19 วิธีทำให้รักแร้ขาวเนียน…แก้ปัญหารักแร้ดำคล้ำอย่างได้ผล !

รักแร้ขาว

        ใต้วงแขนขาวสวยเรียบเนียนใคร ๆ ก็อยากมี แต่ลองทำมาหลายวิธีแล้วก็ยังไม่ค่อยได้ผล และบางวิธีกลับทำให้เกิดอาการแพ้และเพิ่มปัญหารักแร้ดำคล้ำขึ้นไปอีก ซ้ำร้ายยังเกิดผิวหนังอักเสบ และเป็นตุ่มหนังไก่อีก จะแก้ให้หายเลยทีเดียวก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ เพียงแต่เราต้องเริ่มเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้รักแร้มันดำคล้ำเสียก่อน เพื่อที่เราจะได้หาทางป้องกันแก้ไขได้อย่างตรงจุด และดูแลรักแร้ให้ขาวเนียนขึ้นอย่างยั่งได้

การดูแลให้รักแร้ขาวขึ้นอย่างถูกวิธีคุณสามารถเริ่มทำได้ง่าย ๆ ด้วยตนเองที่บ้าน โดยเริ่มจากการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ใช้วัตถุดิบตามธรรมชาติอย่างการพอกทาผิวด้วยผลไม้ที่ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง ใช้สารหรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับผิวรักแร้ให้ขาวขึ้น ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีความงามต่าง ๆ มาช่วยอย่างการทำไอออนโตหรือการเลเซอร์

สาเหตุของรักแร้ดำ

        สาเหตุรักแร้ดำสามารถเกิดได้จาก 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก โดยปัจจัยภายในมักจะมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ ชาติกำเนิด หรืออาจเกิดจากโรคผิวหนังบางชนิด ส่วนปัจจัยภายนอกนั้นมักเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รักแร้ดำและเป็นอุปสรรคต่อการทำให้รักแร้ขาวขึ้น โดยสาเหตุต่าง ๆ ดังที่จะกล่าวถึงนี้ อาจเกิดขึ้นกับแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป หรือบางคนก็อาจจะมีหลาย ๆ สาเหตุรวมกัน ดังนั้นถ้าหยุดสาเหตุเหล่านี้ได้ รักแร้ของคุณก็จะขาวขึ้นได้อย่างแน่นอน โดยสาเหตุที่ว่านั้นมีดังนี้ครับ

  • ชาติกำเนิดหรือกรรมพันธุ์จากครอบครัว รวมถึงโรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน (พราะสัญญาณเตือนเบื้องต้นของโรคนี้ คือ ลำคอและรักแร้ มีรอยดำเป็นปื้น ที่ไม่สามารถถูออกได้), โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร (มีผลทำให้รักแร้จะมีปื้นหนาคล้ายกำมะหยี่สีดำ)
  • การเสียดสี ซึ่งอาจเกิดจากน้ำหนักตัวที่มากขึ้น หรือการใส่เสื้อที่รัดแน่นจนเกินไป
  • น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานจะเกิดการสะสมไขมันส่วนเกินตามบริเวณต่าง ๆ เช่า ข้อพับ ใต้โคนแขน ทำให้ผิวหนังเกิดการเบียดและเสียดสีกันเป็นประจำจนทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดรอยดำคล้ำได้
  • การรักษาความสะอาดไม่เพียงพอ การขาดการดูแลความสะอาดผิวอย่างสม่ำเสมอและไม่ดีพอ ไม่ขัดเซลล์ผิวเก่าออกจากผิวหนัง นอกจากจะทำให้ผิวดูคล้ำลงไม่กระจ่างใสแล้วยังอาจทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองจนผิวดำคล้ำได้ครับ
  • การโกน การถอน และการแว็กซ์ขน เพราะเป็นการรบกวนผิวหนังโดยตรง ซึ่งหากทำบ่อย ๆ หรือทำผิดวิธีก็อาจทำให้ผิวหนังอักเสบ หยาบกร้าน เกิดปัญหาตุ่มขนคุด ผิวหนังหนังไก่ และเกิดรอยดำคล้ำตามมาได้
  • การแพ้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ทั้งโรลออน สเปรย์ เซรั่ม หรือผลิตภัณฑ์ในรูปแบบอื่น ๆ ที่เมื่อใช้แล้วเกิดอาการแพ้หรือเกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังใต้วงแขน หรือเกิดผื่น ตุ่มคัน เกิดอาการอักเสบ และทำให้รักแร้ดำคล้ำขึ้น
  • การตั้งครรภ์ เนื่องจากในช่วงตั้งครรภ์ฮอร์โมนในร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่กระทบต่อเม็ดสีผิวหนังจนทำให้ผิวดำคล้ำลงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่เกิดการเสียดสีบ่อยครั้งอย่างรักแร้และข้อพับต่าง ๆ แต่รอยดำคล้ำดังกล่าวอาจหายได้เองหลังคลอดบุตรภายใน 3 เดือน
สาเหตุรักแร้ดำ
IMAGE SOURCE : 123rf.com

วิธีทำให้รักแร้ขาวด้วยตัวเอง

        การดูแลรักแร้ให้ขาวขึ้นสามารถทำได้หลายวิธี แต่อาจต้องพิจารณาจากหลายองค์ประกอบ เพื่อให้ผิวบริเวณรักแร้ขาวเนียนอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งทำได้โดยหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้รักแร้ดำคล้ำดังที่กล่าวไป และปรับผิวให้ขาวด้วยวิธีการต่าง ๆ ควบคู่กันไป ซึ่งบางวิธีอาจทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง แต่บางวิธีอาจต้องพึ่งพาเทคโนโลยีความงามทางการแพทย์ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล สำหรับวิธีการทำให้รักแร้ขาวด้วยตนเองนั้นมีดังต่อไปนี้ครับ

  1. ดูความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายสะอาด ลดสาเหตุของปัญหาแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองผิวใต้วงแขน
  2. หยุดการขัดถูหรือเการักแร้แรง ๆ ตอนอาบน้ำถูสบู่หรือตอนสครับรักแร้ควรทำอย่างเบามือ ส่วนเวลาเช็ดหลังอาบน้ำก็ควรซับเบา ๆ ด้วยเช่นกันด้วยผ้าขนหนู ทั้งนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้รักแร้เกิดรอยถลอกและเป็นรอยดำเนื่องจากการเสียดสีนั่นเอง
  3. สวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม เพราะการสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดตัวเกินไปจะทำให้เกิดการเสียดสีจนเป็นเหตุให้ผิวหนังใต้วงแขนดำคล้ำขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาออกกำลังกาย เราควรเลือกใส่เสื้อผ้าใยสังเคราะห์ที่ระบายเหงื่อได้ดี เลี่ยงเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้าย หรือถ้าจะให้ดีก็ควรสวมเสื้อชั้นในสำหรับเล่นกีฬาโดยเฉพาะ เพราะจะช่วยลดการเสียดสีได้เป็นอย่างดี
  4. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ โดยการออกกำลังกายและเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะการมีน้ำหนักตัวที่มากเกินจะทำให้เกิดอาการรักแร้เบียด เกิดการเสียดสีและทำให้รักแร้ดำคล้ำตามมา แถมน้ำหนักตัวที่มากเกินไปยังอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ที่ทำให้รักแร้ดำคล้ำได้ด้วย เช่น โรคเบาหวาน โรคผิวหนังช้าง เป็นต้น
  5. หลีกเลี่ยงการถอนหรือการแว็กซ์ขนรักแร้ เพื่อลดการรบกวนผิวหนังใต้วงแขน ไม่ให้เกิดปัญหาผิวหนังอักเสบ ตุ่มขนคุด และผิวหนังไก่ แล้วเปลี่ยนไปใช้วิธีการโกนขนรักแร้ไปก่อนชั่วคราว (แนะนำให้เก็บเงินทำเลเซอร์กำจัดขนครับ แล้วคุณค่อยมาหาวิธีทำให้รักแร้ขาวสว่างขึ้นทีหลัง) เพราะการโกนขนรักแร้นั้นอาจทำให้ผิวหนังหยาบกร้านและเกิดขนคุดใต้ผิวหนังจนมีลักษณะคล้ายจุดหรือรอยดำได้ หรือการโกนขนรักแร้โดยใช้ใบมีดที่ทู่อาจทำให้บาดหรือขูดผิวจนเป็นเหตุให้รักแร้ดำได้ตามมาได้ (ถ้าจำเป็นต้องโกนก็แนะนำว่าควรเปลี่ยนใบมีดโกนให้ใหม่คมอยู่เสมอครับ)
  6. หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ใต้วงแขนที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว และพยายามหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์ โดยคุณอาจลองปรับเปลี่ยนใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวหรือผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายในรูปแบบธรรมชาติหรือผลิตจากส่วนผสมทางธรรมชาติแทน เช่น การใช้สารส้ม
  7. ทาแป้ง เพื่อให้รักแร้แห้งและไม่อับชื้น เพราะเหงื่อจะทำให้เกิดการเสียดสีมากยิ่งขึ้นและทำให้เกิดปัญหาตามมา
  8. ทาปิโตรเลียมเจล เพื่อช่วยลดการเสียดสีระหว่างผิวหนังใต้วงแขน หรืออาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันแทนก็ได้
  9. ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น มะนาว มะขามเปียก องุ่น แอปเปิ้ล ซึ่งที่นิยมใช้และหาได้ง่ายก็คือมะนาว โดยให้นำมาพอกทาทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที (หรือใช้ขัดถูบริเวณรักแร้เป็นประจำอย่างเบามือ) แล้วล้างออก หากทำเป็นประจำทุกวันรักแร้ดูขาวกระจ่างใสขึ้น เพราะกรด AHA ในผลไม้เหล่านี้จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ดำคล้ำออกไปและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่เพื่อปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นได้
    ทรีตเมนต์รักแร้ขาว
    IMAGE SOURCE : www.fabhow.com
  10. สูตรมาส์กรักแร้ขาว เป็นการมาส์กหรือพอกผิวเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวใต้วงแขนให้ดูกระจ่างใสยิ่งขึ้นด้วยสูตรธรรมชาติที่หาทำได้ง่าย ๆ หลายสูตร เช่น
    • สูตรมาส์กโยเกิร์ตผสมน้ำมะนาว เป็นสูตรช่วยฟื้นบำรุงผิว ผลัดเซลล์ผิว ลดความหมองคล้ำ และช่วยให้ผิวรักแร้เนียนนุ่มขึ้น โดยให้ใช้โยเกิร์ตธรรมชาติครึ่งถ้วยผสมน้ำมะนาวครึ่งลูก ผสมให้เข้ากันแล้วนำมาพอกที่รักแร้ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก
    • สูตรมาส์กมะขามเปียกผสมน้ำผึ้ง ใช้มะขามเปียกผสมกับน้ำผึ้งเล็กน้อย คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาพอกรักแร้ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออก ซึ่งสูตรนี้จะช่วยลดรอยดำคล้ำและช่วยให้ผิวเนียนนุ่มขึ้นได้
  11. วิธีทำให้รักแร้ขาวด้วยยาสีฟัน วิธีดังกล่าวได้มีการรีวิวทางอินเทอร์เน็ตกันมานานแล้ว แต่ยังไม่มีการให้ความเห็นจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าสามารถทำให้รักแร้ขาวขึ้นได้จริงหรือจะมีผลข้างเคียงใด ๆ หรือไม่ แต่เมื่อดูสารประกอบในยาสีฟันทั่วไปแล้วก็จะพบว่ามันมีสารขัดถู (แคลเซียมคาร์บอเนต เกลือแกง ผงฟู), สารทำความสะอาดหรือสารซักฟอก (Sodium Lauryl Sulfate) และสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (Triclosan) ที่อาจช่วยให้รักแร้ขาวขึ้นได้ แต่สารบางตัวที่มักมีในยาสีฟันก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เช่น ฟลูออไรด์ ที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือผิวไหม้ได้
            แต่ถ้าใครอยากลองทำดูก็มีขั้นตอนง่าย ๆ คือ ใช้ยาสีฟันเนื้อสีขาว บีบยาสีฟันข้างละประมาณ 1 เมล็ดอัลมอนด์ แล้วนำมาทาบาง ๆ บริเวณใต้วงแขนทั้งสองข้างทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ครบแล้วก็ล้างออกด้วยน้ำเปล่า ในขณะที่ล้างก็ค่อย ๆ ขัดถูไปด้วยอย่างเบามือ (อาจใช้แฟรงสีฟันเก่าขนนุ่มหรือแปรงแต่งหน้าที่ไม่ใช้แล้วเป็นตัวช่วยขัดก็ได้ แต่ต้องทำอย่างเบามือ) เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นเก่าให้หลุดลอกออกไป (ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง)

วิธีทำให้รักแร้ขาว

  1. ครีมทารักแร้ขาว ในปัจจุบันมีให้เลือกใช้มากมายหลายยี่ห้อ คุณควรเลือกยี่ห้อที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน มี อย. รับรองความปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และควรทดสอบก่อนใช้ทุกครั้งว่ามีความอ่อนโยนผิวใช้แล้วไม่เกิดการระคายเคือง (สิ่งที่ควรระวังและหลีกเลี่ยงเลยก็คือครีมทารักแร้ขาวที่ดูไม่มาตรฐาน ไม่มี อย. ที่อาจแอบใส่ส่วนผสมของสารต้องห้าม เช่น สารปรอท สเตียรอยด์ ไฮโดรควิโนน ซึ่งแม้จะได้ผลดีในช่วงแรกแต่ภายหลังจะทำให้ผิวบริเวณที่ทาเกิดการระคายเคือง แห้งเป็นรอยแตกลาย และดำคล้ำลงไปมากกว่าเดิมได้)
  2. ใช้โรลออนที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งที่ปลอดภัย เช่น วิตามินซี ฯลฯ และที่สำคัญควรเป็นโรลออนที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ด้วย
  3. มีตัวช่วยผลัดเซลล์ผิว ที่นิยมใช้ก็มี 2 ตัวด้วยกันครับ คือ กรดไกลโคลิก (AHA) และกรดซาลิไซลิก (BHA) ซึ่งเป็นตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวบริเวณรักแร้ที่ดำคล้ำเสียและเป็นเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดลอกออก และกระตุ้นให้เซลล์ผิวใหม่ที่กระจ่างใสขึ้นมาแทนที่ แต่การเลือกใช้ก็ควรเลือกใช้ความเข้มข้นที่เหมาะสมด้วย อย่าง AHA ก็ควรเลือกใช้ที่ความเข้มข้นไม่เกิน 15% และไม่ควรทาทิ้งไว้เกิน 10 นาที เป็นต้น
  4. ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ เช่น ครีมเตรติโนอิน (Tretinoin) ที่นิยมก็คือ ยี่ห้อ Retin-A ที่อาจช่วยเร่งการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก และช่วยลดเลือนรอยคล้ำบนผิวหนังจากขนคุดใต้วงแขน แต่ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจมีผลข้างเคียงทำให้ผิวแห้งได้ จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ทุกครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะอาจส่งผลกระทบให้ทารกพิการแต่กำเนิดได้
  5. ไอออนโต/โฟโน (Ionto) คือการใช้เครื่องผลักเจลวิตามินเข้าสู่ผิวในบริเวณที่ต้องการสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ซึ่งปกติจะนิยมเอามาใช้ทำกับหน้า แต่เราก็สามารถนำใช้ทำกับรักแร้ได้เช่นกัน โดยจะมีทั้งเครื่องมาตรฐานที่ใช้ในคลินิกความงาม (ไปทำที่คลินิก) และเครื่องแบบโฮมยูสมือถือ (ทำเองที่บ้าน) ที่กำลังได้รับความนิยม ซึ่งในปัจจุบันเครื่องมือถือแบบนี้ก็มีเยอะมากครับ โดยมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นบาท ส่วนตัวเจลวิตามินที่ช่วยให้ผิวขาวขึ้นนั้นก็มีหลายตัว เช่น เจลวิตามินซี เจลลิโคไลซ์ เจลโคจิก เจลอาร์บูติน เป็นต้น แต่เจลวิตามินที่ใช้กับเครื่องพวกนี้จะมีอยู่หลายเกรด ผมแนะนำให้ใช้เฉพาะเกรดทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานเท่านั้นครับ ทั้งนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้และใช้ได้ผลอย่างยั่งยืนครับ
  6. กำจัดขนรักแร้ด้วยเลเซอร์ หยุดวิธีการกำจัดขนรักแร้ด้วยวิธีเดิม ๆ (โกน ถอน หรือแว็กซ์) ที่เป็นหนึ่งในต้นตอของปัญหารักแร้ดำคล้ำด้วยการเปลี่ยนมากำจัดขนแบบถาวรด้วยเลเซอร์ เพราะการทำเลเซอร์กำจัดขนรักแร้ที่มากพอ (ประมาณ 6-8 ครั้ง เว้นระยะเวลา 3-5 สัปดาห์ต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับความหมองคล้ำ ความหนาของเม็ดสี ของแต่ละบุคคล) จะช่วยกำจัดขนรักแร้ในระยะยาวได้อย่างถาวร ทำให้เส้นขนขึ้นช้าลงและดูบางลงจนแทบมองไม่เห็น แถมยังมีผลพลอยได้คือช่วยลดเหงื่อและกลิ่นตัวได้ด้วย
            การกำจัดขนรักแร้ด้วยเลเซอร์เป็นวิธีการกำจัดขนโดยใช้พลังงานแสงเลเซอร์เข้าไปทำลายรากขน โดยเมลานิน (เซลล์เม็ดสี) ที่รากขนซึ่งมีหน้าที่ดูดซับแสงจะดูดซับพลังงานแสงนี้เอาไว้ หลังจากนั้นพลังงานแสงจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนและทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่มีเซลล์เม็ดสีถูกทำลายลง เส้นขน รากขน และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ที่ทำหน้าผลิตขนจึงถูกทำลายไปด้วย รวมถึงเนื้อเยื่อเชื่อมต่อบริเวณรากขนและเส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยงด้วย จึงทำให้ไม่สามารถผลิต Stem cells ที่ทำให้ขนงอกได้ เป็นผลให้วงจนการเกิดขนใหม่จะช้าออกไปเรื่อย ๆ เส้นขนที่เกิดใหม่จะมีขนาดเล็กลง สีอ่อนลง และค่อย ๆ ขึ้นน้อยลง และหากทำเลเซอร์ซ้ำ ๆ หลายครั้ง เส้นขนก็จะค่อย ๆ หมดไปในที่สุด
            สำหรับตัวเลเซอร์ที่นิยมใช้กำจัดขนรักแร้แล้วได้ผลดีก็คือ Long-pulsed Nd:YAG laser ที่มีความยาวคลื่น 1064 นาโนเมตร (ส่วน Q-switched Nd:YAG ไม่แนะนำครับ แม้จะมีราคาคอร์สทำที่ถูกกว่า แต่ระยะความยาวคลื่นไม่ค่อยเหมาะกับใช้กำจัดขน จึงทำลายรากขนไม่ค่อยได้ จึงได้ผลช้าในการกำจัดขน) แต่การจะทำแล้วได้ผลดีหรือไม่นั้นก็ขึ้นปัจจัยอยู่หลายอย่างครับ ตั้งแต่สีผิวและสีขน (ผิวเข้มมีเม็ดสีเยอะ ผิวขาวมีน้อย จึงใช้ความยาวคลื่นต่างกัน), ความลึกของรากขน, พลังงานที่สูงพอ, ความยาวคลื่นที่ใช้ (คลื่นยาวเหมาะกับคนผิวเข้ม ส่วนคลื่นสั้นเหมาะกับคนผิวขาว) และวงจรชีวิตของเส้นขน (เลเซอร์จะได้ผลดีเฉพาะระยะเจริญตัวของเส้นขนเท่านั้น เพราะเป็นขนที่ในระยะที่มีความเข้มข้นของเซลล์เม็ดสีสูงสุด นี่จึงเป็นสาเหตุหลักที่ว่าทำไมต้องทำเลเซอร์หลายครั้ง เพราะเส้นขนในบริเวณเดียวกันอาจอยู่ในระยะต่างกันได้ เราจึงต้องใช้เวลาเพื่อรอให้เส้นขนในระยะอื่น ๆ กลับเข้าสู่ระยะเจริญตัวอีกครั้งเพื่อที่จะกำจัดขนได้หมดครับ)
    เลเซอร์รักแร้ขาว
    ตัวอย่างภาพขั้นตอนการทำเลเซอร์กำจัดขนรักแร้
  7. ไอพีแอล (IPL) คือแสงความเข้มข้นสูงที่ไม่ใช่เลเซอร์ครับ แต่มีหลักการเดียวกันกับเลเซอร์ คือเป็นการใช้คลื่นแสงความเข้มข้นสูงเข้าไปจับกับบริเวณรากขนและเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนในการทำลายต้นตอของขน การทำไอพีแอลจะมีราคาถูกกว่าการทำเลเซอร์ ลำแสงจะมีความยาวคลื่นที่กว้างกว่าและกระจายตัวได้มากกว่าเลเซอร์ (ผิวบริเวณที่ทำอาจได้รับผลกระทบจากลำแสงไปด้วย ทำให้ผิวหนังบริเวณรอบ ๆ มีอาการบวมแดงได้) ในขณะที่เลเซอร์จะมีคลื่นความยาวเดียว มีโฟกัสที่แคบและลงลึกกว่า จึงได้ผลในการจัดขนที่ตรงจุดและดีกว่านั่นเองครับ คือถ้าจะทำทั้งทีก็แนะนำให้ทำเลเซอร์ไปเลยจะดีกว่าครับ (โดยปกติแล้วแพทย์จะใช้เครื่องไอพีแอลเพื่อรักษารอยดำรอยแดงเป็นหลัก แต่ก็สามารถปรับระยะความยาวของคลื่นเพื่อยิงกำจัดขนได้)
  8. เลเซอร์รักแร้ขาว ตัวนี้ก็จะเป็นการทำเลเซอร์ที่ใช้ความยาวคลื่นสั้นเน้นไปที่ผิวชั้นตื้นเป็นหลัก เช่น 532 นาโนเมตร โดยเลเซอร์จะปล่อยพลังงานออกมาในช่วงสั้น ๆ แต่ให้กำลังแสงสูง ซึ่งแสงที่ปล่อยออกมานั้นจะไปถูกเซลล์เม็ดสีและเซลล์เม็ดสีจะดูดซับแสงเอาไว้ และถูกทำลายและสลายไปเองตามกลไกธรรมชาติ ทำให้มีการผลิตเม็ดสีบริเวณนั้นน้อยลง โดยรวมแล้วจึงทำให้รักแร้ดูขาวเนียนดูกระจ่างใสขึ้นตามลำดับในแต่ละครั้งที่ทำ ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอขึ้น แถมยังช่วยทำให้ผิวรักแร้ดูเนียนเกลี้ยงขึ้นและรูขุมขนดูกระชับขึ้นด้วย แต่การทำเลเซอร์นี้ก็อาจช่วยปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใสได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น และต้องทำทุก ๆ 2 สัปดาห์ (สามารถทำไปสลับควบคู่กับการทำเลเซอร์กำจัดขนได้)

โดยสรุปแล้ว สูตรการทำให้รักแร้ขาวเนียนขาวไวอย่างได้ผลและยั่งยืนก็คือ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง ๆ > หาคอร์สทำเลเซอร์กำจัดขนรักแร้ (เน้น Long-pulsed Nd:YAG laser) > เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใต้วงแขนที่ดีและไม่ระคายเคือง และหมั่นทำทรีตเมนต์บ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง (เช่น การใช้เครื่องผลักเจลวิตามินแบบมือถือทำเองที่บ้าน)

        อย่างไรก็ตาม แม้การปรับผิวบริเวณใต้วงแขนให้ขาวขึ้นด้วยวิธีการข้างต้นจะช่วยให้รอยดำคล้ำบริเวณรักแร้จางลงและทำให้รักแร้ขาวเนียนขึ้นได้ แต่วิธีเหล่านี้ก็ไม่สามารถรักษาโรคหรือภาวะที่เป็นสาเหตุทำให้รักแร้ดำคล้ำได้แต่อย่างใด ดังนั้น หากคุณเป็นผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่ส่งผลให้รักแร้ดำ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม หรืออาจปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังโดยเฉพาะเพื่อช่วยวางแผนการรักษาดูแลรักแร้ให้ขาวกระจ่างใสขึ้นอย่างปลอดภัยและได้ผลต่อไป

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด