แคนตาลูป
แคนตาลูป (Cantaloupe) หรือ “แตงแคนตาลูป” แคนตาลูป ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ “Cucumis melo L. var. cantaloupensis” เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพชนิดหนึ่งที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย แต่มีผู้นำผลไม้ชนิดนี้ไปปลูกที่ประเทศอิตาลีในเมือง “แคนตาลูโป (Cantalupu)” ซึ่งอยู่ใกล้กับกรุงโรม จึงเป็นที่มาของชื่อผลไม้ชนิดนี้ โดยผลไม้ชนิดนี้ได้นำเข้ามาในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ.2478 โดยปลูกครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จนได้มีการนำมาทดลองปลูกที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ปรากฏว่าได้ผลดี โดยแหล่งปลูกแคนตาลูปที่สำคัญของประเทศในปัจจุบันอยู่ที่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดเชียงใหม่ และกรุงเทพมหานคร
ผลแคนตาลูปจะมีลักษณะคล้ายกับแตงไทยบ้านเรา คนไทยจึงนิยมเรียกกันว่า แตงเทศ, แตงฝรั่ง, แตงไทยฝรั่ง โดยลักษณะของผลจะกลม ผิวมีสีเขียว เหลือง ขาว น้ำตาลคล้ำ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์นั้น ๆ เป็นหลัก ผิวของผลจะหยาบ เปลือกแข็ง มีร่องลึกรอบ ๆ ผล เปลือกจะมีลายคล้ายร่างแหหรือตาข่าย เมื่อสุกแล้วเนื้อข้างในจะมีสีส้มหรือสีจำปา รสชาติออกหวาน มีกลิ่นหอม แต่ถ้าจะนำมาทำน้ำแคนตาลูป แนะนำว่าควรเลือกแคนตาลูปที่กำลังสุกพอดี ถ้าอ่อนมากเกินไปจะไม่มีกลิ่นหอม แต่ถ้าสุกมากเกินไปเมื่อลองเขย่าดูจะมีน้ำอยู่ข้างใน ยิ่งเสียงน้ำมากเท่าไหร่แปลว่ายิ่งสุกมากเท่านั้น และให้เลือกผลขนาดกลาง ๆ น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม โดยเลือกผิวที่เรียบตึง ไม่เป็นรอยหยักหรือเลือกที่เป็นสีนวลเหมือนเปลือกไข่ก็ใช้ได้
สำหรับประโยชน์ของแคนตาลูปและสรรพคุณของแคนตาลูปนั้นมีอยู่มากมาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุโซเดียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุเหล็ก โดยแคนตาลูป 1 ชิ้น น้ำหนักประมาณ 250 กรัม ให้พลังงาน 40 แคลอรี ซึ่งแคนตาลูปที่ปลูกในช่วงฤดูกาลประมาณเดือนเมษายน จะมีวิตามิน 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 และวิตามินซีมากกว่าแคนตาลูปที่ปลูกนอกช่วงฤดูกาล
สรรพคุณของแคนตาลูป
- มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงธาตุ
- มีส่วนช่วยรักษาโรคความดันโลหิต
- ช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยในการลดไข้ เพราะน้ำแคนตาลูปเป็นผลไม้เย็น
- ช่วยดับร้อน แก้กระหาย
- ช่วยเป็นยาขับปัสสาวะ
- ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ
- ช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการอักเสบของลำไส้
- ช่วยบรรเทาอาการท้องปั่นป่วนจากการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา
- ช่วยในการขับน้ำนม
- ช่วยในการขับเหงื่อ
- ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ประโยชน์ของแคนตาลูป
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
- ช่วยในการชะลอวัยและลดการเกิดริ้วรอย
- มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยเสริมสร้างภูมิร่างกายให้แก่ร่างกาย
- ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
- มีส่วนช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
- มีส่วนช่วยในเรื่องของการเกิดสมาธิ
- น้ำแคนตาลูปปั่น หวานสดชื่น ดับร้อน แก้กระหายได้เป็นอย่างดี วิธีการทำง่าย ๆ คือ ปอกเปลือกแคนตาลูปแล้วนำเมล็ดออก > นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กประมาณ 1 ถ้วย > แตงโมเอาเม็ดออกครึ่งถ้วย > น้ำส้มคั้นครึ่งถ้วย > มะนาว 1 ช้อนชา > ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่น > ปั่นจนได้ที่ เสร็จแล้วน้ำแคนตาลูปฝีมือของเรา
คุณค่าทางโภชนาการของแคนตาลูปต่อ 100 กรัม
- พลังงาน 34 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 8.16 กรัม
- น้ำตาล 7.86 กรัม
- เส้นใย 0.9 กรัม
- ไขมัน 0.19 กรัม
- โปรตีน 0.84 กรัม
- วิตามินเอ 169 ไมโครกรัม 21%
- เบตาแคโรทีน 2,020 ไมโครกรัม 19%
- ลูทีนและซีแซนทีน 26 ไมโครกรัม
- วิตามินบี 1 0.041 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินบี 2 0.019 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี 3 0.734 มิลลิกรัม 5%
- วิตามินบี 5 0.105 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี 6 0.072 มิลลิกรัม 6%
- วิตามินบี 9 21 ไมโครกรัม 5%
- โคลีน 7.6 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินซี 36.7 มิลลิกรัม 44%
- วิตามินเค 2.5 ไมโครกรัม 2%
- ธาตุแคลเซียม 9 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุเหล็ก 0.21 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุแมงกานีส 0.41 มิลลิกรัม 20%
- ธาตุฟอสฟอรัส 15 มิลลิกรัม 2%
- โพแทสเซียม 267 มิลลิกรัม 6%
- ธาตุโซเดียม 16 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุสังกะสี 0.18 มิลลิกรัม 2%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
“ไม่ควรรับประทานแคนตาลูปติดต่อกันนานจนเกินไป เนื่องจากแคนตาลูปเป็นผลไม้ที่ดูแลยาก มีปัญหาเรื่องโรคต่าง ๆ และแมลงต่าง ๆ มากมาย โดยการปลูกแคนตาลูปนั้นต้องใช้ยาที่แรงและฉีดบ่อยมาก บางคนฉีดยาไม่เว้นแต่ละวัน แม้กระทั่งวันเก็บผลผลิตขายก็ยังฉีด ยามันจึงสะสมไว้ในลูกแคนตาลูป การรับประทานเข้าไปก็อาจจะสะสมไว้ในร่างกายเรื่อย ๆ ซึ่งอันตรายมาก” คำสัมภาษณ์จากลุงลอง นายลิขิต เคลื่อนดอน ผู้ปลูกแคนตาลูปในจังหวัดสระแก้ว
แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), บทสัมภาษณ์จากลุงลอง (นายลิขิต เคลื่อนดอน)
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)