ถอบแถบน้ำ
ถอบแถบน้ำ ชื่อวิทยาศาสตร์ Derris trifoliata Lour. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Dalbergia heterophylla Willd., Deguelia trifoliata (Lour.) Taub., Deguelia uliginosa (Willd.) Baill., Deguelia uliginosa var. loureiri Benth., Derris affinis Benth.)[1],[2] จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยถั่ว FABOIDEAE (PAPILIONOIDEAE หรือ PAPILIONACEAE)[2]
สมุนไพรถอบแถบน้ำ มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ทับแถบ (สมุทรสงคราม), แถบทะเล ถอบแถบทะเล (เพชรบุรี), ถั่วน้ำ (นราธิวาส), แควบทะเล ผักแถบ (ภาคกลาง) เป็นต้น[1],[2],[3]
ลักษณะของถอบแถบน้ำ
- ต้นถอบแถบน้ำ จัดเป็นไม้เถาขนาดใหญ่ ลำต้นมักทอดเลื้อยไปตามพื้นดิน ยาวได้ประมาณ 5-10 เมตร กิ่งเรียวยาว มักขึ้นตามฝั่งแม่น้ำและพื้นที่พรุใกล้กับทะเล[1],[2]
- ใบถอบแถบน้ำ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ ออกเรียงเวียน มีใบย่อยประมาณ 1-2 คู่ และที่ปลายอีก 1 ใบ ก้านใบยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร ส่วนก้านใบย่อยมีขนาดสั้น ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปไข่แกมรูปขอบขนาน หรือเป็นรูปรีแกมรูปขอบขนานถึงรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ปลายใบแหลมถึงเรียวแหลม โคนใบทู่ถึงมนกลม ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1.5-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 3-10 เซนติเมตร ผิวใบเกลี้ยงทั้งสองด้าน มีเส้นใบประมาณ 8-10 คู่[1],[2]
- ดอกถอบแถบน้ำ ออกดอกเป็นช่อเดี่ยวตามง่ามใบ ช่อดอกยาวประมาณ 5-15 เซนติเมตร ดอกมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร ดอกเป็นสีขาวก่อน และจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน โดยจะออกดอกในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม[2]
- ผลถอบแถบน้ำ ออกผลเป็นฝักเบี้ยว ลักษณะของฝักเป็นรูปขอบขนาน ขอบฝักเป็นสันบางแคบ ๆ สันฝักด้านบนกว้างกว่าด้านล่างสองเท่า ฝักมีขนาดประมาณ 3 x 3.5 เซนติเมตร ฝักเป็นสีเขียว เมื่อแก่จะเป็นสีเหลือง มีเมล็ดเดี่ยว ซึ่งเมล็ดมีลักษณะแบนเป็นรูปไต มีขนาดยาวประมาณ 1-1.2 เซนติเมตร[1],[2]
สรรพคุณของถอบแถบน้ำ
- รากใช้เป็นยาแก้พิษตานซาง (ราก)[3]
- เถาใช้เป็นยาแก้ตานขโมย (เถา)[3]
- ช่วยระบายพิษไข้ (ทั้งต้น)[3]
- รากมีสรรพคุณช่วยขับเสมหะ ถ่ายเสมหะ (ราก)[1],[3]
- ช่วยถอนพิษสำแดง (เถา)[3]
- เถาและใบมีสรรพคุณเป็นยาขับลม (เถา, ใบ)[1],[3]
- รากมีสรรพคุณช่วยขับผายลม ทำให้ถ่ายอุจจาระ (ราก)[1],[3]
- เถา ราก ใบ และทั้งต้นมีสรรพคุณเป็นยาระบาย (เถา, ราก, ใบ, ทั้งต้น)[1],[3]
- ใช้เป็นยาขับพยาธิ (ทั้งต้น)[3]
- รากและเปลือกต้นมีสรรพคุณเป็นยาแก้ปวดข้อ (ราก, เปลือกต้น)[1],[3]
- ช่วยแก้อาการปวดกระดูก (ราก)[3]
- ทั้งต้นมีสรรพคุณเป็นยาแก้อาการเกร็ง (ทั้งต้น)[3]
หมายเหตุ : วิธีการใช้ตาม [1] ในส่วนของเถาและต้น ให้นำเถาหรือต้นประมาณ 1 กำมือ นำมาต้มกับน้ำดื่มเช้าและเย็น[1]
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของถอบแถบน้ำ
- สารสำคัญที่พบ ได้แก่ anyrin, camplsterol, cholesterol, quercetin, neohesperidoside, rhamnitin, stigmasterol[1]
- ถอบแถบน้ํามีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ และฆ่าแมลง[1]
- เมื่อปี ค.ศ.2008 ที่ประเทศอินเดีย ได้มีการศึกษาโดยการสกัดใบและลำต้นของถอบแถบด้วยเมทานอลเพื่อทำการศึกษาผลของของการลดระดับไขมันและน้ำตาลในเลือด โดยได้ทำการทดลองในหนูที่ถูกกระตุ้นให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูง จากนั้นให้สารสกัดจากถอบแถบ ภายหลังการทดลองพบว่าระดับของคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.01) หลังจากให้สารสกัดประมาณ 7 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม ระดับของไขมันดี (HDL) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติหลังจากให้ถอบแถบ 7 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาลดไขมัน fenofibrate ดังนั้นจึงอาจสรุปได้ว่า ถอบแถบมีฤทธิ์ในการลดระดับไขมันในเลือดได้ เนื่องจากสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลรวม ไตรกลีเซอไรด์ และเพิ่มไขมันดีได้[1]
ประโยชน์ของถอบแถบน้ำ
- ใช้เป็นยาฆ่าแมลง[1]
- ส่วนข้อมูลจากเว็บไซต์ bangkrod.blogspot.com ที่อ้างอิงในหนังสือพรรณไม้ในสวนหลวง ร.9 เล่มที่ 2 ได้ระบุว่า ที่หมู่เกาะโซโลมอน จะใช้รากแห้งเป็นยาเบื่อปลา ตำรับยาพื้นบ้านอินเดียจะใช้ทั้งต้นแห้งนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาคลายกล้ามเนื้อปวดเกร็ง เถามีลักษณะเหนียวสามารถนำมาใช้แทนเชือกได้ และยังสามารถนำใบแก่จัดมาใช้เป็นส่วนผสมในการทำแชมพูสมุนไพรกำจัดเหาได้อีกด้วย
เอกสารอ้างอิง
- หนังสือสมุนไพรลดไขมันในเลือด 140 ชนิด. (เภสัชกรหญิง จุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก). “ถอบแถบ” หน้า 91-92.
- ระบบฐานข้อมูลกลางและมาตรฐานข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง. “ถอบแถบน้ำ”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : marinegiscenter.dmcr.go.th. [01 ก.ย. 2014].
- สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 (สงขลา) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. “ถอบแถบน้ำ Derris trifoliata Lour.”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.dnp.go.th/mfcd20/. [01 ก.ย. 2014].
ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Nelindah, andreas lambrianides, Shubhada Nikharge, Russell Cumming, Dinesh Valke)
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)