5 วิธีทำให้เล็บใสวิ้ง (ขัดเล็บเงา) สุดประหยัดงบ !!

เล็บใส

สวัสดีจ้าสาว ๆ ทั้งหลาย วันนี้เราจะมาอัพเดตความเก๋แบบเบา ๆ ด้วยสไตล์เล็บสวยใสแบบเป็นธรรมชาติ ตามมาดูกันเลยดีกว่าว่า มีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้สาว ๆ เล็บใสเงาวับจับตากันได้บ้าง

วิธีทำให้เล็บใส

1. มะนาวขัดเล็บ วิธีแรกดูไปแล้วคล้ายจะเป็นการทำสปาเล็บอยู่เหมือนกัน รับรองได้ว่าสาว ๆ ที่ผิวมักแพ้ง่ายได้ใช้วิธีนี้นอกจากจะไม่ทำให้ผิวแพ้แดงเป็นจ้ำ ๆ แล้ว ยังช่วยทำให้เล็บเงาวับได้อีกต่างหาก แถมทำได้ง่ายและอุปกรณ์ที่ใช้ก็หาง่ายนิดเดียว นั่นก็คือ “เปลือกมะนาวที่บีบใช้แล้ว” โดยนำเปลือกมาครอบบนตัวเล็บ (เอาด้านเนื้อมะนาวเข้าหาตัวเล็บ) จากนั้นก็ถูไปมาให้ครบทุกเล็บ และปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วค่อยล้างออก หากทำติดต่อกัน 3 วัน เล็บที่หมอง ๆ หรือเป็นสีขุ่น ๆ ก็จะค่อย ๆ ใสขึ้นเรื่อย เพราะในน้ำมะนาวจะมีสภาวะเป็นกรดอ่อน ๆ สามารถช่วยชำระล้างคราบสกปรกออกได้ดีและทำให้เล็บเราใสวาววับขึ้น
   
2. ตะไบขัดเงา หรือ ที่ขัดเงาเล็บ (Nail Polish) : วิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ต้องพึ่งสารเคมีแต่อย่างใด และน่าจะเป็นวิธีที่ง่าย ได้ผลและปลอดภัยมากที่สุด เหมาะกับสาว ๆ ทั้งหลายเป็นที่สุด แค่เพียงมีอุปกรณ์เพียง 1 ชิ้น ในราคาสุดย่อมเยา กับแรงขัดของเราอีกเล็กน้อย ขัด ๆ ถู ๆ ง่ายนิดเดียว ก็จะช่วยให้เล็บขาวใสเงาวับจับตาได้แล้ว โดยเจ้าตะไบขัดเงานี้คุณสามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ตามร้านสะดวกซื้อหรือตามตลาดนัดทั่วไปก็มี ราคาอยู่ที่ประมาณ 35-80 บาท โดยในตะไบจะประกอบไปด้วย File, Remove, Buff และ Polish (ภาพ : pantip.com by Dear Jeep, www.dek-d.com by NUGIRL)
   
   • File : จะมีลักษณะพื้นผิวค่อนข้างหยาบ สเต็ปแรกให้นำ File มาขัดบริเวณเล็บให้ทั่ว ผงเล็บจะออกมามากหน่อย มีหน้าที่ช่วยทำให้เล็บเราเรียบสม่ำเสมอกัน
     
   • Remove : สเต็ปต่อมาขัดด้วย Remove ซึ่งตัวนี้จะมีความหยาบน้อยกว่า และมีลักษณะไม่ค่อยต่างกับเนื้อ File เท่าไร โดยให้นำมาขัดอีกรอบหลังจากขัดด้วย File
     
   • Buff : หลังจากขัดด้วยตัวนี้เล็บจะเริ่มเงาขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่มากเท่าไร
     
   • Polish : ปิดท้ายด้วยตัวนี้ ลักษณะเนื้อจะเรียบ ๆ ไม่มีความหยาบเลย เมื่อนำมาขัดเล็บถูไปถูมา เงาก็ขึ้นอย่างชัดเจน บอกเลยว่า แจ่มมากกก เหมือนไปเคลือบเล็บอะไรอย่างงั้น
     
   • ภาพนี้คือภาพเปรียบเทียบระหว่างเล็บที่ยังไม่ได้ขัดกับเล็บที่ขัดแล้ววว
     
3. บล็อกขัดเล็บเงา : มีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยมยาวขนาดประมาณฝ่ามือ ลักษณะของวัสดุเบา ทำมาจากฟองน้ำอัดเป็นแท่งเพื่อใช้งานได้ถนัดมือ มีทั้งหมด 3-4 ด้าน ด้วยกัน คือ ด้านแรกเนื้อจะหยาบหน่อย ไว้ใช้สำหรับขัดเล็บให้เรียบ ส่วนอีกด้านเนื้อจะสากลงมาหน่อย เอาไว้ขัดเล็บให้นุ่มและเรียบยิ่งขึ้น ราคาประมาณ 100 บาท หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่น ส่วนร้านไดโซะก็มีจ้า เวลานำมาขัดมันจะดังวี้ด ๆ ใช้แล้วเล็บเงาลับวิ้งงงมากกก (ภาพ : www.jeban.com by tarzangang)
   • โดยหน้าตาของบล็อกขัดเล็บเงาจะเป็นแบบนี้ (ถ้าเป็นยี่ห้ออื่น ๆ สีของแต่ละด้านอาจจะแตกต่างกันออกไป)
     
   • พอขัดด้วยด้านสีดำเสร็จด้านแรก เล็บจะออกด้าน ๆ นิดนึง
     
   • เมื่อขัดด้วยด้านสีเขียวเสร็จ ก็จะออกมาตามภาพ
     
   • และสุดท้ายใช้ด้านสีขาวขัด สังเกตว่าเล็บจะเงาวิ้งงงขึ้นมาก
     
   • ในรูปอาจจะไม่ชัด แต่ลองทำดูประทับใจแน่นอน !
     
4. กระดาษใบเสร็จรับเงิน : เมื่อเรานำมาขัดเล็บของเรา จะช่วยทำให้เล็บเงางามขึ้น เนื่องจากกระดาษใบเสร็จรับเงินมีความมันและทำงานร่วมกับหมึกที่ติดอยู่บนกระดาษ เมื่อทั้งสอง 2 อย่างนี้มารวมกัน มันจึงมีคุณสมบัติเปรียบเหมือนเป็นตะไบขัดเล็บชั้นดีนั่นเอง (ใช้ด้านที่เป็นหมึกขัดประมาณ 5 นาที) เมื่อเรานำมาขัดเล็บก็จะทำให้เล็บเงาวิ้งได้ในพริบตา ! อ้อ…กระดาษจากการแฟกซ์ก็ใช้ได้เหมือนกันนะ (ภาพ : mthai.com)
   
5. เคลือบเล็บใส สไตล์เกาหลี : อาจจะดูเป็นวิธีที่ทำธรรมดาไปหน่อย แต่แหม !! วิธีธรรมดา ๆ แบบนี้ล่ะค่ะที่ทำให้สาว ๆ พลาดกันมานักต่อนักแล้ว เพราะวันนี้เรามีวิธีการทาน้ำยาเคลือบเล็บอย่างถูกวิธี ที่จะทำให้เล็บของคุณสาว ๆ ดูเป๊ะมากขึ้น นั่นก็คือก่อนทาเล็บให้ล้างทำความสะอาดเล็บด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ พร้อมกับขัดเล็บด้วยแปรงนุ่ม ๆ สักนิด เมื่อเล็บโดนน้ำ ตัวเล็บก็จะอ่อนลง ก็ให้ทำการตัดเล็บตัดหนัง โคนจมูกเล็บให้เรียบร้อย ให้เข้าที่เข้าทางอีกหน่อย มาถึงการทาน้ำยาเคลือบเล็บ ให้เริ่มจาก
   1. ขั้นตอนแรก ให้เริ่มทาจากตรงกลางของเล็บ โดยเริ่มป้ายน้ำยาจากโคนเล็บขึ้นมา
   2. แล้วค่อย ๆ ลากแปรงขึ้นมาจนถึงปลายเล็บ
   3. ทีนี้ก็เริ่มป้ายตามแนวเล็บที่เหลือทีละด้าน โดยไล่จากโคนไปสู่ปลายเล็บ
   4. เสร็จแล้วก็ป้ายขอบเล็บด้านบนเพื่อเป็นการเก็บรายละเอียดเพิ่มเติม (ภาพ : www.dek-d.com by NUGIRL)
      

Tip : แต่ถ้าน้ำยาเคลือบเกิดเหนียวเกาะตัวกันเป็นก้อน ก็ให้ใช้ทินเนอร์หยดลงไปผสมสัก 2 หยด แล้วเขย่าให้เป็นเนื้อเดียวกัน

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)