เบอะคะปุ่ย สรรพคุณและประโยชน์ของต้นเบอะคะปุ่ย 8 ข้อ !

เบอะคะปุ่ย สรรพคุณและประโยชน์ของต้นเบอะคะปุ่ย 8 ข้อ !

เบอะคะปุ่ย

เบอะคะปุ่ย ชื่อวิทยาศาสตร์ Myosoton aquaticum (L.) Moench (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Stellaria aquatica (L.) Scop.) จัดอยู่ในวงศ์ CARYOPHYLLACEAE (สมุนไพรเบอะคะปุ่ย เป็นชื่อเรียกของชาวกะเหรี่ยง-กำแพงเพชร)[1]

ลักษณะของเบอะคะปุ่ย

  • ต้นเบอะคะปุ่ย จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกที่มักขึ้นเป็นกอ ๆ ลำต้นมีลักษณะทอดนอนไปตามพื้นดิน ลำต้นเป็นร่องและมีจุดแต้มเป็นสีม่วงเข้ม มีต่อมขน ส่วนปลายมีลักษณะชูขึ้น ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด พรรณไม้ชนิดนี้เป็นพรรณไม้พื้นเมืองของทวีปยุโรปและเอเชีย มักพบขึ้นทั่วไปตามป่าชื้น[1]

ต้นเบอะคะปุ่ย

  • ใบเบอะคะปุ่ย ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบมีลักษณะเป็นรูปคล้ายหัวใจ ส่วนขอบใบเป็นคลื่น ๆ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 0.5-3 เซนติเมตร และยาวประมาณ 1-6 เซนติเมตร ใบตอนบนจะไม่มีก้านใบ ส่วนใบตอนล่างจะมีก้านใบยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร และมีขน[1]

ใบเบอะคะปุ่ย

  • ดอกเบอะคะปุ่ย ออกดอกเดี่ยว ๆ ตามซอกใบ กลีบรองกลีบดอกมี 5 กลีบ ลักษณะของกลีบเป็นรูปหอก มีความยาวประมาณ 0.4-0.5 เซนติเมตร และมีขน ส่วนกลีบดอกจะเป็นสีขาวและมีความยาวประมาณ 0.5-0.7 เซนติเมตร จักเป็นแฉกลึก 2 แฉก ก้านดอกยาวประมาณ 0.5-2 เซนติเมตร มีต่อมขนหนาแน่นมาก ดอกมีเกสรเพศผู้ประมาณ 10 อัน ส่วนท่อเกสรเพศเมียจะมีประมาณ 5 แฉก มีอับเรณูเป็นสีแดงอมส้ม ส่วนรังไข่มีลักษณะเป็นรูปไข่มีอยู่หนึ่งช่อง[1]

ดอกเบอะคะปุ่ย

รูปดอกเบอะคะปุ่ย

  • ผลเบอะคะปุ่ย ผลที่แห้งจะมีลักษะเป็นรูปไข่กว้าง มีขนาดยาวกว่ากลีบดอกเล็กน้อย ผลจะมีพูประมาณ 5 พู แต่ละพูนั้นตรงปลายจักจะเป็น 2 พูเล็ก ๆ ภายในมีเมล็ดลักษณะกลม และมีตุ่มเล็ก ๆ คล้ายหัวนม เมล็ดเป็นสีสนิม[1]

ผลเบอะคะปุ่ย

สรรพคุณของเบอะคะปุ่ย

  1. ในประเทศจีนและญี่ปุ่นจะนำลำต้นและใบเบอะคะปุ่ยมากินเป็นยารักษาโรคไส้ติ่งอักเสบ (ลำต้นและใบ)[1]
  2. ลำต้นและใบใช้กินเป็นยาแก้โรคปัสสาวะไม่ออก (ลำต้นและใบ)[1]
  3. ใบมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคตกขาวของสตรี (ใบ)[1]
  4. ลำต้นและใบใช้กินเป็นยารักษาโรคริดสีดวงทวาร (ลำต้นและใบ)[1]
  5. ใช้เป็นยารักษาแผลเรื้อรัง (ลำต้นและใบ)[1]
  6. ใบนำมาแช่กับน้ำร้อนใช้ภายนอกเป็นยารักษาอาการฟกช้ำ ปวดกระดูก (ใบ)[1]
  7. ช่วยรักษาโรคเหน็บชา ด้วยการใช้ลำต้นและใบนำมากินเป็นยา (ลำต้นและใบ)[1]
  8. น้ำต้มจากลำต้นและใบมีสรรพคุณเป็นยาขับน้ำนม (ลำต้นและใบ)[1]
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5.  (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).  “เบอะคะปุ่ย”.  หน้า 438-439.

ภาพประกอบ : www.erbe.altervista.org, www.actaplantarum.org (by Gianluca Nicolella)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด