ค่าหด
ค่าหด ชื่อวิทยาศาสตร์ Engelhardtia spicata Lechen ex Blume[2], (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Engelhardtia aceriflora (Reinw.) Blume[1]) จัดอยู่ในวงศ์ค่าหด (JUGLANDACEAE)[1]
สมุนไพรค่าหด มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ข่าหด เก็ดลิ้น ฮ่อจั่น (จันทบุรี), ปอแก่นเทา (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), ยมโดย (ภาคใต้), เก็ดลิ่น, ลบลีบ เป็นต้น[1]
ลักษณะของค่าหด
- ต้นค่าหด จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงได้ประมาณ 15-30 เมตร เรือนยอดเป็นรูปทรงพุ่มกลม ลำต้นมักคดงอ เปลือกต้นหนาแตกเป็นร่องลึกสีเทา ตามกิ่งอ่อนมีรอยแผลใบเห็นชัดเจน[1] พบขึ้นตามป่าดิบเขาและป่าเบญจพรรณทั่วไป ยกเว้นทางภาคใต้ ตั้งแต่ระดับ 500-1,500 เมตร[4]
- ใบค่าหด ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ มีใบย่อยประมาณ 1-6 คู่ ลักษณะของใบเป็นรูปรียาว รูปขอบขนาน หรือรูปขอบขนานแกมใบหอก ปลายใบแหลมเรียว โคนใบแหลม ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-4 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7-15 เซนติเมตร ใบอ่อนมีขนสาก ส่วนใบแก่ผิวเรียบ และจะทิ้งใบหมดก่อนออกดอก[1],[2]
- ดอกค่าหด ออกดอกเป็นช่อบริเวณซอกใบ ลักษณะห้อยลง ดอกย่อยมีจำนวนมาก ดอกเป็นแบบแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน ไม่มีกลีบดอก ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียจะอยู่กันคนละช่อ ดอกเพศผู้จะรวมกันเป็นช่อสั้นแบบหางกระรอก ส่วนดอกเพศเมียจะอยู่รวมกันเป็นช่อห้อยลงมา แต่ละดอกจะมีกาบบาง ๆ เป็นรูปแฉกสามเหลี่ยมสีเหลืองอ่อนรองรับ และกาบนี้จะเจริญต่อไปเป็นผล[1],[2]
- ผลค่าหด ผลเป็นผลแห้งไม่แตก ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม แข็ง มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร มีขนแข็งสั้น ๆ ขึ้นปกคลุมแน่น มีใบประดับเป็นกาบปลายแยกเป็นสามแฉกบาง ๆ ติดอยู่ ง่ามกลางจะยาวที่สุดประมาณ 4 เซนติเมตร[1],[2]
สรรพคุณของค่าหด
- เปลือกต้นใช้เป็นยารักษาอาการปวดฟัน (เปลือกต้น)[3]
- ยาพื้นบ้านล้านนาจะใช้ลำต้นค่าหดนำมาฝนกับต้นมะขามป้อม ใช้กินหลังคลอดเป็นยาคุมกำเนิด (ลำต้น)[1],[2]
- เปลือกต้นนำมาต้มให้หญิงหลังคลอดบุตรอาบ ช่วยให้มดลูกหดตัวเร็ว (เปลือกต้น)[3]
- เปลือกต้นนำมาต้มอาบเป็นยารักษาตุ่มคันในเด็ก (เปลือกต้น)[3]
- เปลือกต้นนำไปผิงไฟอุ่น แล้วนำมาทาแผล เป็นยาสมานแผลอักเสบ (เปลือกต้น)[3]
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของค่าหด
- สารสกัดจากทั้งต้นค่าหดด้วยแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ต้านการเจริญของก้อนเนื้องอกได้เล็กน้อย[1],[2]
- สารสกัดจากเปลือกแห้งด้วยแอลกอฮอล์ ทำให้น้ำอสุจิรวมตัวตกตะกอนในหลอดทดลอง[1],[2]
ประโยชน์ของค่าหด
- เปลือกต้นใช้เป็นยาเบื่อปลา[1],[2]
- ใช้ปลูกเป็นไม้เบิกนำที่ทนต่อความแห้งแล้งและไฟป่า[4]
- เนื้อไม้สามารถนำมาใช้ทำสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ได้ดี[4]
เอกสารอ้างอิง
- หนังสือสมุนไพรในอุทยานแห่งชาติภาคกลาง. (พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ, ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, กัญจนา ดีวิเศษ). “ค่าหด”. หน้า 85.
- หนังสือสมุนไพรพื้นบ้านล้านนา. (ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล). “ค่าหด”. หน้า 102.
- โครงการเผยแพร่ข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นบนพื้นที่สูง, สถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง (องค์กรมหาชน). “ค่าหด”. อ้างอิงใน : หนังสือชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน์). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : eherb.hrdi.or.th. [20 ม.ค. 2015].
- ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. “คำหด”. อ้างอิงใน : หนังสือไม้ต้นในสวนพฤกษศาสตร์. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.qsbg.org. [20 ม.ค. 2015].
ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Nilesh & Dhana), www.gotoknow.org (by สุญฺญตา), www.qsbg.org
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)