มามอนซีโย
มามอนซีโย หรือ มามันซีโอ ภาษาอังกฤษ Mamoncillo หรือ Mamon, Spanish lime, Genip, Genipe, Guinep, Quenepa
มามอนซีโย มีชื่อวิทยาศาสตร์ Melicoccus bijugatus Jacq. ผลไม้ชนิดนี้จัดเป็นผลไม้ที่อยู่ในวงศ์เดียวกับลิ้นจี่ ลำไย โดยมีถิ่นกำเนิดทางตอนเหนือของอเมริกาใต้
มามอนซีโย เป็นผลไม้เมืองร้อน ซึ่งตามธรรมชาติแล้วผลไม้ชนิดนี้จะมีเฉพาะในเขตร้อนเหนือเส้นศูนย์สูตรและในทวีปอเมริกาเท่านั้น ต้นมามอนซีโย เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีลำต้นสูงได้ถึง 30 เมตร เปลือกเรียบมีสีเทา มีใบยาว 5-8 เซนติเมตร ส่วนดอกมามอนซีโยจะเป็นดอกเล็ก ๆ สีออกเขียวและขาว ดอกมีกลิ่นหอม ที่ดอกมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ภายในดอกเดียวกัน โดยดอกจะบานในช่วงฤดูฝน
ส่วนลักษณะของผลมามอนซีโยจะเป็นทรงกลมรี ผลมีสีเขียว ผลจะสุกงอมในช่วงฤดูร้อน เนื้อในมีสีครีมถึงเหลืองอมส้ม แต่ถ้านำไปคั้นเป็นน้ำผลไม้จะกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม ในผลมีเมล็ดขนาดใหญ่ ทรงกลมรีเหมือนกับผล สามารถนำเมล็ดไปอบและรับประทานได้เหมือนกับเมล็ดทานตะวัน
สรรพคุณของมามอนซีโย
- ในเวเนซุเอลาใช้เมล็ดนำไปคั่วแล้วบดผสมกับน้ำผึ้งรับประทานเพื่อใช้แก้อาการท้องร่วง
- ใบใช้ปรุงเป็นยาช่วยสมานแผลในลำไส้
- ในปานามามีการใช้ใบมามอนซีโยเพื่อไล่และกำจัดหมัด
ประโยชน์ของมามอนซีโย
- ผลสามารถใช้รับประทานหรือนำไปคั้นเป็นน้ำผลไม้ได้
- เมล็ดสามารถนำไปอบสามารถใช้รับประทานได้
- มามอนซีโยมักนิยมปลูกไว้ตามข้างถนนเพื่อความสวยงาม อีกทั้งยังช่วยป้องกันฝุ่นและเสียงได้ด้วย
คุณค่าทางโภชนาการของมามอนซีโย (เฉพาะส่วนที่กินได้) ต่อ 100 กรัม
- พลังงาน 58.11 – 73 กิโลแคลอรี
- โปรตีน 0.5 – 1.0 กรัม
- ไขมัน 0.08 – 0.2 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 13.5 – 19.2 กรัม
- เส้นใย 0.07-2.60 กรัม
- ธาตุแคลเซียม 3.4- 15 มิลลิกรัม
- ธาตุฟอสฟอรัส 9.8 – 23.9 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 0.47 – 1.19 มิลลิกรัม
- แคโรทีน 0.02 – 0.44 มิลลิกรัม (70 I.U.)
- วิตามินบี 1 0.03 – 0.21 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 2 0.01 – 0.20 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3 0.15 – 0.090 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 0.8 – 10 มิลลิกรัม
- แทนนิน 1.88 กรัม
- ทริปโตเฟน 14 มิลลิกรัม
- ไลซีน 17 มิลลิกรัม
ข้อมูลจาก : Made in Cuba, Central America and Colombia.
วิธีรับประทานมามอนซีโย
ข้อควรระวัง : เนื่องจากเมล็ดของมามอนซีโยจะมีเยื่อหุ้มและลื่นมาก อาจจะทำให้เผลอกลืนแล้วติดคอ ทำให้หายใจไม่ออกได้ สำหรับเด็กที่จะรับประทานผลไม้ชนิดนี้ ผู้ปกครองควรให้การใส่ใจเป็นพิเศษ
แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN), เว็บไซต์มหาวิทยาลัยเพอร์ดู สหรัฐอเมริกา (Purdue University)
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)