ส้มโอ สรรพคุณและประโยชน์ของส้มโอ 32 ข้อ ! (Pomelo)

ส้มโอ สรรพคุณและประโยชน์ของส้มโอ 32 ข้อ ! (Pomelo)

ส้มโอ

ส้มโอ ชื่อสามัญ Pomelo (Pomelo มาจากคำว่า Pampelmoose ในภาษาดัตซ์ ซึ่งแปลว่า “ส้มที่มีขนาดเท่าฟักทอง”)

ส้มโอ ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus maxima (Burm.) Merr. จัดอยู่ในวงศ์ส้ม (RUTACEAE)

ส้มโอเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับในประเทศนั้นจะปลูกส้มโอมากในภาคตะวันตกและยังจัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยเราอีกด้วย

สำหรับชาวจีนแล้ว ส้มโอถือว่าเป็นเครื่องสังเวยที่สำคัญอย่างมาก เพราะมีความเชื่อว่าหลังจากไหว้เสร็จ ถ้าผ่าผลส้มโอออกมาแล้วกลางลูกแห้ง ไม่มีน้ำ จะสื่อความหมายถึงความโชคดี นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของชาวจีนที่เสียชีวิตในการกู้ชาติอีกด้วย

ส้มโอจัดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์หลากหลายและยังมีสรรพคุณทางยาในการรักษาโรคต่าง ๆ เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระในปริมาณมาก และยังมีวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆที่จำเป็นต่อร่างกายอีกหลายชนิด โดยส่วนที่จะนำมาใช้ประโยชน์ก็มีหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นผล เปลือก ใบ และเมล็ด ก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเปลือกและผลซึ่งเป็นส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์มากที่สุด

ส้มโอสรรพคุณส้มโอ

ประโยชน์ของส้มโอ

  1. รับประทานส้มโอช่วยขับสารพิษในร่างกายได้ (ผล)
  2. มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง (ผล)
  3. ในตำราจีนเปลือกส้มโอใช้เป็นยาแก้ธาตุไม่ปกติ ช่วยแก้อาการไอ ผสมในยาหอมกินแล้วทำให้สดชื่น (เปลือก)
  4. ในตำราคาไทย เปลือกส้มโอจัดอยู่ในเปลือกส้มทั้ง 8 ประการ ซึ่งประกอบไปด้วย เปลือกส้มโอ เปลือกส้มเขียวหวาน เปลือกส้มจีน เปลือกส้มซ่า เปลือกส้มตรังกานู เปลือกมะนาว เปลือกมะกรูด เปลือกมะงั่น ซึ่งมีสรรพคุณแก้ลม (ระบบไหลเวียนโลหิต) แก้เสมหะ และใช้ปรุงเป็นยาหอม (เปลือก)
  5. มีความเชื่อว่าสตรีที่ยังไม่ได้แต่งงานจะนำส้มโอมาทาหน้า เพราะเชื่อว่าจะช่วยทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง สดใส (ผล)
  6. เชื่อว่าการรับประทานส้มโอจะช่วยทำให้ตาสดใสและเป็นประกาย (ผล)
  7. ช่วยให้เจริญอาหาร เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่เบื่ออาหาร ปากไม่รู้รสอาหาร (ผล)
  8. ส้มโอมีวิตามินซีสูง จึงช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน (ผล)
  9. ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ด้วยการนำใบมาตำแล้วพอกบริเวณศีรษะ (ใบ)
  10. ช่วยแก้อาการเมาสุรา (ผล)
  1. เปลือกส้มโอเป็นส่วนประกอบของยาหอมสมุนไพร ซึ่งมีส่วนช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืดตาลาย ใจสั่น คลื่นไส้อาเจียน (เปลือก)
  2. ช่วยแก้หวัด (ราก, เมล็ด)
  3. ประโยชน์ของส้มโอช่วยแก้อาการไอ (เปลือก, ราก, เมล็ด)
  4. ช่วยขับเสมหะ (ดอก, เปลือก)
  5. สรรพคุณส้มโอแก้อาการไอมีเสมหะ ด้วยการใช้ผลสดนำเมล็ดออก แกะเป็นชิ้นเล็ก ๆ แช่กับน้ำเหล้าไว้หนึ่งคืน เสร็จแล้วนำไปต้มให้เละแล้วผสมกับน้ำผึ้ง นำมากวนจนเข้ากันแล้วจิบกินบ่อย ๆ (ผล)
  6. ช่วยแก้อาการแน่นหน้าอก (เปลือก)
  7. ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง (ใบ)
  8. ส้มโอ สรรพคุณช่วยแก้อาการจุกเสียด แน่นท้อง ปวดท้องน้อย (เปลือก, ราก, เมล็ด)
  9. ช่วยแก้อาการปวดท้อง ลำไส้เล็กหดตัวผิดปกติ (เมล็ด)
  10. ช่วยขับลมในลำไส้และกระเพาะอาหาร (ผล, ดอก, เปลือก)
  11. ช่วยแก้อาการปวดในกระเพาะอาหาร (ดอก)
  12. ช่วยแก้อาการปวดกระบังลม (ดอก)
  13. ใช้เป็นยาแก้อาการปวดข้อหรืออาการปวดบวม ด้วยการใช้ใบส้มโอนำมาตำแล้วเอาไปย่างไฟให้อุ่น แล้วนำมาพอกบริเวณที่ปวด (ใบ)
  14. ช่วยแก้อาการคันตามผิวหนัง ด้วยการนำเปลือกมาต้มน้ำอาบ (เปลือก)
  15. ช่วยรักษาโรคลมพิษที่ผิวหนัง ด้วยการใช้เปลือกประมาณ 1 ผล หั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วต้มกับน้ำอาบ หรือทาในบริเวณที่เป็นลมพิษ (เปลือก)
  16. ช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังอื่น ๆ ด้วยการใช้เปลือกมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำมาต้มกับน้ำจนมันงวด แล้วเอาน้ำที่ได้มาทาบริเวณที่เป็นโรคผิวหนัง (เปลือก)
  17. เปลือกใช้ตำแล้วนำมาพอกเพื่อรักษาฝี (เปลือก)
  18. เปลือกมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อรา เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดการอักเสบ และยังช่วยฆ่าแมลง ฆ่าเห็บวัว เป็นต้น
  19. ช่วยแก้อาการไส้เลื่อน (เปลือก, เมล็ด, ราก)
  20. เรานิยมรับประทานส้มโอเป็นผลไม้สด ทำเป็นน้ำผลไม้ หรือจะนำไปประกอบอาหารก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น ยำ เมี่ยง ส้มตำ ข้าวยำ หรือของหวานเป็นต้น (ผล)
  21. เปลือกนอกสีขาวนำไปแปรรูปทำเป็นส้มโอสามรส ส้มโอแช่อิ่มได้ (เปลือก)
  22. ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางบางชนิด

คุณค่าทางโภชนาการของส้มโอต่อ 100 กรัม

  • พลังงาน 38 กิโลแคลอรี
  • คาร์โบไฮเดรต 9.62 กรัม
  • เส้นใย 1 กรัม
  • ไขมัน 0.04 กรัม
  • โปรตีน 0.76 กรัม
  • วิตามินบี 1 0.034 มิลลิกรัม 3%
  • วิตามินบี 2 0.027 มิลลิกรัม 2%
  • วิตามินบี 3 0.22 มิลลิกรัม 1%
  • วิตามินบี 6 0.036 มิลลิกรัม 3%
  • วิตามินซี 61 มิลลิกรัม 73%
  • ธาตุแคลเซียม 4 มิลลิกรัม 0%
  • ธาตุเหล็ก 0.11 มิลลิกรัม 1%
  • ธาตุแมกนีเซียม 6 มิลลิกรัม 2
  • ธาตุแมงกานีส 0.017 มิลลิกรัม 1%
  • ธาตุฟอสฟอรัส 17 มิลลิกรัม 2%
  • ธาตุโพแทสเซียม 216 มิลลิกรัม 5%
  • ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม 0%
  • ธาตุสังกะสี 0.08 มิลลิกรัม 1%

% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)

วิธีการปอกส้มโอ

โดยปกติแล้ววิธีปอกส้มโอนั้น เรามักจะใช้มีดกรีดจากขั้วลงมา 6 ส่วน แล้วจึงลอกเปลือกออก วิธีนี้อาจจะทำให้เลอะมือได้ หรือบางส่วนของเนื้อจะไปติดกับน้ำมันของเปลือกที่ติดอยู่กับมือ ทำให้มีกลิ่นเหม็นและเสียรสชาติได้ ดังนั้นมาดูวิธีปอกส้มโออย่างถูกต้องกันดีกว่า

  1. ใช้มีดปอกส่วนของเปลือกที่เป็นสีเขียวออกให้หมดก่อน
  2. ลอกเปลือกสีขาว ซึ่งจะลอกออกได้ง่ายและไม่มีกลิ่นน้ำมันที่ผิวเปลือกติดมาด้วย
  3. เมื่อเหลือแต่เปลือกหุ้มกลีบ ให้ลอกเอาเปลือกหุ้มออกทีละกลีบเป็นอันเสร็จ ก็จะได้เนื้อที่เป็นกลีบสวยงามและไม่เสียรสชาติ

แต่ถ้าคุณไม่อยากเสียเวลาต้องมานั่งปอกเปลือก ก็ลองใช้วิธีแบบในคลิปด้านล่างเลยก็ได้ครับ

YouTube video

แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, ฐานข้อมูลเครื่องยาสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด