อินทผลัม
อินทผลัม ชื่อสามัญ Date Palm, Dates
อินทผลัม ชื่อวิทยาศาสตร์ Phoenix dactylifera L. จัดอยู่ในวงศ์ปาล์ม (ARECACEAE) ซึ่งแต่เดิมใช้ชื่อวงศ์ว่า PALMAE หรือ PALMACEAE
หมายเหตุ : ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 จะสะกดคำนี้ว่า อินทผลัม (อิน-ทะ-ผะ-ลำ) ซึ่งเป็นคำที่ถูกต้อง แต่ให้ความหมายในภาษาปากว่า อินทผาลัม
อินทผลัม จัดเป็นพืชตระกูลปาล์มชนิดหนึ่ง มีหลากหลายสายพันธุ์ เป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีในเขตที่มีอากาศร้อนและแห้งแล้งอย่างทะเลทราย โดยอินทผาลัมมีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง ประเทศที่ผลิตอินทผาลัมรายใหญ่ได้แก่ อียิปต์ ซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน อาหรับ แอลจีเรีย เรียงตามลำดับ
ลักษณะของอินทผาลัม
- ต้นอินทผลัม มีลำต้นมีความสูงประมาณ 30 เมตร ขนาดของลำต้น 30-50 เซนติเมตร ลักษณะของใบเป็นแบบขนนกยาวแหลมติดอยู่บนต้นประมาณ 40-60 ก้าน แต่ละใบมีทางยาวประมาณ 3-4 เมตร ใบย่อยจะพุ่งออกแบบหลากหลายทิศทาง และดอกจะออกเป็นช่อ ออกดอกบริเวณโคนกาบใบ และขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ดและการแยกหน่อจากต้นใหญ่ตัวเมีย (เลือกต้นที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไป) (รูปอินทผาลัม ด้านล่าง)
- ลูกอินทผลัม มีลักษณะเป็นผลทรงกลมรี ออกเป็นช่อ มีความยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร มีรสหวานฉ่ำ สามารถรับประทานได้ทั้งผลดิบและผลสุก โดยผลอินทผาลัมสดจะมีสีเหลืองไปจนถึงสีส้ม และเมื่อแก่จัดผลจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้ม (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์) และพัฒนาการของผลอินทผาลัมจะแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะผลดิบ > ระยะสมบูรณ์ > ระยะสุกแก่ > ระยะผลแห้ง โดยผลอินทผลัมสุกเราสามารถนำไปตากแห้งเก็บไว้รับประทานได้หลายปี และจะมีรสชาติหวานจัด เหมือนกับการนำไปเชื่อมด้วยน้ำตาล
สายพันธุ์อินทผลัม
- Aabel – พบได้ทั่วไปในประเทศลิเบีย
- Ajwah – สายพันธุ์จากเมืองเมดินา ประเทศซาอุดิอาระเบีย
- Al-Barakah – สายพันธุ์จากประเทศซาอุดิอาระเบีย
- Amir Hajj หรือ Amer Hajj – สายพันธุ์จากประเทศอิรัก ผลมีผิวบาง เนื้อบาง
- Abid Rahim – สายพันธุ์จากประเทศซูดาน แต่ไนจีเรียจะเรียกว่า Dabino
- Barhee หรือ Barhi – สายพันธุ์จากอาหรับ ลักษณะของผลเกือบกลม ผลสีเหลือง เมื่อสุกจะมีสีน้ำตาลเข้ม
- Bireir – สายพันธุ์จากประเทศซูดาน
- Datca Date – สายพันธุ์จากประเทศตุรกี
- Deglet Noor – เป็นสายพันธุ์ที่นิยมปลูกมากในประเทศแอลจีเรียและประเทศตูนิเซีย
- Derrie หรือ Dayri – เป็นสายพันธุ์จากทางตอนใต้ของอิรัก ลักษณะของผลยาวเรียว ผลสีเกือบดำ
- Empress – สายพันธุ์ที่พัฒนาโดยครอบครัว DaVall ในอินดิโอ แคลิเฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยเป็นพันธุ์ที่พัฒนามาจากสายพันธุ์ Thoory แต่จะมีขนาดผลที่ใหญ่กว่า มีความหวานกว่า สีของผลครึ่งบนเป็นสีแทนออกน้ำตาล ๆ สว่าง ๆ ส่วนครึ่งล่างเป็นสีน้ำตาล
- Fardh หรือ Fard – สายพันธุ์นี้พบได้ทั่วไปที่ประเทศโอมาน ผลมีสีน้ำตาลดำ รสชาติหวาน เมล็ดมีขนาดเล็ก
- Ftimi หรือ Alligue – เป็นสายพันธุ์ที่เจริญเติบโตในประเทศตูนิเซีย
- Holwah หรือ Halawi – สายพันธุ์อาหรับ มีขนาดผลเล็กถึงปานกลาง รสหวานมาก
- Haleema – สายพันธุ์จากเมือง Hoon ในประเทศลิเบีย
- Hayany – สายพันธุ์จากอียิปต์ ลักษณะของผลมีสีแดงเข้มเกือบดำ
- Honey – ยังไม่พบข้อมูลของสายพันธุ์นี้
- Iteema – สายพันธุ์ที่พบได้ทั่วไปในประเทศแอลจีเรีย
- Kenta – สายพันธุ์ที่พบได้ทั่วไปในประเทศตูนิเซีย
- Khadrawi หรือ Khadrawy – สายพันธุ์อาหรับ เป็นที่นิยมของชาวอาหรับอย่างมาก ลักษณะของผลเป็นสีดำ
- Khalasah – เป็นสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงมากในซาอุดิอาระเบีย เพราะมีความหวานที่พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป
- Khastawi หรือ Khusatawi หรือ Kustawy – สายพันธุ์จากอิรัก มีขนาดเล็ก ใช้ทำเป็นน้ำเชื่อม มีราคาแพง
- Maktoom – สายพันธุ์จากอาหรับ ผลมีขนาดใหญ่ สีน้ำตาลแดง เปลือกหนา รสหวานปานกลาง
- Manakbir – ลักษณะของผลมีขนาดใหญ่
- Medjool หรือ Mejhool – สายพันธุ์จากโมร็อกโก เนื้อหวานฉ่ำ
- Migraf หรือ Mejraf – เป็นสายพันธุ์ที่นิยมมากในภาคใต้ของเยเมน ผลมีขนาดใหญ่ สีเหลืองทอง
- Mgmaget Ayuob – สายพันธุ์จากเมือง Hoon ในประเทศลิเบีย
- Mishriq – สายพันธุ์จากประเทศซูดานและซาอุดิอาระเบีย
- Mozafati – สายพันธุ์จากอิหร่าน ผลมีขนาดกลาง รสหวาน
- Nabtat-seyf – สายพันธุ์จากซาอุดิอาระเบีย
- Rotab – สายพันธุ์จากอิหร่าน ผลมีสีเข้ม
- Sag‘ai – สายพันธุ์จากซาอุดิอาระเบีย
- Saidy หรือ Saidi – เป็นสายพันธุ์ที่นิยมในประเทศลิเบียเพราะรสหวานจัด
- Sayer หรือ Sayir – จากอาหรับ ผลมีขนาดปานกลาง สีส้มถึงน้ำตาลเข้ม
- Sukkary – สายพันธุ์จากซาอุดิอาระเบีย เปลือกมีสีน้ำตาลเข้ม รสหวาน และมีราคาแพงที่สุด
- Sellaj – สายพันธุ์จากซาอุดิอาระเบีย
- Tagyat – เป็นสายพันธุ์ที่พบได้ทั่วไปในประเทศลิเบีย
- Tamej – สายพันธุ์จากลิเบีย
- Thoory หรือ Thuri – เป็นสายพันธุ์ที่นิยมมากในแอลจีเรีย ผลสีน้ำตาลถึงแดง เปลือกเหี่ยวย่น มีรสหวาน
- Umeljwary – สายพันธุ์จากลิเบีย
- Umelkhashab – สายพันธุ์จากซาอุดิอาระเบีย เปลือกสีแดงสดใส
- Zahidi – ผลมีขนาดกลาง เปลือกสีทองถึงน้ำตาลสว่าง
- Zaghloul – เปลือกสีแดงเข้ม ผลยาว กรอบ
ประโยชน์ของอินทผาลัม
- การรับประทานอินทผาลัมเป็นประจำจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง ปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บ
- ประโยชน์อินทผลัมช่วยบำรุงร่างกาย เพิ่มกำลัง ขจัดความเมื่อยล้า ช่วยดับความหนาวเย็น
- เมื่อร่างกายมีอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรง หากรับประทานอินทผาลัมภายในครึ่งชั่วโมงก็จะทำให้ร่างกายกลับมามีกำลังเหมือนเดิม
- ช่วยรักษาโรคผอมผิดปกติ ช่วยเพิ่มน้ำหนักตัว
- ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
- ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ช่วยป้องกันโรคตาบอดแสงหรือภาวะมองเห็นไม่ชัดในเวลากลางคืน
- ช่วยบำรุงตับอ่อน รักษาโรคเบาหวาน (อ.สุทธิวัสส์)
- ช่วยดูแลและควบคุมระบบประสาท
- อินทผลัมมีโพแทสเซียมสูง จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดในสมองได้มากถึง 40%
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตสูง
- อินทผาลัมช่วยป้องกันมะเร็งช่องท้อง เนื่องจากมีฤทธิ์ช่วยกำจัดสารพิษและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็งในช่องท้องได้
- ช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจได้เป็นอย่างดี
- อินทผาลัมมีประโยชน์ช่วยแก้กระหาย แก้อาการเจ็บคอ
- ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ (สาเหตุมาจากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำและความดันโลหิตต่ำ)
- อินทผาลัมมีสรรพคุณช่วยลดเสมหะในลำคอ
- ช่วยลดความหิวได้เป็นอย่างดี
- อินทผาลัมอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร จึงช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้
- อินทผลัมช่วยในการย่อยอาหาร เพราะมีสารอาหารที่จำเป็นเพียงพอ และมีปัจจัยในการกระตุ้นการย่อยและดูดซึมสารอาหาร จึงช่วยในย่อยได้เป็นอย่างดี
- จากรายงานการวิจัยในประเทศซาอุดิอาระเบีย พบว่าอินทผลัมสามารถช่วยทำให้กระเพาะอาหารแข็งแรง ช่วยป้องกันเยื่อบุในกระเพาะอาหาร ช่วยลดความรุนแรงของแผลในกระเพาะอาหาร และช่วยหลั่งฮิสตามีน (Histamine) และฮอร์โมนแกสตริน (Gastrin) จากการเหนี่ยวนำด้วยเอทานอล และยังช่วยลดระดับมิวซิน (Mucin) ในกระเพาะอาหารอีกด้วย
- ช่วยรักษาและบำบัดพิษต่าง ๆ ด้วยการรับประทานวันละ 7 เม็ด (คัมภีร์อัลกุรอาน)
- ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เนื่องจากในอินทผลัมมีสารฟีลกูลีน จึงช่วยบำรุงการหลั่งน้ำเชื้อของเพศชายได้
- การรับประทานอินทผาลัมในขณะท้องว่างยามเช้า จะช่วยฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ พยาธิและสารพิษที่ตกค้างอยู่ในลำไส้หรือระบบทางเดินอาหารได้
- อินทผลัม ประโยชน์สำหรับเด็กที่มีอาการทรมานทางประสาทโดยธรรมชาติ (อาการกระวนกระวาย หงุดหงิดง่าย มีความเครียด กลัว และกังวล) หรือมีอาการไฮเปอร์ไม่อยู่นิ่ง ให้รับประทานอินทผลัมจะช่วยลดอาการเหล่านี้ได้
- การใส่อินผลัมลงไปในนมจะช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการอย่างมากสำหรับเด็กและผู้ใหญ่
- สำหรับหญิงตั้งครรภ์ การรับประทานอินทผลัมในช่วงเดือนท้าย ๆ ก่อนคลอดบุตร จะช่วยขยายมดลูกในช่วงการคลอด และยังช่วยลดอาการตกเลือดหลังจากการคลอดได้อีกด้วย
- สำหรับหญิงให้นมบุตร การรับประทานอินทผลัมจะช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า และยังช่วยเพิ่มสารอาหารสำคัญในน้ำนม ซึ่งจะช่วยทำให้เด็กมีสุขภาพที่แข็งแรง ช่วยต้านทานโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ อีกด้วย
- สำหรับชาวมุสลิม อินทผลัมสด ๆ เป็นผลไม้ที่ชาวมุสลิมจะเก็บไว้รับประทานในช่วงเดือนรอมฎอน (เดือนถือศีลอด)
- ชาวมุสลิมเชื่อว่าการรับประทานอินทผลัมจะช่วยป้องกันไสยศาสตร์ได้
คุณค่าทางโภชนาการของผลอินทผลัม (สายพันธุ์ Deglet Noor) ต่อ 100 กรัม
- พลังงาน 282 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 75.03 กรัม
- น้ำตาล 63.35 กรัม
- เส้นใย 8 กรัม
- ไขมัน 0.39 กรัม
- โปรตีน 2.45 กรัม
- น้ำ 20.53 กรัม
- วิตามินเอ 10 ไมโครกรัม
- เบตาแคโรทีน 6 ไมโครกรัม 0%
- ลูทีนและซีแซนทีน 75 ไมโครกรัม
- วิตามินบี 1 0.052 มิลลิกรัม 5%
- วิตามินบี 2 0.066 มิลลิกรัม 6%
- วิตามินบี 3 1.274 มิลลิกรัม 8%
- วิตามินบี 5 0.589 มิลลิกรัม 12%
- วิตามินบี 6 0.165 มิลลิกรัม 13%
- วิตามินบี 9 19 ไมโครกรัม 5%
- วิตามินซี 0.4 มิลลิกรัม 0%
- วิตามินอี 0.05 มิลลิกรัม 0%
- วิตามินเค 2.7 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุแคลเซียม 39 มิลลิกรัม 4%
- ธาตุเหล็ก 1.02 มิลลิกรัม 8%
- ธาตุแมกนีเซียม 43 มิลลิกรัม 12%
- ธาตุแมงกานีส 0.262 มิลลิกรัม 12%
- ธาตุฟอสฟอรัส 62 มิลลิกรัม 9%
- ธาตุโพแทสเซียม 656 มิลลิกรัม 14%
- ธาตุโซเดียม 2 มิลลิกรัม 0%
- ธาตุสังกะสี 0.29 มิลลิกรัม 3%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
แหล่งอ้างอิง : www.1000gooddeeds.com, หนังสืออิสลามกับการแพทย์ที่ไม่ต้องพึ่งยา (อะฮ์มัด อามีน ชีราซี), คัมภีร์อัลกุรอาน, วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN)
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)