หลั่งนอก : 8 ข้อดี-ข้อเสีย & 16 คำถามยอดฮิต…หลั่งนอกท้องไหม ?

หลั่งนอก : 8 ข้อดี-ข้อเสีย & 16 คำถามยอดฮิต…หลั่งนอกท้องไหม ?

หลั่งนอก

หลั่งน้ำอสุจิภายนอกช่องคลอด หรือที่คนทั่วไปมักเรียกว่า “หลั่งข้างนอก” หรือ “หลั่งภายนอก” (Coitus interruptus, Rejected sexual intercourse, Withdrawal, Pull-out method) เป็นวิธีที่ช่วยลดโอกาสการตั้งครรภ์อย่างหนึ่งที่เมื่อร่วมเพศไปในระยะแรกจะเป็นไปอย่างปกติ (ฝ่ายชายจะไม่ได้สวมถุงยางอนามัย) จนกระทั่งฝ่ายชายรู้สึกใกล้จะหลั่งน้ำอสุจิ ฝ่ายชายจะถอนอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดก่อนที่จะถึงจุดสุดยอด และหลั่งน้ำอสุจิออกมาภายนอกช่องคลอดของฝ่ายหญิงแทน โดยไม่ให้น้ำอสุจิเปื้อนบริเวณปากช่องคลอด เพราะอาจจะทำให้เชื้ออสุจิเข้าไปในช่องคลอดได้ โดยคิดไปเองว่าจะไม่ทำให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ของฝ่ายหญิงได้และไม่เกิดการตั้งครรภ์ ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจที่ผิดครับ !! เพราะในระหว่างที่เรากำลังมีเพศสัมพันธ์ อาจจะมีเชื้ออสุจิออกมากับน้ำเมือกบ้างแล้วบางส่วน หรือเมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอดแล้วแต่ฝ่ายชายถอนอวัยวะเพศไม่ทัน จนหลั่งน้ำอสุจิเข้าไปภายในช่องคลอดหรือบริเวณปากช่องคลอด เหล่านี้เชื้ออสุจิก็สามารถผ่านเข้าไปในช่องคลอดได้แล้วครับ จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์สูง

สำหรับสาเหตุที่วิธีการหลั่งนอก (แตกนอก) เป็นที่นิยมกันมากโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ก็คงมาจากความง่าย ความสะดวกสบาย ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกันใด ๆ แถมยังให้ความรู้สึกถึงอารมณ์แบบเนื้อแนบเนื้ออีกต่างหาก อีกทั้งวัยรุ่นส่วนใหญ่ก็อายที่จะไปซื้อถุงยางอนามัยในร้านสะดวกซื้อมาใช้ หรือบางครั้งก็ฉุกเฉินเกินกว่าจะเตรียมอุปกรณ์ป้องกันได้ทันที ส่วนอีกสาเหตุสำคัญก็คงมาจากความมั่นอกมั่นใจของฝ่ายชายนี่แหละที่บางคนคิดเอาแต่ได้ โดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมา หรือมาจากความมั่นใจแบบผิด ๆ ว่าปล่อยนอกยังไงก็ไม่ท้องอย่างแน่นอน คราวนี้เรามาดูข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหลั่งนอกกันเลยดีกว่า จะได้หายสงสัยสักทีว่าทำไมหลั่งนอกแล้วแต่ก็ยังท้องได้อยู่ !!

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหลั่งนอก

  • การหลั่งนอกเป็นวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพน้อยมาก มีโอกาสล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้สูง
  • ในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ ในน้ำหล่อลื่นของฝ่ายชายนั้นจะมีเชื้ออสุจิปะปนออกมาด้วยอยู่แล้ว แต่ไม่เยอะเท่าตอนถึงจุดสุดยอดเท่านั้นเอง !! เพราะฉะนั้นจึงเป็นไปได้สูงที่ตัวอสุจิเหล่านี้จะเดินทางไปปฏิสนธิกับไข่ในระหว่างการทำกิจกรรม
  • ในกรณีที่หลั่งไม่ไกลจากช่องคลอดมากพอ เชื้ออสุจิก็ยังสามารถแหวกว่ายเข้าไปในช่องคลอดของฝ่ายหญิงและทำการปฏิสนธิได้อยู่ดี เนื่องจากทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงต่างก็มีน้ำหล่อลื่นที่เป็นตัวช่วยทำให้อสุจิสามารถเดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
  • การมีเพศสัมพันธ์ต่อครั้งที่ 2, 3, 4 ฯลฯ ในทันทีจะยิ่งมีความเสี่ยงสูงมากขึ้นไปอีก แม้จะล้างทำความสะอาดมาอย่างดีแล้วก็ตาม เพราะปลายอวัยวะเพศชายยังอาจมีเชื้ออสุจิหลงเหลืออยู่ แต่ที่แน่ ๆ คือในท่อปัสสาวะจะยังมีน้ำเชื้อค้างอยู่จากรอบที่แล้วอย่างแน่นอน ซึ่งมันอาจจะออกมาปิ๊ดหนึ่งในระหว่างร่วมเพศก่อนที่คุณจะหลั่งในรอบถัดไปก็ได้ ในกรณีที่ทำได้ก็คือการปัสสาวะทิ้งก่อนจะมีเพศสัมพันธ์รอบถัดไป ซึ่งจะถือเป็นการล้างท่อไปด้วยในตัว และทำความสะอาดที่ปลายองคชาตเพื่อล้างอสุจิที่ตกค้างออกให้เรียบร้อยก่อนที่ปฏิบัติภารกิจในรอบถัดไป

ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดของการหลั่งนอก

ข้อมูลจาก Contraceptive technology (20th revised ed.) ระบุว่าตามหลักแล้วการหลั่งภายนอกช่องคลอดอย่างถูกต้อง (Perfect use) ตามหลักทฤษฎีเป๊ะ ๆ จะมีโอกาสล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4% ซึ่งหมายความว่าการตั้งครรภ์จากการคุมกำเนิดด้วยการหลั่งนอกจำนวน 100 คน จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4 คน แต่โดยทั่วไปหรือในโลกความเป็นจริงแล้ว มันก็ต้องมีเป๊ะบ้าง ไม่เป๊ะบ้างเป็นธรรมดา ทำให้การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ (Typical use) มีอัตราการล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้สูงมากขึ้นเป็น 22% หรือคิดเป็นเกือบ 1 ใน 4 คน จากผู้ที่คุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ ส่วนด้านล่างนี้เป็นตารางเปรียบเทียบระหว่างการคุมกำเนิดด้วยวิธีการหลั่งนอกกับวิธีการคุมกำเนิดแบบอื่น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจครับ

วิธีคุมกำเนิด|การใช้แบบทั่วไป|การใช้อย่างถูกต้อง|ระดับความเสี่ยง
ยาฝังคุมกำเนิด|0.05 (1 ใน 2,000 คน)|0.05|ต่ำมาก
ทำหมันชาย|0.15 (1 ใน 666 คน)|0.1|ต่ำมาก
ห่วงอนามัยเคลือบฮอร์โมน|0.2 (1 ใน 500 คน)|0.2|ต่ำมาก
ยาฉีดคุมกำเนิด (ฮอร์โมนรวม)|0.2 (1 ใน 500 คน)|0.2|ต่ำมาก
ทำหมันหญิง (แบบทั่วไป)|0.5 (1 ใน 200 คน)|0.5|ต่ำมาก
ห่วงอนามัยหุ้มทองแดง|0.8 (1 ใน 125 คน)|0.6|ต่ำมาก
ยาฉีดคุมกำเนิด (ฮอร์โมนเดี่ยว)|6 (1 ใน 17 คน)|0.2|ปานกลาง
แผ่นแปะคุมกำเนิด|9 (1 ใน 11 คน)|0.3|ปานกลาง
วงแหวนคุมกำเนิด (NuvaRing)|9 (1 ใน 11 คน)|0.3|ปานกลาง
ยาเม็ดคุมกำเนิด|9 (1 ใน 11 คน)|0.3|ปานกลาง
ถุงยางอนามัยชาย|18 (1 ใน 5 คน)|2|สูง
การหลั่งนอก|22 (1 ใน 4 คน)|4|สูงมาก
การหลั่งใน (ไม่มีการป้องกัน)|85 (6 ใน 7 คน)|85|สูงมาก
หมายเหตุ : ตัวเลขที่แสดงเป็นจำนวนการตั้งครรภ์ต่อปี (first year of use) ของสตรีที่คุมกำเนิดด้วยวิธีดังกล่าวจำนวน 100 คน โดยกำหนดให้ สีฟ้า = ความเสี่ยงต่ำมาก / สีเขียว = ความเสี่ยงต่ำ / สีเหลือง = ความเสี่ยงปานกลาง / สีส้ม = ความเสี่ยงสูง / สีแดง = ความเสี่ยงสูงมาก (ข้อมูลจาก : www.contraceptivetechnology.org, Comparison of birth control methods – Wikipedia)

ถ้าจะให้เข้าใจง่าย ๆ ตามภาษาชาวบ้านก็ตามด้านล่างนี้เลยครับ 🙂

  • หลั่งนอกอย่างถูกวิธี (ไกลจากช่องคลอดมากพอ) > เสี่ยง
  • หลั่งนอกแบบผิดวิธี (ไม่ไกลช่องคลอดมากพอ) > เสี่ยงมาก
  • หลั่งนอกและล้างอวัยวะเพศสะอาดแล้ว + มีเพศสัมพันธ์ต่อทันที > โครตเสี่ยง หาคู่มือการเลี้ยงลูกมาอ่านรอได้เลยครับ !!
  • หลั่งนอกและล้างอวัยวะเพศไม่สะอาดดีพอ + มีเพศสัมพันธ์ต่อทันที > เตรียมเลี้ยงลูกได้เลยครับ 🙂

ข้อดีของการหลั่งนอก

  1. เป็นวิธีที่ใช้ได้เสมอ ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ อาศัยแต่เพียงความอดทนและเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นเท่านั้น โดยสามีจะต้องไม่หลั่งน้ำอสุจิเร็ว ยิ่งถ้าควบคุมการหลั่งน้ำอสุจิได้ด้วยแล้ว โดยรอให้ฝ่ายภรรยาถึงจุดสุดยอดเสียก่อนก็จะได้ผลดีต่อทั้งคู่
  2. เป็นวิธีที่ง่าย สะดวก ประหยัด ไม่ต้องเสียเงิน ไม่ต้องอาศัยเครื่องมือแพทย์ใด ๆ
  3. ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับฮอร์โมน จึงไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ฮอร์โมนเหมือนยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด และแผ่นแปะคุมกำเนิด
  4. ไม่มีผลต่อประจำเดือน ทำให้ประจำเดือนมาตามปกติ เมื่อหยุดใช้ภาวะการเจริญพันธุ์จะกลับมาทันที

ข้อเสียของการหลั่งนอก

  1. วิธีนี้เป็นวิธีที่มีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์สูง สามีบางคนอาจสงสัยว่าทำไมภรรยาถึงตั้งครรภ์ได้ทั้ง ๆ ที่หลั่งนอกทุกครั้ง ก็อย่างที่บอกนั่นแหละครับว่ามันมีโอกาสผิดพลาดได้ง่ายมาก !!
  2. ทำให้คู่สมรสมีความสุขจากการร่วมเพศได้ไม่เต็มที่ (โดยเฉพาะฝ่ายสามี) ส่วนฝ่ายหญิงก็มีโอกาสถึงจุดสุดยอดน้อยลง เพราะฝ่ายสามีต้องฝืนใจเอาอวัยวะเพศออกขณะที่จะถึงจุดสุดยอดทั้งที่ไม่อยากทำ
  3. ในบางกรณี (โดยเฉพาะวัยรุ่นมือใหม่) มักเกิดอาการตื่นเต้นจนทำให้หลั่งเร็วหรือไม่สามารถควบคุมการหลั่งได้ ความเสี่ยงก็จะสูงมากขึ้น
  4. ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ โดยเฉพาะ เอดส์ เริม หนองใน ซิฟิลิส ฯลฯ

หลากหลายคำถามเกี่ยวกับการหลั่งนอก

มีอะไรกันแล้วแตกนอกจะท้องหรือเปล่า ?

  • ฟันธงไม่ได้ครับ เพราะขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย แต่ถ้าให้เดาก็ถือว่าอยู่ในระดับ เสี่ยง ครับ

มีอะไรกับแฟน โดยที่ไม่ได้ป้องกันอะไรเลย แต่หลั่งนอกจะมีโอกาสเสี่ยงไหม ?

  • เสี่ยงเหมือนกันครับ แต่อาจจะบอกเป็นตัวเลขไม่ได้ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างตามที่กล่าวมา และขึ้นอยู่กับวันที่มีประจำเดือนรอบสุดท้าย วันที่มีเพศสัมพันธ์อยู่ในช่วงตกไข่ด้วยหรือไม่ เป็นต้น

มีอะไรกับแฟน แต่ทำไม่เสร็จ ในช่วงที่สอดใส่ อยากรู้ว่าจะมีน้ำอสุจิปะปนมากับน้ำหล่อลื่นหรือเปล่า เครียดมากกลัวท้อง ?

  • ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยครับ ยิ่งนานก็ยิ่งมีโอกาสมาก ถึงจะเสร็จไม่เสร็จก็ตาม

ไม่ได้สอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปในช่องคลอดและหลั่งนอก จะมีโอกาสตั้งครรภ์หรือไม่ ?

  • เป็นคำถามที่น่าสนใจครับ แต่ขอตอบว่า ไม่ตั้งครรภ์อย่างแน่นอนครับ เพราะการจะตั้งครรภ์ได้จะต้องมีการสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปแล้วเท่านั้น หากเพียงแค่ถูภายนอก จะไม่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ เนื่องจากไม่มีของเหลวหรือสารคัดหลั่งพาอสุจิให้แหวกว่ายเข้าไปได้ อีกทั้งอสุจิที่อยู่ภายนอกช่องคลอดก็สามารถมีชีวิตได้เพียงไม่กี่นาที (ไม่เหมือนในช่องคลอดที่มีสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม ทำให้อสุจิสามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายวันหรือหลายชั่วโมง)

มีอะไรกับแฟน โดยสอดใส่เข้าไปข้างใน แต่หลั่งข้างนอก กลัวท้องมาก อยากทราบว่ามีความจำเป็นต้องกินยาคุมฉุกเฉินหรือไม่ ?

  • การหลั่งนอกคือวิธีการช่วยลดโอกาสการตั้งครรภ์ ไม่ใช่วิธีนี้คุมกำเนิดแต่อย่างใด เนื่องจากตัวอสุจิสามารถหลุดรอดออกมาในระหว่างการร่วมเพศและมีโอกาสที่จะเกิดการปฏิสนธิและตั้งครรภ์ได้ อีกทั้งการหลั่งนอกยังมีโอกาสผิดพลาดได้สูงมาก ดังนั้นจึงไม่ควรใช้การหลั่งนอกในการคุมกำเนิด แต่ควรหันมาใช้ถุงยางอนามัยแทน สำหรับในกรณีนี้อาจมีความจำเป็นต้องใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเข้าช่วยเพื่อลดโอกาสในการตั้งครรภ์

ครั้งแรกเขาหลั่งนอก แต่พอครั้งที่ 2 เขาใส่ถุงยางอนามัย จะมีโอกาสท้องหรือเปล่า ?

  • ตั้งแต่ครั้งแรกที่ไม่ได้ใส่ถุงยางก็ถือว่าเสี่ยงแล้วครับ

มีอะไรกันวันที่ประจำเดือนหมดพอดีและหลั่งข้างนอก จะมีโอกาสตั้งครรภ์สูงไหม ?

  • โอกาสตั้งครรภ์ก็มีครับ แต่ก็น้อย เพราะยังอยู่ในช่วงปลอดภัย แต่จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้นหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ยิ่งใกล้ประจำเดือน

สามีหลั่งนอกแต่หลั่งอยู่บริเวณปากช่องคลอดจะท้องหรือเปล่า ?

  • เสี่ยงตั้งครรภ์สูงครับ เพราะในกรณีที่หลั่งไม่ไกลจากช่องคลอดมากพอ เชื้ออสุจิจะยังสามารถแหวกว่ายเข้าไปในช่องคลอดของฝ่ายหญิงและทำการปฏิสนธิได้อยู่

แฟนหลั่งนอก แต่หลั่งใส่กางเกงในตรงบริเวณจุดนั้นพอดี แต่หนูไม่ได้อาบน้ำทันที จะมีโอกาสท้องหรือไม่ ?

  • ไม่ได้ใส่ถุงก็ถือว่าเสี่ยงแล้ว แต่กรณีนี้คงมีความเสี่ยงมากขึ้นไปอีกครับ

มีอะไรกับแฟนเสร็จแล้ว เอาออกมาหลั่งข้างนอก แล้วเอากระดาษทิชชูเช็ด แล้วมีเพศสัมพันธ์กันต่อ จะท้องหรือเปล่า ?

  • เสี่ยงสูงมากครับ เพราะในท่อปัสสาวะจะยังคงมีน้ำเชื้อค้างอยู่ และพร้อมจะปิ๊ดออกมาได้ในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งต่อไป

มีเพศสัมพันธ์กับแฟนครั้งแรกแล้วหลั่งนอก จากนั้นจึงไปล้างหัวออกและลองรีดตรงหัวดูและไม่พบน้ำอสุจิ แล้วไปมีเพศสัมพันธ์ต่อในทันทีจะมีโอกาสท้องรึเปล่า ?

  • เสี่ยงสูงมากครับ เพราะแม้จะรีดน้ำออกหมดแล้วก็จริง แต่ในท่อปัสสาวะอาจจะยังมีน้ำเชื้อค้างอยู่ ซึ่งน้ำเชื้อที่ค้างอยู่จากรอบที่แล้วอาจจะออกมาในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งใหม่ ก่อนที่คุณจะหลั่งในรอบถัดไปก็ได้

มีอะไรกับแฟนไม่ได้ใส่ถุงและหลั่งนอกตลอด พอจะแตก ก็ชักออกมาแล้ววิ่งไปชักต่อในห้องน้ำจนเสร็จ + ฉี่และล้างทำความสะอาดอย่างดี แล้วมาทำต่อรอบสอง แบบนี้จะมีโอกาสท้องหรือเปล่า ?

  • เสี่ยงมากครับ หาชื่อลูกไว้รอได้เลย
  • คห.สมาชิกหมายเลข 1274171 บอกว่า “ของพี่ก็ทำแบบน้องล่ะค่ะ ตอนนี้ได้มา 2คน แล้วค่ะ หญิง 1 คน ชาย 1 คน
  • คห.shaman king บอกว่า “เพื่อนเราใช้วิธีนี้ ลูกสองแล้วค่ะ
  • คห.Kiruna บอกว่า “ผมเองก็ทำแบบนี้ 4-5 ปีก็ไม่ท้อง (แต่ไม่เคยเช็ด) พอพร้อมที่จะมีลูก แตกในเดือนแรกก็ท้องเลย

แฟนบอกว่ามีน้ำแตกนิดเดียวแล้วเอาออกจะมีสิทธิ์ท้องหรือไม่ ?

  • ไม่ต่างอะไรกับการปล่อยในเลยครับ พูดง่าย ๆ คือ มีความเสี่ยงสูงมากครับ

มีเพศสัมพันธ์กับแฟนติดกันหลายวัน โดยไม่ได้ใส่ถุง แต่แตกนอกตลอด จะท้องหรือเปล่า ?

  • หาคู่มือการเลี้ยงลูกมาอ่านรอได้เลยครับ ราคาเล่มละไม่เกิน 200 บาท

นอนกับแฟนมาหลายวัน แตกนอกตลอด ประจำเดือนไม่มา จะท้องหรือเปล่า ?

  • เตรียมเลี้ยงลูกได้เลยครับ

สามีชอบหลั่งนอก แต่ดิฉันอยากมีลูกมาก เพราะอายุมากแล้ว บางครั้งใช้นิ้วป้ายอสุจิที่หลั่งนอกแล้วสอดเข้าไปในช่องคลอด ก็ยังไม่ท้องสักที ควรจะทำยังไงดี ?

  • ต้องคุยกับสามีแล้วล่ะครับ แล้วลองตั้งใจทำกันจริง ๆ จัง ๆ ดูครับ แต่ก็อย่างที่ผมบอกไปครับ “บางคนไม่อยากมีดันมี บางคนอยากมีแทบตายแต่ทำอย่างไรก็ไม่มีสักที

สำหรับใครที่มีถำถาม ก็ถามมาได้ใต้โพสต์นี้เลยนะครับ !

  • แต่ขอเป็นคำถามใหม่ เพื่อผมจะได้นำมารวบรวมไว้ จะได้เป็นประโยชน์กับผู้อ่านท่านอื่น ๆ ขอบคุณครับ
ข้อพึงระลึก
  • หากไม่ได้ป้องกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถุงยางอนามัยกล่องหนึ่ง 60-70 บาท ใช้ซะจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวล ที่แจกฟรีก็มีเยอะไปครับ
  • การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้มีโอกาสผิดพลาดเยอะ ไม่เชื่อลองค้นใน Google คำว่า “ใครใช้วิธีหลั่งนอกแล้วท้องบ้าง” แล้วไปหาอ่านใน pantip ดูได้เลย ความเห็นส่วนใหญ่บอกว่าจากประสบการณ์ใช้วิธีนี้ในการคุมกำเนิดแล้วพบว่าท้องมากกว่าคนไม่ท้องซะอีก อย่าได้ลองเชียว ถ้าไม่จำเป็นฉุกเฉินจริง ๆ
  • จากผลการวิจัยจากนิตยสาร Human Fertility ISSUE เปิดเผยว่า 41% ของผู้ชายที่มีน้ำใส ๆ ที่ออกมาก่อนสำเร็จความใคร่จะมีน้ำอสุจิจำนวนมากถึง 40 ล้านตัว !!

สรุป สำหรับใครที่คิดจะถามคำถามเดิม ๆ ว่าจะท้องหรือไม่ คำตอบแบบฟันธงว่าท้องหรือไม่ท้องคงไม่มีหรอกครับ เพราะหลาย ๆ คู่ ตั้งใจจะมีลูกปล่อยในตลอดทั้งเดือนก็ยังไม่มีสักที ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพใด ๆ ส่วนโอกาสท้องที่จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็คงวัดกันได้ยาก เพราะแต่ละคู่มีปัจจัยแตกต่างกัน เช่น สุขภาพของทั้งคู่, รอบเดือนของฝ่ายหญิง, ระยะเวลาการมีเพศสัมพันธ์, จังหวะการปล่อยนอก, จำนวนครั้งที่มีเพศสัมพันธ์, การเช็ดล้างทำความสะอาด, ฝ่ายชายพลาดปล่อยในไปบ้างแล้วแต่ไม่บอกฝ่ายหญิง ฯลฯ เรื่องเหล่านี้คงไม่มีใครรู้เท่าตัวเราเองหรอกจริงไหมครับ แต่เท่าที่ผมรู้ได้อย่างหนึ่งก็คือ ถ้ายิ่งทำแบบนี้บ่อย ๆ และไม่ระวัง โอกาสเสี่ยงก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายก็อยากจะฝากบอกน้อง ๆ ที่ยังไม่พร้อมจะมีลูกนะครับ ว่าอย่าคิดทำอะไรเสี่ยง ๆ หาทางป้องกันไว้จะดีกว่า เพราะถ้าพลาดมาแล้วชีวิตเราทั้งชีวิตอาจเปลี่ยนไปเลยก็ได้ ขอให้โชคดีครับ

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด