เถาวัลย์ปูน สรรพคุณและประโยชน์ของต้นเถาวัลย์ปูน 6 ข้อ !

เถาวัลย์ปูน

เถาวัลย์ปูน ชื่อวิทยาศาสตร์ Cissus repanda (Wight & Arn.) Vahl จัดอยู่ในวงศ์องุ่น (VITACEAE)[1]

สมุนไพรเถาวัลย์ปูน มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า เครือจุ้มจ้า (เชียงราย), เถาพันซ้าย (อุตรดิตถ์), เถาวัลย์ปูน (กรุงเทพฯ), ส้มเฮียก (ภาคเหนือ), เครือเขาน้ำ เคือคันเขาขันขา เคือเขาคันเขา ส้มละออม (ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ), ส้มออบ (ลั้วะ) เป็นต้น[1],[2]

ลักษณะของเถาวัลย์ปูน

  • ต้นเถาวัลย์ปูน จัดเป็นพรรณไม้เถาขนาดเล็ก มักเลื้อยพาดพันต้นไม้อื่น ๆ และมีมือเกาะคล้ายเถาตำลึง เถานั้นจะมีละอองเป็นสีขาว เกาะจับกันอย่างหนาแน่น จนมองดูเป็นสีนวล พบขึ้นได้ตามที่รกร้างทั่วไป[1]

ต้นเถาวัลย์ปูน

  • ใบเถาวัลย์ปูน ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดเท่าฝ่ามือ ลักษณะของใบเป็นรูปหัวใจเฉือนปลายแหลม ส่วนตรงกลางใบและริมทั้งสองข้างจะแหลมเป็นสามยอด ตรงกลางจะสูงและมีเว้าตรงข้าง[1]

รูปเถาวัลย์ปูน

ใบเถาวัลย์ปูน

  • ดอกเถาวัลย์ปูน ดอกมีลักษณะคล้ายดอกเถาคัน[1]

ดอกเถาวัลย์ปูน

ดอกเถาวัลย์ปูน

สรรพคุณของเถาวัลย์ปูน

  1. เถามีรสฝาดเปรี้ยว ใช้ปรุงเป็นยากินรักษาโรคกระษัย น้ำมูกพิการ (เถา)[1]
  2. ใช้เป็นยาขับเสมหะ (เถา)[1]
  3. ใช้ปรุงกินเป็นยาขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ (เถา)[1]
  4. ใบสดใช้ขยี้กับปูนกินหมาก เอาฟองทาพอกเป็นยารักษาแผลสด (ใบ)[1]
  5. เถามีสรรพคุณช่วยทำให้เส้นเอ็นหย่อน (เถา)[1]

ประโยชน์ของเถาวัลย์ปูน

  • ใบใช้ใส่ในแกงบอนทำให้มีรสเปรี้ยว (ใช้แทนมะนาว)[2]
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5.  (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).  “เถาวัลย์ปูน”.  หน้า 348-349.
  2. โครงการเผยแพร่ข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นบนพื้นที่สูง, สถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง (องค์กรมหาชน).  “เถาวัลย์ปูน, เถาพันซ้าย”.  อ้างอิงใน : หนังสือชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : eherb.hrdi.or.th.  [12 ธ.ค. 2014].

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Dinesh Valke)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด