ตะลิงปลิง สรรพคุณและประโยชน์ของตะลิงปลิง 26 ข้อ !

ตะลิงปลิง สรรพคุณและประโยชน์ของตะลิงปลิง 26 ข้อ !

ตะลิงปลิง

ตะลิงปลิง ชื่อสามัญ Bilimbi, Bilimbing, Cucumber tree, Tree sorrel

ตะลิงปลิง ชื่อวิทยาศาสตร์ Averrhoa bilimbi L. จัดอยู่ในวงศ์กระทืบยอด (OXALIDACEAE)

สมุนไพรตะลิงปลิง มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า มูงมัง (เกาะสมุย), กะลิงปริง ลิงปลิง ลิงปลิง ปลีมิง (ระนอง), บลีมิง (นราธิวาส), มะเฟืองตรน, หลิงปลิง (ภาคใต้) เป็นต้น

ลักษณะของตะลิงปลิง

  • ต้นตะลิงปลิง มีถิ่นกำเนิดในแถบชายฝั่งทะเลของบราซิล เป็นไม้ผลที่นิยมปลูกทั่วไปเพราะลำต้นมีพวงแน่นที่สวยงาม และยังเป็นพืชร่วมวงศ์กับมะเฟือง แต่จะแตกต่างกันอย่างชัดเจนตรงขนาดของผล โดยผลมะเฟืองจะมีขนาดใหญ่กว่าผลตะลิงปลิง ต้นตะลิงปลิงนั้นจัดเป็นพืชในเขตร้อนและเป็นไม้ผลยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 5-15 เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก เปลือกต้นสีชมพู ผิวเรียบมีขนนุ่มปกคลุมอยู่ตามกิ่ง ลักษณะของใบตะลิงปลิงเป็นใบประกอบแบบขนนก ใบสีเขียวอ่อนมีขุยนุ่มปกคลุม ใบคล้ายรูปหอก ปลายใบแหลม โคนใบมน ในหนึ่งก้านจะมีใบย่อยประมาณ 11-37 ใบ ขนาดใบกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ยาว 2-5 เซนติเมตร ส่วนลักษณะของดอกตะลิงปลิง จะออกดอกเป็นช่อหลายช่อ ตามกิ่งและลำต้น โดยในแต่ละช่อจะมีความยาวไม่เกิน 6 นิ้ว ลักษณะดอกมีกลีบ 5 กลีบ ดอกสีแดงเข้ม มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบสีเขียวอมชมพู มีเกสรกลางดอกสีขาว

ต้นตะลิงปลิง

ตะลิงปลิง

ดอกตะลิงปลิง

  • ผลตะลิงปลิง ลักษณะกลมยาวปลายมน ผลยาวประมาณ 4-6 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร เป็นพูตามยาว ออกผลเป็นช่อห้อย ผิวของผลมีลักษณะเรียบสีเขียว แต่เมื่อสุกแล้วจะกลายเป็นสีเหลือง เนื้อข้างในเป็นเนื้อเหลว มีรสเปรี้ยว และมีเมล็ด ลักษณะของเมล็ดตะลิงปลิงจะแบนยาว มีสีขาว

ลูกตะลิงปลิง

สรรพคุณของตะลิงปลิง

  1. ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ผล)
  2. ช่วยแก้พิษร้อนใน แก้กระหายน้ำ (ราก)
  3. ผลใช้ผสมกับพริกไทย นำมารับประทานจะช่วยขับเหงื่อได้ (ผล)
  4. ตะลิงปลิงมีสรรพคุณช่วยฟอกโลหิต (ผล)
  5. ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน (ผล)
  6. ในประเทศฟิลิปปินส์ใช้ใบพอกรักษาคางทูม (ใบ, ราก)
  7. สมุนไพรตะลิงปลิงมีสรรพคุณเป็นยาลดไข้ (ผล)
  8. ช่วยดับพิษร้อนของไข้ (ราก)
  9. ดอกตะลิงปลิงนำมาชงเป็นชาดื่มช่วยแก้อาการไอ (ดอก, ผล)
  10. ช่วยละลายเสมหะ แก้เสมหะเหนียวข้น (ผล)
  11. ช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร (ผล, ราก)
  12. ช่วยแก้อาการเลือดออกตามกระเพาะอาหารและลำไส้ (ราก)
  13. ช่วยรักษาอาการอักเสบของลำไส้ (ใช้ใบต้มดื่ม, ราก)
  14. ช่วยรักษาซิฟิลิส (Syphilis) (ใช้ใบต้มดื่ม, ราก)
  15. ช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร (ผล, ราก)
  16. ใช้เป็นยาบำรุงแก้อาการปวดมดลูก (ผล)
  17. ช่วยบรรเทาอาการของโรคเกาต์ (ราก)
  18. ใบใช้รักษาโรครูมาตอยด์ (ใบ)
  19. ช่วยแก้ไขข้ออักเสบ (ใบ, ราก)
  20. ช่วยฝาดสมาน (ผล, ราก)
  21. ใบช่วยรักษาอาการอักเสบ (ใบ)
  22. ใบตะลิงปลิงใช้พอกแก้อาการคัน ลดอาการบวมแดงให้หายเร็วขึ้น หรือใช้ต้มอาบก็ได้ (ใบ, ราก)
  23. มีผลงานวิจัยที่ประเทศสิงคโปร์พบว่าสารสกัดน้ำของสารสกัดเอทานอลของใบตะลิงปลิง สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดของสัตว์ทดลองได้เป็นอย่างดี
  24. งานวิจัยในประเทศฟิลิปปินส์ชี้ว่าน้ำคั้นจากผลตะลิงปลิงมีฤทธิ์ในการคุมกำเนิด โดยได้ทดลองกับสุกรและหนู พบว่าร้อยละ 60 ของหนูทดลองหลังผสมพันธุ์แล้วไม่ติดลูก โดยเชื่อว่าสเตอรอยด์ไกลโคไซด์และกรดออกซาลิกในน้ำคั้นมีส่วนในการออกฤทธิ์คุมกำเนิดดังกล่าว

ประโยชน์ของตะลิงปลิง

  • ประโยชน์ตะลิงปลิง ผลสามารถนำมารับประทานร่วมกับพริกเกลือหรือนำไปใส่แกงก็ได้ ทำเป็นตะลิงปลิงตากแห้ง หรือทำเป็นเครื่องดื่มนํ้าตะลิงปลิง
  • ใบสามารถนำพอกใช้รักษาสิวได้ (ใบ, ราก)

คุณค่าทางโภชนาการของตะลิงปลิง (เฉพาะส่วนที่กินได้) ต่อ 100 กรัม

  • โปรตีน 0.61 กรัม
  • แคโรทีน 0.035 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 1 0.010 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 2 0.026 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 3 0.302 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 15.5 มิลลิกรัม
  • ธาตุแคลเซียม 3.4 มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก 1.01 มิลลิกรัม
  • ธาตุฟอสฟอรัส 11.1 มิลลิกรัม

ข้อมูลจาก : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN)

วิธีทำน้ำตะลิงปลิง

  1. ให้เตรียมวัตถุดิบดังนี้ ตะลิงปลิง 1/2 กิโลกรัม / เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ / น้ำตาล 2 ถ้วย / น้ำ 3 1/2 ถ้วย / น้ำเชื่อม
  2. สำหรับสูตรการทำน้ำตะลิงปลิง ให้เอาน้ำกับน้ำตาลตั้งไฟพอเดือดจนละลายดีแล้วให้ยกลง ทิ้งไว้ให้เย็น
  3. นำตะลิงปลิงมาล้างให้สะอาด เอาขั้วและเมล็ดออก แล้วนำมาเป็นชิ้น ๆ แบ่งเป็น 2 ส่วน
  4. นำตะลิงปลิงใส่เครื่องปั่น 1 ส่วน และเติมน้ำเชื่อมลงไปครึ่งหนึ่งจนถึงจุดที่ปั่นแล้วไม่ล้นเครื่องปั่น แล้วเติมเกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะลงไป แล้วปั่นให้ละเอียด
  5. เมื่อปั่นเสร็จให้เทลงในตะแกรง กรองเอากากออก แล้วทำแบบเดิมกับตะลิงปลิงส่วนที่เหลือก็จะได้น้ำตะลิงปลิงที่เข้มข้นมากข้นประมาณเหยือก 1 ลิตร
  6. เสร็จแล้ว “น้ำตะลิงปลิง” ลองชิมรสชาติดูได้เลย ถ้าชอบเค็มก็เติมเกลือเพิ่ม แต่ถ้าอยากให้หวานน้อยลงก็ให้เติมน้ำสุกเย็นตามความเหมาะสม กะให้รสหวานเปรี้ยวกำลังดีเมื่อผสมกับน้ำแข็งเกล็ด

แหล่งอ้างอิง : เว็บไซต์คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), เว็บไซต์หมอชาวบ้าน, เว็บไซต์โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย, เว็บไซต์ฝ่ายปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด