สตรอเบอร์รี่
สตรอเบอร์รี่ ชื่อสามัญ Strawberry (แก้ไข* ที่เขียนถูกต้องคือ “สตรอว์เบอร์รี” ไม่มีไม้เอก)
สตรอเบอร์รี่ ชื่อวิทยาศาสตร์ Fragaria × ananassa (Duchesne ex Weston) Duchesne ex Rozier. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Fragaria × ananassa Duchesne) จัดอยู่ในวงศ์กุหลาบ (ROSACEAE)
สตรอเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่จัดอยู่ในสกุลไม้ดอกในวงศ์กุหลาบ มีมากกว่า 20 สปีชีส์และมีลูกผสมอีกมากมาย ผลสดของสตรอเบอร์รี่มีรสชาติหลากหลาย ตั้งแต่รสเปรี้ยวไปจนถึงรสหวานจัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่ปลูก โดยสตรอเบอร์รี่ที่นิยมปลูกในบ้านเราก็คือ สตรอเบอร์รี่สวน
สตรอเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เควอซิทิน (Quercetin) เคมเฟอรอล (Kaempferol) แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งสารดังกล่าวมีส่วนช่วยในการยับยั้งสารก่อมะเร็งต่าง ๆ ได้ และยังมีวิตามินซีในปริมาณสูง โดยสตรอเบอร์รี่สดประมาณ 100 กรัม จะมีวิตามินมากถึง 58 มิลลิกรัม !
เมื่อนำไปเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นในเรื่องการช่วยต้านอนุมูลอิสระพบว่า สตรอเบอร์รี่จะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าส้มถึงหนึ่งเท่าครึ่ง / มากกว่าองุ่นแดง 2 เท่า / มากกว่ากีวี 3 เท่า / มากกว่ามะเขือเทศ 7 เท่า / มากกว่ากล้วยหอม 7 เท่า และมากกว่าลูกแพรถึง 15 เท่า !
สตรอเบอร์รี่ยิ่งสดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากเท่านั้น ถ้ารับประทานทันทีได้ก็จะดีมาก (ล้างก่อนนะ) หรือไม่ก็ต้องเก็บไว้ในตู้เย็น และการรับประทานสตรอเบอร์รี่แบบสด ๆ จะทำให้ได้รับสารอาหารจากสตรอเบอร์รี่มากที่สุด !
สรรพคุณของสตรอเบอร์รี่
- สตรอเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการชะลอวัย
- ช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ร่างกาย
- มีส่วนช่วยบำรุงประสาทและสมอง
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง
- ช่วยเพิ่มปริมาณไขมันชนิดดี (HDL) ซึ่งช่วยทำให้หลอดเลือดสะอาด ปราศจากคราบไขมัน
- ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็งอย่างไนโตรซามีน (Nitrosamines) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้
- ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกได้
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน
- ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรงและป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
- สตรอเบอร์รี่อุดมไปด้วยซูเปอร์ไฟเบอร์เพกทิน ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลได้
- มีส่วนช่วยบำรุงโลหิต
- ช่วยลดความดันโลหิต
- มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
- ช่วยป้องกันไม่ให้ทารกในครรภ์สมองพิการได้ (กรดโฟลิก)
- ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ช่วยปรับสมดุลของนัยน์ตาให้เป็นปกติ และป้องกันโรคต้อกระจก โรคตาบอดตอนกลางคืน การรับประทานสตรอเบอร์รี่เป็นประจำจึงช่วยลดความเสื่อมของจอประสาทตาได้ถึง 50%
- การดื่มน้ำสตรอเบอร์รี่จะช่วยบำรุงร่างกายหลังฟื้นไข้
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคหวัดและภูมิแพ้
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟันได้เป็นอย่างดี
- ช่วยทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ
- เป็นยาระบายอ่อน ๆ
- ช่วยแก้อาการท้องร่วง (ด้วยการใช้เหล้าไวน์ 1 ถ้วยตวง ใส่รากและใบสตรอเบอร์รี่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง นำมาต้มน้ำให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ)
- ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ด้วยการรับประทานผลสดครั้งละ 5 ผล
- มีส่วนช่วยรักษาโรคนิ่วในไต
- ช่วยรักษาโรคทางเดินปัสสาวะ (ด้วยการใช้เหล้าไวน์ 1 ถ้วยตวง ใส่รากและใบสตรอเบอร์รี่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง นำมาต้มน้ำให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ)
- ช่วยแก้ปัญหาประจำเดือนมาไม่เป็นปกติด้วยการใช้ใบและราก (โดยการใช้เหล้าไวน์ 1 ถ้วยตวง ใส่รากและใบสตรอเบอร์รี่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง นำมาต้มน้ำให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ) ตากแห้ง นำมาชงกับน้ำเดือด แล้วดื่มแทนชา และใช้รากสตรอเบอร์รี่ 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำเดือด 1 กาขนาดกลาง
- ช่วยบรรเทาอาการของโรคตับอักเสบ
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคข้ออักเสบ
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา
- ช่วยป้องกันโรคเกาต์
- ช่วยแก้อาการเจ็บคอ รักษาแผลในช่องปาก (ด้วยการใช้ใบสดสตรอเบอร์รี่นำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำน้ำมาใช้กลั้วคอ)
- ช่วยรักษาสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง (ด้วยการใช้ใบสดสตรอเบอร์รี่นำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำน้ำมาใช้กลั้วคอ)
- ใบสดนำมาโขลกแล้วนำไปประคบตามร่างกาย ช่วยลดอาการอักเสบบวมช้ำได้เป็นอย่างดี
ประโยชน์ของสตรอเบอร์รี่
- เป็นผลไม้ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ต้องการจะลดน้ำหนักและความอ้วน เพราะมีพลังงานต่ำ
- ช่วยในการดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกาย ช่วยทำให้ร่างกายมีสุขภาพดี
- ช่วยระงับกลิ่นปากได้ดี ทำให้ลมหายใจสดชื่น (ใช้ใบสดนำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำมาอมบ้วนปาก)
- ใบสตรอเบอร์รี่นำมาซ้อนกันหลาย ๆ ใบ ใช้ประคบแก้รอยช้ำบวมตามร่างกาย
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ด้วยการนำผลสตรอเบอร์รี่สดมาฝานบาง ๆ วางให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
- ใช้ทำความสะอาดผิวหน้า ด้วยการใช้สตรอเบอร์รี่ประมาณ 3 ผลผสมกับน้ำมะนาว แล้วนำมานวดทาบริเวณใบหน้าแล้วล้างออก ซึ่งจะช่วยทำความสะอาด ปรับสภาพผิว และลดการอุดตันของรูขุมขนได้เป็นอย่างดี
- ช่วยทำให้ฟันขาวสะอาด เงางาม ด้วยการใช้ใบสตรอเบอร์รี่และรากที่ตากแห้งมาใส่โถปั่นจนเป็นผง แล้วนำมาใช้แทนยาสีฟัน
- มีการนำไปแปรรูปอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสตรอเบอร์รี่เชื่อม น้ำสตรอเบอร์รี่ แยมสตรอเบอร์รี่ ไวน์สตรอเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่อบแห้ง เค้กสตรอเบอร์รี่ โยเกิร์ตสตรอเบอร์รี่ เป็นต้น
คุณค่าทางโภชนาการของสตรอเบอร์รี่ต่อ 100 กรัม
- พลังงาน 33 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 7.68 กรัม
- น้ำตาล 4.89 กรัม
- เส้นใย 2 กรัม
- ไขมัน 0.3
- โปรตีน 0.67 กรัม
- วิตามินบี 1 0.024 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี 2 0.022 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี 3 0.386 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี 6 0.047 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินบี 9 24 ไมโครกรัม 6%
- โคลีน 5.7 มิลลิกรัม 1%
- วิตามินซี 58.8 มิลลิกรัม 71%
- วิตามินอี 0.29 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินเค 2.2 ไมโครกรัม 2%
- ธาตุแคลเซียม 16 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุเหล็ก 0.41 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุแมกนีเซียม 13 มิลลิกรัม 4%
- ธาตุแมงกานีส 0.386 มิลลิกรัม 18%
- ธาตุฟอสฟอรัส 24 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุโพแทสเซียม 153 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม 0%
- ธาตุสังกะสี 0.14 มิลลิกรัม 1%
- ฟลูออไรด์ 4.4 ไมโครกรัม
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
แหล่งอ้างอิง : www.cm-fruit.com, en.wikipedia.org/wiki/Strawberry
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)