กรามช้าง สรรพคุณและประโยชน์ของต้นกรามช้าง 5 ข้อ !

กรามช้าง

กรามช้าง ชื่อวิทยาศาสตร์ Smilax blumei A.DC. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Smilax perfoliata Blume) จัดอยู่ในวงศ์ข้าวเย็นเหนือ (SMILACACEAE)[1]

ลักษณะของต้นกรามช้าง

  • ต้นกรามช้าง จัดเป็นไม้เลื้อยขนาดใหญ่ มีความยาวได้ถึง 10 เมตร กิ่งก้านเรียวมีหนาม[1]
  • ใบกรามช้าง ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่แกมรูปวงรีถึงรูปไข่แกมสามเหลี่ยม ใบมีขนาดกว้างประมาณ 8-18 เซนติเมตรและยาวประมาณ 13-27 เซนติเมตร มีเส้นใบออกจากโคนใบไปจรดปลายใบ 5 เส้น ส่วนก้านใบเป็นสันสามเหลี่ยมมน และมีหูใบเป็นรูปไข่กลับแผ่เป็นครีบ มือเกาะยาวประมาณครึ่งหนึ่งของแผ่นใบ[1]
  • ดอกกรามช้าง ออกดอกเป็นช่อ ออกเป็นคู่ ๆ ตามซอกใบ ดอกเป็นแบบแยกเพศอยู่กันคนละต้น โดยช่อดอกเพศผู้จะมีดอกย่อยประมาณ 30-50 ดอก ส่วนช่อดอกเพศเมียจะมีดอกย่อยประมาณ 20-40 ดอก มีกลีบรวมสีเหลืองแกมสีเขียว[1]
  • ผลกรามช้าง ผลมีลักษณะเป็นรูปทรงกลม เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม[1]

กรามช้าง

สรรพคุณของกรามช้าง

  • ตำรับยาแก้ทอนซิลอักเสบ ระบุให้ใช้รากกรามช้าง รากตาล และรากไผ่ นำมาฝนน้ำรับประทานเป็นยาแก้ทอนซิลอักเสบ (ราก) [1]
  • ตำรับยาพื้นบ้านล้านนาจะใช้หัวใต้ดินของต้นกรามช้างนำมาฝนหรือหั่นเป็นชิ้น ๆ โดยใช้ครั้งละ 2-3 ชิ้น นำมาต้มกับน้ำดื่มวันละ 3 ครั้ง เป็นยาแก้ท้องเสีย (หัว) [1]
  • ตำรับยารักษารำมะนาดระบุให้ใช้รากกรามช้าง รากเกล็ดลิ่น รากชุมเห็ดเล็ก รากชุมเห็ดเทศ รากงิ้ว รากถั่วพู รากแตงเถื่อน รากฟักข้าว รากปอขาว ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว เครือข้าวเย็น ต้นกระไดลิง ต้นมะกอกเผือก นำมาฝนกับน้ำซาวข้าวเจ้ากินรักษารำมะนาด (ราก) [1]
  • ตำรับยาผีเครือเหลือง ระบุให้ใช้รากกรามช้าง รากก่อเผือก รากคำแสนซีก รากไค้ตีนกรอง รากช่ำ รากเล็บเหยี่ยว รากมะพร้าว รากมะตูมป่า แก่นชมพู่ แก่นจันทน์แดง แก่นศรีคันไชย แก่นหาดเยือง ข้าวเย็น เขาเลียงผา ต้นกระไดลิง ต้นหมากขี้แรด นอแรดเครือ ว่านกีบแรด นำมาฝนกับน้ำข้าวเจ้ากินเป็นยาผีเครือเหลือง (ราก) [1]

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของกรามช้าง

  • มีการวิจัยทางคลินิกในประเทศจีน ได้ใช้กรามช้าง (ไม่ระบุว่าส่วนใด) นำมาผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ มากกว่า 10 ชนิด เพื่อใช้รักษาโรคตับอักเสบชนิดบี ซึ่งผลการทดลองพบว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นถึง 74.5%[1]

ประโยชน์ของกรามช้าง

  • หัวใต้ดินสามารถนำมาใช้แทนหัวข้าวเย็นได้ (เข้าใจว่าใช้แทนได้ทั้งหัวข้าวเย็นเหนือและหัวข้าวเย็นใต้) [1]
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือสมุนไพรพื้นบ้านล้านนา. (ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล).  “กรามช้าง”.  หน้า 197.

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด