ส้ม
ส้ม (Orange) ผลไม้ยอดฮิตตลอดกาล จัดเป็นผลไม้ตระกูล Citrus ให้รสชาติเปรี้ยวหวาน ที่ยังอุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา เอ…แล้วส้มมีวิตามินอะไรบ้าง ? เช่น วิตามินซี วิตามินเอ (เบตาแคโรทีน) วิตามินบี วิตามินดี ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และคอลลาเจน นอกจากนี้ยังมีใยอาหารที่ช่วยในระบบขับถ่ายอีกด้วย สำหรับสรรพคุณของส้มในเรื่องอื่น ๆ เช่น ช่วยรักษาเลือดออกตามไรฟัน ช่วยล้างสารพิษในร่างกายด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น
สำหรับการกินส้มนั้นสามารถกินได้ทุกเพศทุกวัยไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม แต่ทั้งนี้เด็กต้องอายุมากกว่า 6 เดือนและการให้ดื่มน้ำส้มนั้นควรจะผสมน้ำเปล่าไปด้วยในปริมาณครึ่งต่อครึ่ง ทั้งนี้เพื่อลดการระคายเคืองสำหรับเด็ก เพราะส้มนั้นจะมีรสชาติเข้มข้น และการผสมน้ำก็เป็นอีกวิธีสำคัญที่ทำให้เด็กไม่ติดกินหวานได้ดีอีกด้วย และถัดมาสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือโรคไต หรือคิดว่ากำลังจะลดความอ้วน ควรกินด้วยความระมัดระวัง เพราะส้มมีน้ำตาลและโพรแทสเซียมสูง แต่ถ้าจะกินควรเลือกกินเพราะว่าส้มมันมีกากใยมากกว่าคิดว่าเป็นน้ำส้มคั้น
ส้มมีวิตามินซีเท่าไร ? ผลส้มสด 100 กรัม จะมีเบตาแคโรทีน 82 ไมโครกรัม และวิตามินซี 50 มิลลิกรัม ส้ม 1 ผลโดยทั่วไปจะมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 140 กรัม ก็เท่ากับว่าส้ม 1 ลูกมีวิตามินซี 70 mg. และมีเบตาแคโรทีน 115 mcg. นั่นเอง “โดยการกินส้มวันละผลถือเป็นสิ่งที่ดี และยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย”
สำหรับสายพันธุ์ส้มนั้นมีหลากหลายชนิด แต่ละชนิดจะมีลักษณะและรสชาติที่แตกต่างกันออกไป โดยการเลือกซื้อส้มให้มีรสชาติหวานอร่อยควรเลือกส้มที่ผิวเรียบเนียน เปลือกบาง เพราะจะให้น้ำเยอะ สำหรับส้มที่นิยมปลูกมากในบ้านเรานี้ก็ได้แก่ ส้มเกลี้ยง ส้มเขียวหวาน ส้มจุก ส้มตรา (ส้มเช้ง) และส้มโอ ส่วนชนิดของส้มนั้นก็ได้แก่
- ส้มเขียวหวาน มีเนื้อหวาน เหมาะกับการคั้นกินสด ๆ มีเปลือกบางและคั้นดื่มง่าย
- ส้มเกลี้ยง ถิ่นกำเนิดจากจีน เป็นหนึ่งในตระกูลส้มที่นิยมปลูกกันมากในไทย เหมาะแก่การใช้ทำบุญหรืองานเทศกาลต่าง ๆ
- ส้มเช้งหรือส้มตรา ส้มพื้นเมืองของชาวจีนและจัดว่าเป็นผลไม้มงคลในการประกอบพิธีต่าง ๆ ใช้กินสด ๆ หรือทำเป็นน้ำผลไม้
- ส้มแก้ว ปลูกมากในจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นส้มที่มีขนาดใหญ่รองจากส้มโอ นิยมใช้ทำน้ำส้มคั้น และเป็นผลไม้เซ่นไหว้ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ
- ส้มจุก มีรสชาติหวานอ่อน ๆ เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
- ส้มจีน ผลไม้มงคลสำหรับคนจีน สีเหมือนทอง นิยมนำมาไหว้เจ้าหรือบรรพบุรุษ
- ส้มจี๊ด ไม่นิยมนำมากินเพราะมีรสเปรี้ยวมาก แต่คนจีนนิยมนำมาอบแห้ง
- ส้มโอ สามารถนำมาทำอาหารได้หลายชนิดทั้งคาวและหวาน
- ส้มซันคิสต์ รสชาติเข้มข้น เปลือกมีกลิ่นหอม นิยมใช้เปลือกมาทำขนม เช่น แยม คุกกี้
- เลมอน มีรสเปรี้ยวหวานนิด ๆ เป็นที่นิยมของต่างประเทศ
- มะนาว ก็จัดอยู่ในตระกูลส้มเหมือนกันและจัดว่ามีรสเปรี้ยวมากที่สุด
- มะกรูด นิยมนำกลิ่นหอมจากเปลือกมาใช้ในการปรุงอาหาร แต่น้ำมะกรูดก็นำมาใช้ทำยาสระผมได้เหมือนกัน
สรรพคุณของส้ม
- ส้มมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากมาย จึงช่วยในการชะลอวัย
- ส้มมีคุณสมบัติในการช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ช่วยลดเลือนหรือชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้
- ส้มช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
- ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีไม่แห้งกร้าน
- ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก เพราะส้มมีวิตามินซี
- ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ด้วยแคลเซียมและวิตามินดีจากส้ม
- การกินส้มก็ช่วยลดสภาวะความเครียดได้เหมือนกันนะ
- ส้มช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
- ช่วยในการขับถ่าย เพราะส้มมีกากใยสูง
- ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งที่ปาก กล่องเสียง และที่กระเพาะ
- ช่วยป้องกันการเป็นอัมพาตหากกินผลไม้ตระกูลส้มเป็นประจำ
- สารฟลาโวนอยด์ในส้มจะช่วยป้องกันการอักเสบและเลือดจับตัวกันเป็นก้อน
- ในส้มมีสารเบตาแคโรทีนที่ช่วยชะลอความเสื่อมเส้นผม เล็บ และผิวของคุณ และช่วยให้ผนังหลอดเลือด เส้นเลือดฝอยแข็งแรง
- ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายของเรา
- ช่วยในการสมานแผลต่าง ๆ เช่น แผลไฟไหม้หรือแผลหลังผ่าตัดให้หายดียิ่งขึ้น
- เปลือกส้มจะมีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะและเป็นยาระบายอ่อน ๆ
- เปลือกส้มมีสารช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยกรองสารพิษในตับได้ด้วย
- เปลือกส้มมีฤทธิ์ในการช่วยทำลายเซลล์มะเร็งได้
ประโยชน์ของส้ม
- น้ำส้มใช้ดื่มแก้กระหาย เพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า
- เปลือกส้มที่แห้งแล้ว เมื่อนำไปจุดไฟจะมีกลิ่นหอมและมีคุณสมบัติในการไล่ยุง
- น้ำมันหอมระเหยจากเปลือกส้มก็ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและช่วยกระตุ้นระบบประสาทได้ดี
- การเสิร์ฟเปลือกส้มคู่กับอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ จะช่วยในการย่อยอาหารที่มีไขมันสูงได้
คุณค่าทางโภชนาการของส้ม ต่อ 100 กรัม
- พลังงาน 47 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 11.75 กรัม
- น้ำตาล 9.35 กรัม
- เส้นใย 2.4 กรัม
- ไขมัน 0.12 กรัม
- โปรตีน 0.94 กรัม
- วิตามินเอ 11 ไมโครกรัม 1%
- วิตามินบี 1 0.087 มิลลิกรัม 8%
- วิตามินบี 2 0.04 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี 3 0.282 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี 5 0.25 มิลลิกรัม 5%
- วิตามินบี 6 0.06 มิลลิกรัม 5%
- วิตามินบี 9 30 ไมโครกรัม 8%
- โคลีน 8.4 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินซี 53.2 มิลลิกรัม 64%
- วิตามินอี 0.18 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุแคลเซียม 40 มิลลิกรัม 4%
- ธาตุเหล็ก 0.1 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุแมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุแมงกานีส 0.025 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุฟอสฟอรัส 14 มิลลิกรัม 2%
- โพแทสเซียม 181 มิลลิกรัม 4%
- ธาตุสังกะสี 0.07 มิลลิกรัม 1%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)