แฟรงกูล่า
แฟรงกูล่า ชื่อสามัญ Alder Buckthorn, Buckthorn Bark[1]
แฟรงกูล่า ชื่อวิทยาศาสตร์ Frangula alnus Mill. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Rhamnus frangula L.) จัดอยู่ในวงศ์พุทรา (RHAMNACEAE)[1]
ลักษณะของแฟรงกูล่า
- ต้นแฟรงกูล่า จัดเป็นพรรณไม้พุ่มที่แตกกิ่งก้านสาขาออกรอบ ๆ ต้น ตามลำต้นไม่มีหนาม ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด จัดเป็นพรรณไม้กลางแจ้ง เปลือกต้นใช้เป็นยา[1]
- ใบแฟรงกูล่า ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกันไปตามข้อของลำต้น ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ กว้าง แผ่นใบเป็นสีเขียว[1]
- ดอกแฟรงกูล่า ออกดอกรวมกันเป็นกลุ่ม ๆ และจะออกเฉพาะทางด้านข้างเท่านั้น โดยกลุ่มหนึ่งจะมีดอกประมาณ 2-3 ดอก[1]
- ผลแฟรงกูล่า ผลมีทั้งเนื้อและน้ำ เมื่อแก่จะเป็นสีม่วงเข้ม ภายในผลมีเมล็ด 2 เมล็ด[1]
สรรพคุณของแฟรงกูล่า
- เปลือกสดรับประทานเข้าไปจะทำให้อาเจียน (เปลือกต้นสด)[1]
- สำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูกเป็นประจำ ให้นำเปลือกต้นที่แห้งแล้วและเก็บไว้อย่างน้อย 1 ปี ใช้เป็นยาระบายอ่อน ๆ (เปลือกต้นแห้ง)[1]
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของแฟรงกูล่า
- สารสำคัญที่พบ ได้แก่ gluco-flangulin (frangula-emodin-6-rhamnoside-8-gulcoside) และ frangulin (frangula-emodin-6-rhamnoside)[1]
เอกสารอ้างอิง
- หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5. (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม). “แฟรงกูล่า”. หน้า 588.
ภาพประกอบ : www.flickr.com (by annemiel, L’herbier en photos, Xavier Béjar, Alain Maire, Michael Huf, Alain Maire)
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)