและบีรวม

แมนซั่ม วิตามินซีและบีรวม (MANSOME Vitamin C-B Complex) เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของวิตามินซี 200%, วิตามินบีรวม (B3, B6, B12) และสังกะสี

• รสชาติ : 5/10 คะแนน รสชาติพอผ่าน ออกรสหวานนำ ตามด้วยรสเลมอนที่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่
• ปริมาณวิตามินซี : 1.3/10 คะแนน (ไม่ผ่าน : ตรวจพบวิตามินซีน้อยกว่าปริมาณที่ระบุไว้มาก คือ 31.19 มิลลิกรัม)
• จุดเด่น/จุดด้อย : 3.46/10 คะแนน
  • มีส่วนผสมของซิงค์ 20%,วิตามินบี 3 20%, วิตามินบี 6 20%, วิตามินบี 12 200% (คำนวณจากร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน)
  • ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลบางส่วน
  • มีน้ำตาล 23 กรัม / โซเดียม 25 มิลลิกรัม / พลังงาน 130 กิโลแคลอรี่
• ราคา : 6.5/10 คะแนน
  • ราคาต่อขวด : 2/5 คะแนน (ขวดละ 20 บาท)
  • ราคาต่อปริมาณ : 4.5/5 คะแนน (ปริมาณ 450 มล.)
• คะแนนรวม : 16.26 /40 คะแนน

อันดับ 10 : มินิ (minii) Lemonade Vitamin C200

มินิ (minii) เครื่องดื่มวิตามินซี 200% แบรนด์น้องใหม่ในตลาดที่ระบุว่าใช้เลมอนนำเข้าจากประเทศอิตาลี ยี่ห้อนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 รสชาติ คือ รสเลมอนเนด และรสพิ้งค์เลมอนเนด

• รสชาติ : 3.5/10 คะแนน
  • รสเลมอนเนดรสชาติไม่ผ่านเลย เปรี้ยวแบบเจื่อน ๆ ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ส่วนรสพิ้งค์เลมอนเนดนี่ไม่อร่อยยิ่งกว่า เปรี้ยวและไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเอามาก ๆ
• ปริมาณวิตามินซีที่ตรวจพบ : 0/10 คะแนน (ไม่ผ่าน : ตรวจไม่พบวิตามินซีเลย)
• จุดเด่น/จุดด้อย : 0.76/10 คะแนน
  • ส่วนประกอบสำคัญอื่น ๆ นอกจากวิตามินซี คือ วิตามินอี 0.0085%
  • มีส่วนผสมของแคลเซียม 2-4% (คำนวณจากร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน)
  • มีน้ำตาล 34 กรัม / โซเดียม 80-85 มิลลิกรัม / พลังงาน 190 กิโลแคลอรี่
• ราคา : 5.45/10 คะแนน
  • ราคาต่อขวด : 2/5 คะแนน (ขวดละ 20 บาท)
  • ราคาต่อปริมาณ : 3.45/5 คะแนน (ปริมาณ 345 มล.)
• คะแนนรวม : 9.71 /40 คะแนน

สรุป แม้เครื่องดื่มวิตามินซี 200% ส่วนใหญ่จะมีปริมาณวิตามินซีตามที่แจ้งจริง แต่ก็ยังเป็นเพียงปริมาณขั้นต่ำต่อวันที่ร่างกายต้องการเท่านั้น จึงยังหวังผลเรื่องสุขภาพในด้านการเสริมภูมิคุ้มกันได้น้อย และประโยชน์ที่ร่างกายได้รับอาจไม่คุ้มเสีย (งานวิจัยระบุว่าขนาดวิตามินซี สำหรับเสริมภูมิคุ้มกัน ต้องรับประทานถึงวันละ 1,000-3,000 มก.) เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ถ้าอยากเน้นดื่มเพื่อความอร่อยบ้างเป็นครั้งคราวและร่างกายได้รับวิตามินซีด้วย แบบนี้ก็ไม่มีปัญหาครับ ซึ่งส่วนตัวผมเองนาน ๆ ทีก็หาดื่มแก้เบื่อบ้างเหมือนกัน

ส่วนผู้ที่อยากได้รับประโยชน์จากวิตามินซีแบบเต็ม ๆ เน้นเสริมภูมิคุ้มกันและช่วยเรื่องผิวพรรณด้วยก็ยังแนะนำให้ทานวิตามินซีในรูปแบบผงชงกับน้ำดื่มหรือในรูปแบบเม็ด 1,000 มิลลิกรัมครับ (อ่านรีวิววิตามินซีเพิ่มเติมได้ที่บทความ 12 อันดับวิตามินซียอดนิยม & คู่มือการเลือกซื้อวิตามินซี !) หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์นะครับ ด้วยความหวังดี 🙂

เอกสารอ้างอิง

1. Maggini S et al.Nutrients 2017, 9, 339*British Journal of Nutrition (2007), 98, Suppl. 1, S29–S35
2. healthline. “How Much Vitamin C Should You Take?”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.healthline.com. [06 ต.ค. 2020].
3. ศูนย์เครือข่ายข้อมูลอาหารครบวงจร. “ปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายควรได้รับ”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.foodnetworksolution.com. [09 ต.ค. 2020].
4. พบแพทย์. “น้ำตาล ภัยร้ายที่มาพร้อมความหวาน”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.pobpad.com. [10 ต.ค. 2020].
5. นิตยสารฉลาดซื้อ. “ฉบับที่ 233 ปริมาณวิตามินซีในเครื่องดื่มผสมวิตามินซี”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.chaladsue.com. [15 ต.ค. 2020].

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)