เฟิร์นเงิน สรรพคุณและประโยชน์ของต้นเฟิร์นเงิน 10 ข้อ !

เฟิร์นเงิน

เฟิร์นเงิน ชื่อสามัญ Silver lace fern, Sword brake fern, Slender brake fern[3]

เฟิร์นเงิน ชื่อวิทยาศาสตร์ Pteris ensiformis Burm. f. จัดอยู่ในวงศ์ PTERIDACEAE และอยู่ในวงศ์ย่อย PTERIDOIDEAE[3]

สมุนไพรเฟิร์นเงิน มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า เฟินเงิน เฟินแซ่เงิน เฟิร์นเงินใบเขียว (ไทย), เฟิ่งกวนเฉ่า เฟิงเหว่ยเฉ่า (จีนกลาง) เป็นต้น[1],[2]

ลักษณะของเฟิร์นเงิน

  • ต้นเฟิร์นเงิน จัดเป็นไม้ล้มลุก มีอายุหลายปี มีความสูงของต้นประมาณ 15-60 เซนติเมตร ลักษณะเป็นกอ ก้านใบยาวประมาณ 5-20 เซนติเมตร แทงขึ้นมาจากรากใต้ดิน รากมีลักษณะกลมสั้น มีเกล็ด[1] เจริญเติบโตได้ดีในบริเวณที่มีความชื้นสูง แสงแดดพอประมาณ และในสภาพดินโปร่ง[2]

ต้นเฟิร์นเงินรูปต้นเฟิร์นเงิน
  • ใบเฟิร์นเงิน ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกซ้อนกัน มีประมาณ 3-5 คู่ และจะแตกแฉกออกอีกถึง 1-3 คู่ ใบย่อยเป็นรูปรียาว เรียวแคบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 5-15 เซนติเมตรและยาวประมาณ 10-25 เซนติเมตร ขอบใบมีทั้งแบนเรียบและใบที่เติบโตไม่สมบูรณ์จะเป็นแบบขอบหยักฟันเลื่อย บนใบจะมีสปอร์เป็นตุ่มติดอยู่ที่ขอบใบ แต่ใบเล็กจะไม่มีรังไข่ของสปอร์[1]

ใบเฟิร์นเงิน

ลักษณะใบเฟิร์นเงิน

ขอบใบเฟิร์นเงิน

ลักษณะเฟิร์นเงิน

สรรพคุณของเฟิร์นเงิน

  1. ทั้งต้นมีรสขมเล็กน้อย เป็นยาเย็น มีพิษเล็กน้อย ออกฤทธิ์ต่อตับ กระเพาะ และลำไส้ ใช้เป็นยาทำให้เลือดเย็น แก้อาการร้อนใน แก้พิษ (ทั้งต้น)[1]
  2. ช่วยแก้ต่อมทอนซิลอักเสบ (ทั้งต้น)
  3. ช่วยขับน้ำชื้นในร่างกาย (ทั้งต้น)[1]
  4. ช่วยรักษาเต้านมอักเสบ (ทั้งต้น)[1]
  5. ช่วยแก้บิดมูกเลือด (ทั้งต้น)[1] ตำรับยาแก้บิด ให้ใช้เฟิร์นเงิน อึ่งแปะ เอี่ยบ๊วย อย่างละ 20 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน (ทั้งต้น)[1]
  1. ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะกะปริบกะปรอย (ทั้งต้น)[1]
  2. ช่วยแก้อาการตกเลือดของสตรี (ทั้งต้น)[1]
  3. ใช้รักษาตับอักเสบแบบดีซ่าน (ทั้งต้น)[1]
  4. ใช้รักษาโรคผิวหนังผดผื่นคัน (ทั้งต้น)[1]

หมายเหตุ : วิธีใช้ตาม [1] ให้ใช้ต้นแห้งครั้งละประมาณ 20-35 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน หรือใช้ร่วมกับตัวยาอื่น ๆ ในตำรับยา[1]

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของเฟิร์นเงิน

  • สารที่ได้คือสารจำพวก Flavonoid glycoside, Amino acid, Phenols เป็นต้น[1]
  • เมื่อนำน้ำที่ต้มได้จากใบเฟิร์นเงินมาทดลองกับเชื้อบิดอะมีบาที่อยู่ในทดลอง พบว่ามีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อบิดอะมีบาได้[1]
  • รายงานทางคลินิก แก้บิดติดเชื้อให้ใช้ยาแห้ง 500 กรัมนำมาต้มกับน้ำ 5,000 ซีซีประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเอากากออก นำน้ำที่ต้มได้มาสกัดให้มีความเข้มข้นประมาณ 60 ซีซีต่อยาแห้ง 35 กรัม แล้วนำมาให้คนไข้รับประทานครั้งละ 60 ซีซี วันละ 2 ครั้ง โดยให้รับประทานติดต่อกันประมาณ 3-4 วัน จากการรักษาผู้ป่วยจำนวน 85 ราย พบว่า ผู้ป่วยมีอาการหายเป็นปกติ คิดเป็น 57% และหากรับประทานติดต่อกัน 6 วันขึ้นไปจะสามารถถ่ายได้เป็นปกติ และในขณะที่ทำการรักษาไม่พบว่าผู้ป่วยมีอาการแพ้ยาหรือมีอาการเป็นพิษ[1]

ประโยชน์ของเฟิร์นเงิน

  • ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป ใช้ประดับตกแต่งอาคาร และจัดสวนได้ดี[2]
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย.  “เฟิร์นเงิน”.  (วิทยา บุญวรพัฒน์).  หน้า 410.
  2. ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.  “เฟิร์นเงินใบเขียว”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.qsbg.org.  [10 พ.ค. 2014].
  3. วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.  “Pteris ensiformis”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: en.wikipedia.org/wiki/Pteris_ensiformis.  [10 พ.ค. 2014].

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Yeoh Yi Shuen), rbg-web2.rbge.org.uk/thaiferns (by P. Karaket)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด