ทับทิม
ทับทิม ชื่อสามัญ Pomegranate
ทับทิม ชื่อวิทยาศาสตร์ Punica granatum L. จัดอยู่ในวงศ์ตะแบก (LYTHRACEAE)
ทับทิม เป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิหร่านทางตอนใต้ของอัฟกานิสถาน ผลไม้ชนิดนี้จะชอบอากาศหนาวเป็นพิเศษ ยิ่งหนาวมากเท่าไหร่ เนื้อทับทิมนั้นจะมีสีแดงเข้มมากขึ้นเท่านั้น และยังเป็นผลไม้มงคลของคนจีนอีกด้วย ด้วยความที่ทับทิมมีเมล็ดมากจึงสื่อความหมายถึงการมีลูกชายมาก ๆ ด้วยนั่นเอง โดยกิ่งใบของทับทิมก็นำมาใช้ในพิธีการต่าง ๆ ที่มีน้ำมนต์ในการประกอบพิธีหรือนำมาใช้พรมน้ำมนต์เพราะเชื่อว่ามีไว้ติดตัวจะช่วยในเรื่องการคุ้มครองจากภัยอันตรายต่าง ๆ ได้ด้วย
ทับทิมยังถือว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ โดยประโยชน์ของทับทิมและสรรพคุณของทับทิมนั้นมีมากมาย ด้วยทับทิมนั้นเป็นผลไม้ที่มีรสหวานออกเปรี้ยว น้ำทับทิมจึงมีวิตามินซีสูงและยังประกอบด้วยเกลือแร่ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย อย่างเช่น บรรเทาอาการของโรคหัวใจ รักษาความดันโลหิตสูง ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวขอเลือด รักษาโรคท้องเดิน โรคบิด เป็นต้น
ประโยชน์ของทับทิม
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายและช่วยในการชะลอวัย
- น้ำทับทิมมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง ด้วยการนำน้ำทับทิมประมาณ 1 ช้อนชามาทาทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก
- น้ำทับทิมช่วยเพิ่มความสดชื่น แก้กระหาย คลายร้อนได้เป็นอย่างดี
- ช่วยระงับกลิ่นปากได้อีกด้วย
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง บรรเทาอาการหวัด
- ช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด
- ทับทับมีวิตามินซีสูงมาก และยังมีวิตามินเอ วิตามินอี และกรดโฟลิกอีกด้วย
- ใบทับทิมใช้ในการประกอบพิธีต่าง ๆ ที่ใช้น้ำมนต์ในการประกอบพิธี
- ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งครรภ์
- ช่วยในการปรับฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน
- ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ
- ช่วยในการบำบัดอาการของโรคเบาหวาน
- ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาอักเสบ
- น้ำต้มเปลือกทับทิมช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้
- ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจ ด้วยการช่วยเสริมสุขภาพหัวใจให้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยบำรุงสุขภาพฟันให้แข็งแรง
- ช่วยส่งเสริมสุขภาพกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
- ช่วยลดความดันโลหิตสูง
- ช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด
- ช่วยในการฟอกไตและท่อปัสสาวะ
- ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวของเลือดจากไขมันในเลือดสูง
- มีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
- ช่วยแก้อาการระดูขาว ตกเลือด
- ช่วยบำรุงสุขภาพตับให้แข็งแรง
- มีส่วนช่วยบำรุงและต่อต้านอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย
- เปลือกทับทิมสามารถรักษาโรคท้องเดินและโรคบิดได้ เพราะมีสารในกลุ่มแทนนินอยู่ในปริมาณมาก
- เปลือกทับทิมมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ
- เปลือกผลช่วยรักษาแผลหิด กลากเกลื้อน
- เปลือกของทับทิมช่วยต้านการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
- ยาต้มจากเปลือกผลช่วยรักษาอาการอุจจาระร่วงได้ โดยช่วยลดจำนวนครั้งในการขับถ่ายและทำให้ระยะเวลาเริ่มถ่ายครั้งแรกนานขึ้น
- เปลือกต้นและเปลือกรากของทับทิมสามารถใช้เป็นยาขับพยาธิตัวตืดและพยาธิตัวกลมได้เป็นอย่างดี ด้วยการนำเปลือกของรากและต้นที่ยังสด ๆ ประมาณครึ่งกำมือ เติมกานพลูลงไปเล็กน้อยเพื่อแต่งรส นำมาต้มกับน้ำ 3 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจนเหลือถ้วยครึ่ง แล้วนำมารับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงจึงรับประทานยาถ่าย เช่น ดีเกลืออีก 2 ช้อนโต๊ะตามไปอีกครั้งหนึ่ง
- ดอกทับทิมใช้ห้ามเลือดได้ ด้วยการนำดอกแห้งมาบดให้ละเอียดแล้วนำมาทาหรือโรยใส่บริเวณบาดแผล
- ดอกทับทิมช่วยแก้อาการหูชั้นในอักเสบ
- ใบของทับทิมสามารถนำมาอมกลั้วคอหรือทำเป็นยาล้างตาก็ได้
- ช่วยลดปัญหาผมร่วง ด้วยการนำยาพอกที่ได้จากใบ แล้วนำมาพอกหนังศีรษะ
- ชาวอินเดียนำน้ำคั้นจากผลทับทิมและดอกของทับทิมมาปรุงเป็นยาธาตุ สมานลำไส้ บำรุงหัวใจ
- ทับทิมช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งได้มากกว่า 13 ชนิด โดยช่วยให้เซลล์มะเร็งไม่เพิ่มจำนวนขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ เป็นต้น
- ช่วยในการทำลายเซลล์มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่
คุณค่าทางโภชนาการของเนื้อทับทิม ต่อ 100 กรัม
- พลังงาน 83 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 18.7 กรัม
- น้ำตาล 13.67 กรัม
- เส้นใย 4 กรัม
- ไขมัน 1.17 กรัม
- โปรตีน 1.67 กรัม
- วิตามินบี 1 0.067 มิลลิกรัม 6%
- วิตามินบี 2 0.053 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินบี 3 0.293 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี 5 0.377 มิลลิกรัม 8%
- วิตามินบี 6 0.075 มิลลิกรัม 6%
- วิตามินบี 9 38 ไมโครกรัม 10%
- โคลีน 7.6 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินซี 10.2 มิลลิกรัม 12%
- วิตามินอี 0.6 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินเค 16.4 ไมโครกรัม 4%
- ธาตุแคลเซียม 10 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุแมงกานีส 0.119 มิลลิกรัม 6%
- ธาตุฟอสฟอรัส 36 มิลลิกรัม 5%
- ธาตุโพแทสเซียม 236 มิลลิกรัม 5%
- ธาตุโซเดียม 3 มิลลิกรัม 0%
- ธาตุสังกะสี 0.35 มิลลิกรัม 4%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN), สำนักงานข้อมูลสมุนไพร มหาวิทยาลัยมหิดล
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)