สิวเสี้ยน
สิวเสี้ยน อีกปัญหาหนึ่งของสิวที่น่ากวนใจไม่น้อยเลย เพราะเจ้าสิวชนิดนี้จะมาทีเป็นกองทัพ มีสาเหตุการเกิดสิวคล้าย ๆ กับสิวอุดตัน แต่มีความแตกต่างตรงที่สิวเสี้ยนจะมีขนเข้ามารวมตัวอยู่กับไขมันด้วย ซึ่งขนเหล่านั้นจะมีจำนวนมากกว่าเส้นเดียว บางคนแค่สิวหัวเดียวยังมีขนขดอยู่ถึง 50 เส้น แล้วขนที่รวมตัวขดกันอยู่ก็ไม่หลุดร่วงอย่างที่ควรจะเป็น จึงทำให้มันสะสมสิ่งสกปรกแล้วอุดตันจนกลายเป็นสิว
สิวเสี้ยน (Trichostasis spinulosa) เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยสูงอายุ ตามหลักแล้วสิวเสี้ยนจะเป็นสิวที่เกิดจากความผิดปกติของต่อมรูขุมขน โดยมีลักษณะคล้ายกับสิวอุดตันหัวดำและมีกระจุกขนเล็ก ๆ หลายเส้นแทรกอยู่ในหัวสิวอุดตันด้วย มีลักษณะเป็นจุดดำเล็ก ๆ ตามใบหน้า หรือมีหนามแหลม ๆ ยื่นออกมาทางรูขุมขน โดยมักพบขึ้นบริเวณปลายจมูก หน้าผาก ข้างแก้ม บริเวณคาง คอด้านหลัง ซึ่งสิวเสี้ยนในความหมายก็คือกระจุกของเส้นขนอ่อน ๆ หลายสิบเส้นและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วอุดตันอยู่ในรูขุมขน
ส่วนสิวเสี้ยนอีกความหมายหนึ่ง ที่คนทั่วไปมักใช้ในความหมายของ “ก้อนไขมันอุดตัน” หรือที่เรียกว่า คอมีโดน (Comedone) จะเป็นสิวเสี้ยนที่เกิดจากต่อมไขมันผลิตไขมันมากเกินไป ทำให้ไขมันหลั่งออกมาไม่ทัน จนเกิดเป็นก้อนอุดตันขึ้นมาในท่อรูขุมขน บางครั้งก้อนไขมันอุดตันก็ไม่มีรูเปิด ทำให้เห็นเป็นสิวหัวขาวฝังอยู่ในผิวหนัง แต่สิวเสี้ยนที่กำลังจะกล่าวต่อไปนี้คือสิวเสี้ยนตามความหมายแรก ซึ่งสิวเสี้ยนหรือขนอุดตันนี้ก็ไม่ได้มีอันตรายแต่อย่างใด นอกจากจะมีปัญหาในด้านความงามหรือก่อให้เกิดความรำคาญเท่านั้น
สาเหตุการเกิดสิวเสี้ยน
กลไกการเกิดสิวเสี้ยนในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากการสร้างเซลล์ที่มากผิดปกติ และมักจะเกิดบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก การเกิดสิวเสี้ยนมักจะเริ่มจากมีการอุดตันที่ท่อต่อมไขมัน หรือมีการผลิตไขมันออกมามาก จึงเกิดการอุดตันในรูขุมขน และไขมันจะไปรวมตัวกับเซลล์ชั้นขี้ไคลจากผนังท่อ จนกลายเป็นก้อนที่เรียกว่า “คอมีโดน” และนอกจากการอุดตันของไขมันจนเป็นก้อนขาว ๆ แล้ว ยังมีขนที่คุดคู้อยู่ข้างในด้วย ซึ่งแทนที่ 1 รูขุมขนจะมีขนเพียง 1 เส้น แต่กลับมีขนอ่อนเส้นเล็ก ๆ หลายเส้นอัดกันอยู่ รวมตัวกับเซลล์ชั้นขี้ไคล และถูกห่อหุ้มด้วยผนังท่อต่อมไขมัน จนเกิดการอุดตัน ถ้าลองบีบดูจะเห็นเส้นสีขาวเหมือนตัวหนอน หากนำมาส่องด้วยแว่นขยายก็จะเห็นขนอ่อนจำนวนมากประมาณ 6-50 เส้น นอกจากจะเห็นว่ามีลักษณะเป็นจุดดำ ๆ แล้ว ยังมีหนามแหลม ๆ ยื่นออกมา เวลาใช้มือคลำจะรู้สึกสะดุดเหมือนหนาม
วิธีรักษาสิวเสี้ยน
- เริ่มจากดูแลตัวเอง เราสามารถลดสิวเสี้ยนได้ด้วยวิธีการง่าย ๆ โดยการรักษาความสะอาดบนใบหน้า พยายามอย่าให้หน้ามัน หากหน้ามันระหว่างวันก็ให้ใช้ทิชชู่ซับหน้าแทนการใช้กระดาษซับมัน หรือจะล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าแล้วซับหน้าให้แห้งก็ได้ และไม่ควรล้างหน้าเกินวันละ 2 ครั้ง พยายามเลือกใช้เครื่องสำอางที่ช่วยดูดซับความมัน เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงที่มีเนื้อบางเบา เช่น แบบเจลหรือโลชั่น และใช้ในปริมาณน้อย เพื่อลดการอุดตันบริเวณรูขุมขน และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม เน้นรับประทานผักและผลไม้ให้มาก ๆ เลี่ยงอาหารที่มีไขมันมาก ดื่มน้ำสะอาดวันละ 6-8 แก้ว
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง การรักษาต้องมาควบคู่กับการป้องกัน คุณควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดสิวเสี้ยนไม่ว่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้หน้ามันหรือปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้รูขุมขนกว้าง เช่น บำรุงผิวหน้าจนเกินความจำเป็น บีบสิวเสี้ยนหรือกดสิวเสี้ยนด้วยตัวเอง รวมไปถึงการนวดหน้า ขัดหน้าบ่อย ๆ เช็ดถูกหน้าแรง ๆ จนเป็นการรบกวนรูขุมขน ทำให้รูขุมขนกว้างและก่อให้เกิดการอุดตันได้ง่ายจนกลายเป็นปัญหาไม่รู้จบ
- เบนซอยเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide – BP) หรือยาบีพี ให้นำมาใช้ทาให้ทั่วหน้าก่อนการล้างวันละ 2 ครั้ง ทั้งเช้าและเย็นหรือก่อนนอน โดยให้ทาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ยานี้จะออกฤทธิ์ไปลดปริมาณไขมันที่ผิวหนังและช่วยละลายสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขน จึงช่วยลดการอุดตันของต่อมไขมันได้ เริ่มต้นควรใช้ในขนาดความเข้มข้นต่ำก่อนหรือขนาด 2.5% เมื่อผิวเริ่มชินกับยาแล้ว จึงค่อยเพิ่มระยะเวลาการทาให้นานขึ้น และเพิ่มความเข้มข้นของยาเป็น 5% หรือ 10% ไขมันที่อุดตันก็จะถูกละลาย แต่ขนที่คุดเป็นเส้นดำ ๆ นั้น อาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การกดออก
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท AHA และ BHA (ยาละลายสิวเสี้ยน) เพราะมันจะช่วยทำให้ไขมันอ่อนตัวลง ทำให้เราสามารถเอาสิวเสี้ยนออกมาได้โดยง่าย เมื่อเรานำเอาสิวเสี้ยนออกจากรูขุมขนของเราได้แล้ว ก็ต้องกระชับรูขุมขนด้วยโทนเนอร์ทันที เพียงเท่านี้ก็สามารถลดการเกิดสิวเสี้ยนได้แล้วล่ะ สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภท BHA อาจหาได้ไม่ง่ายนัก แม้ว่าจะใช้ชื่อ BHA (Beta hydroxyl acid) แต่บนฉลากมักเขียนว่า Salicylic acid แถมเรายังไม่รู้ด้วยว่ามี BHA ผสมอยู่มากพอที่ช่วยละลายไขมันได้หรือไม่ เลยทำให้คนใจร้อนรู้สึกว่ามันเห็นผลช้า ดังนั้นถ้าอยากจะใช้ตัวช่วยที่รวดเร็วกว่า BHA ก็ขอแนะนำเป็น “เรตินอยด์” (ภาพ : teeneeshop.com)
- ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoids) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยละลายการอุดตันของต่อมไขมัน ลดการเกาะตัวของเซลล์ผิวหนัง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์บริเวณรูขุมขน จึงช่วยป้องกันการเกิดสิวเสี้ยนใหม่และช่วยทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกมาได้ง่าย ในปัจจุบันมีให้เลือกทั้งแบบแอลกอฮอล์เบสและแบบวอเตอร์เบส ส่วนการเลือกใช้ก็ดูว่าเราเหมาะกับแบบไหนมากกว่ากัน ระหว่าง เรตินเอ (แอลกอฮอล์เบส) หรือ ดิฟเฟอริน (วอเตอร์เบส) โดยเรตินอยด์นั้นจะมีการทำงานคล้ายกับ BHA แต่จะให้ผลรวดเร็วทันใจกว่า ทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกมาจากรูขุมขนได้ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับมาส์กลอกสิวเสี้ยนและทำการกระชับผิวด้วยโทนเนอร์และเจลสำหรับกระชับรูขุมขนละก็ ผิวของคุณก็จะเรียบเนียนสมใจอยากแล้วล่ะ (ภาพ : ladysquare.com by huyjen)
- ลอกหน้าด้วยกรดผลไม้ (Chemical peeling) เป็นกรรมวิธีที่ทำให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์ผิวหน้ารวมทั้งไขมันที่อุดตัน ด้วยการใช้กรดผลไม้ (AHA) หรือใช้ Trichloracetic acid (TCA) ก็ทำให้สิวเสี้ยนง่ายต่อการกดออก แต่อย่างไรก็ตามวิธีนี้ก็มักได้ผลในระยะเวลาสั้น ๆ คุณอาจต้องทายาร่วมด้วยเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
- ใช้เครื่องมือกดสิว นำมากดบริเวณที่เป็นสิวเสี้ยนดำ ถ้าเป็นสิวหัวดำก็จะมีก้อนไขมันสีดำผุดออกมา แต่ถ้าเป็นสิวเสี้ยนชนิดเส้นขนก็อาจได้กระจุกเส้นขนอุดตันหลุดออก แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้
- แผ่นลอกสิวเสี้ยน ที่ลอกสิวเสี้ยนอาจจะอยู่ในรูปของแผ่นแปะจมูกที่เคลือบสารทำให้ติดแน่น เมื่อนำมาแปะจมูกทิ้งไว้สักพัก หรือจะใช้สาร cyanoacrylate polymer glue ซึ่งมีคุณสมบัติในการติดแน่นคล้ายกาวตาช้าง นำมาทาบนแผ่นสไลด์ แล้วนำมาแปะบริเวณที่เป็นสิวเสี้ยน แล้วดึงออก สิวเสี้ยนก็จะหลุดออกมา วิธีนี้ได้รับความนิยมกันมาก เพราะราคาทำไม่แพง เห็นผลทันใจ สามารถทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกไปได้บ้าง แต่มักกำจัดได้ไม่หมด และไม่สามารถกำจัดสิวเสี้ยนได้ทุกที่ แต่ก็ควรระวังด้วย เพราะสารเคมีเหล่านี้อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ และคุณไม่ควรทำเกินสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ส่วนรูปตัวอย่างคือแผ่นลอกสิวเสี้ยนยี่ห้อ LICEKO ราคาประมาณ 199 บาทครับ (ภาพ : dek-d.com by modemonz)
- มาร์คลอกสิวเสี้ยน หรือ ครีมลอกสิวเสี้ยน มีหลายยี่ห้อเลยครับ ที่ได้รับความนิยมก็ยี่ห้อนี้เลยครับ สะใจสุด ๆ Blackhead EX Nose Clay Mask (ภาพ : pantip.com by kakigori *)
ส่วนนี้เซ็ตลอกสิวเสี้ยนของ Clear Nose ครับ ราคาประมาณ 200 บาท (ภาพ : pantip.com by สมาชิกหมายเลข 947068) - กาวตราช้างลอกสิวเสี้ยน อาจจะอึ้ง ๆ หรือสงสัยว่าใช้แล้วมันไม่ติดหน้าหรือ? ก็บอกเลยครับว่ากาวมันไม่ติดหน้าหรอก แต่มันจะไปติดอยู่ที่เทป ถ้าถามว่าอันตรายไหม? ถ้าใช้เป็นก็ไม่เป็นอันตรายครับ แต่ห้ามเอาไปลอกส่วนอื่นนอกจากจมูกโดยเด็ดขาด และให้ทำ 2 อาทิตย์ต่อ 1 ครั้ง เพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวนผิวมากเกินไป วิธีนี้อาจจะเหมาะสำหรับคนที่ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนมาสักพักแล้ว หลัง ๆ มันเริ่มลอกสิวไม่ค่อยออก ใช้ไข่ขาวอยู่นานจนเริ่มไม่ได้ผล ก็อาจจะลองหันมาใช้กาวตราช้างลอกสิวเสี้ยนดูก็ได้ โดยเริ่มจากเตรียมอุปกรณ์คือ เทปย่น ขนาดความกว้างประมาณ 1 นิ้วครึ่ง (เล็กกว่านี้จะไม่ค่อยเวิร์ค) และ กาวตราช้าง ครับ (ภาพ : pantip.com by เซนทาโร่)
จากนั้นก็เริ่มตัดกระดาษกาวให้เข้ากับรูปหน้า ชิ้นไม่ต้องใหญ่มาก อย่างจมูกเราจะตัดทำเป็น 3 ส่วนด้วยกัน เมื่อตัดเสร็จแล้วให้เอาด้านกาวมาแปะนิ้วไว้แบบนี้
แล้วบีบเกาลงไปเบา ๆ เกลี่ยให้ทั่ว ๆ บาง ๆ ไม่ต้องให้ชุ่มมากนัก เหลือส่วนขอบไว้ด้วย เพราะตอนนำมาแปะมันจะได้ไม่ล้นออกมาที่ผิวหน้า
เมื่อทากาวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เอาแผ่นกาวไปโบกกับอากาศซัก 7-8 รอบ หรือประมาณ 30 วินาที ไม่ต้องกลัวว่ากาวมันจะแข็ง (เพราะถ้าเอาไปแปะทันทีโดยไม่โบกอากาศก่อนมันจะร้อน ๆ ที่ผิว และมีกลิ่นฉุนมาก) จากนั้นก็นำมาแปะลงบริเวณจมูก ค่อย ๆ เอามือลูบ ๆ ถู ๆ ให้แผ่นกาวแนบกับผิว แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที เมื่อแห้งแล้วก็ให้ลอกแผ่นกาวออกเบา ๆ โดยดึงจากล่างขึ้นบน ก็เป็นอันเสร็จครับ
- สูตรไข่ขาวลอกสิวเสี้ยน สูตรนี้เป็นสูตรกำจัดสิวเสี้ยนที่ได้รับการยอมรับมาเป็นเวลานาน วิธีการทำก็เพียงแค่ทาไข่ขาวลงบนใบหน้าแล้วเอาทิชชู่โปะไว้ หลังจากนั้นก็ให้ทาไข่ขาวทับอีกที จากนั้นก็รอให้แห้งแล้วค่อย ๆ ดึงออก โดยเริ่มดึงจากคางขึ้นมาจนถึงหน้าผาก สิวเสี้ยนก็จะหลุดออกมาตามทิชชู่ เมื่อทำเสร็จแล้วก็ล้างหน้าตามด้วยด้วยโทนเนอร์กระชับรูขุมขน และนี้คือผลลัพธ์ที่ได้ครับ (ภาพ : pantip.com by nooneknows)
- สูตรนมสดผสมผงเจลาติน สูตรนี้เป็นสูตรที่บล็อกเกอร์ความงามทั้งในและต่างประเทศต่างก็คอนเฟิร์มแล้วว่ามันใช้ได้ผลจริง ก่อนจะทำให้เราเตรียมผิวส่วนที่ต้องการจะลอกสิวเสี้ยนด้วย BHA หรือน้ำมะนาวสด อย่างใดอย่างหนึ่ง ทิ้งไว้แล้วค่อยลงมือทำ โดยวิธีการทำก็คือให้คุณใช้นมสดและผงเจลาตินในสัดส่วนที่เท่ากันผสมลงในถ้วย (ภาพ : pantip.com by nooneknows)
คนให้เข้ากันแล้วนำไปเข้าเตาอบไมโครเวฟโดยใช้เวลาที่ 10 วินาที จากนั้นก็รอให้เจลาตินคลายความร้อนก่อน
แล้วจึงนำมาทาตรงบริเวณที่ต้องการลอกสิวเสี้ยน (อย่าทาทั้งหน้า เพราะเวลาลอกจะเจ็บมาก ๆ) ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที (ถ้าครบเวลาแล้วแต่ยังไม่แห้งแสดงว่าคุณอาจทาส่วนผสมหนาไป คราวหน้าก็ให้ทาบางลงกว่าเดิม)
หลังจากแห้งแล้วก็ให้ลอกออก โดยลอกจากด้านล่างขึ้นด้านบน สิวเสี้ยนและขนก็จะหลุดออกมาด้วย เรียกได้ว่าฟินสุด ๆ เลยล่ะ หลังจากนั้นก็ให้รีบล้างหน้าแล้วกระชับรูขุมขนด้วยโทเนอร์ทันที และนี้คือผลลัพธ์ที่ได้ครับ
- สูตรน้ำมะนาว สูตรนี้มีมะนาวเป็นพระเอก เพราะมะนาวมี AHA ที่ช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว เพื่อให้เซลล์ใหม่ทำงานได้อย่างเต็มที่ และยังช่วยทำความสะอาดรูขุมขน จึงทำให้สิวเสี้ยนอ่อนตัวและออกมาจากรูขุมขนได้ง่ายยิ่งขึ้น แม้ว่าวิธีนี้อาจจะไม่ได้ผลรวดเร็วทันใจนัก แต่ถ้าทำเป็นประจำก็จะช่วยลดการเกิดสิวเสี้ยนใหม่และทำให้สิวเสี้ยนเก่าลดลงอีกด้วย นั่นก็คือ ให้เราคั้นน้ำมะนาว แล้วนำสำลีมาชุบน้ำมะนาวที่ได้แล้วนำมาทาตรงบริเวณที่เป็นสิวเสี้ยน ทิ้งไว้ได้ทั้งคืน โดยให้ทำก่อนการลงครีมบำรุงทั้งหลาย แต่ถ้าต้องการความอ่อนโยนมากกว่านี้ก็ให้นำน้ำมะนาวมาผสมกับน้ำเปล่าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วค่อยนำมาทาหน้า แต่หากทนไม่ได้จริง ๆ ก็ให้ล้างออก แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาให้นานขึ้นในวันถัดไป (คุณสามารถประยุกต์สูตรนี้ได้หลังจากทาน้ำมะนาวเสร็จแล้ว ก็ให้ตามด้วยดินสอพองหรือแป้งโยคี)
- เครื่องดูดสิวเสี้ยน มีทั้งแบบมือถือซื้อมาทำเอง (เห็นคนบ่นเหมือนกันว่าไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร สู้แผ่นลอกสิวทั่วไปไม่ได้เลย) หรือแบบเครื่องใหญ่ที่ใช้กันตามคลินิกทั่วไปครับ ที่จะใช้โอโซนร้อนเพื่อเปิดรูขุมขนก่อน เพื่อลดการอุดตัน และตามด้วยเครื่องดูดสูญญากาศดูดเอาสิ่งที่อุดตันออกมา ราคาต่อครั้งก็ไม่แพงครับ ประมาณ 150-250 บาท
ส่วนนี้คือเครื่องดูดสิวเสี้ยนทำเองจากวัสดุเหลือใช้ครับ ความแรงก็ใช้ได้เลยครับ โดยอุปกรณ์ที่ใช้ก็มีแค่หัวปั๊มสบู่ สำลี ฟอร์เซป และครีมทาหน้าอะไรได้ ส่วนวิธีการทำก็ตามคลิปด้านล่างนี้เลยครับ ว่าแล้วก็ไปลองทำบ้างดีกว่า - ใช้เครื่องไอพีแอล (Intense pulse light – IPL) การทำไอพีแอลนั้นเป็นการส่งพลังงานแสงลงไปเพื่อกำจัดขนที่รากของมัน จึงทำให้ขนที่คุดคู้เหล่านี้หลุดออกได้ สามารถช่วยป้องกันการเกิดเซลล์ขนใหม่ในบริเวณดังกล่าวได้ เป็นวิธีที่ได้ผลดี มีผลข้างเคียงน้อย และสามารถทำได้ทุกบริเวณของร่างกายที่มีสิวเสี้ยน แต่การจะกำจัดให้ออกไปโดยสิ้นเชิงนั้นอาจต้องทำหลายครั้งหน่อย
- เลเซอร์สิวเสี้ยน เป็นวิธีที่ช่วยกำจัดจุดดำ ๆ จากสิวเสี้ยนได้มากกว่าร้อยละ 50 และเมื่อทำหลาย ๆ ครั้งจะสามารถกำจัดสิวเสี้ยนได้เกือบหมด แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องรูขุมขนกว้างที่อาจทำให้เกิดสิวเสี้ยนได้อีก หลังการทำอาจมีผลข้างเคียงคือรอยแดงบริเวณที่ทำ ซึ่งจะหายไปเองประมาณ 2-3 วัน วิธีนี้จะใช้ได้ผลดีในกรณีสิวเสี้ยนหัวดำ แต่มีค่าบริการค่อนข้างแพง
สิวเสี้ยนนั้นถ้าหากคุณไม่รำคาญมากนัก คุณอาจจะอยู่เฉย ๆ โดยไม่ต้องใช้ยาหรือเครื่องมืออะไรก็ได้ ขอแค่ดูแลตัวเองไม่ให้เสี่ยงต่อการเกิดสิวเสี้ยนใหม่ เพราะธรรมชาติมักจะค่อย ๆ ขจัดสิวออกไปได้เองอยู่แล้ว คุณจึงไม่ต้องเสี่ยงต่อผลแทรกซ้อนจากการใช้ยาหรือใช้กรรมวิธีต่าง ๆ ที่กล่าวมา เพราะสิวเสี้ยนนั้นยังไม่มีวิธีที่จะรักษาให้หายขาดได้ 100% เพียงแต่ภาวะดังกล่าวเราสามารถรักษาให้ทุเลาลงจนได้ผลเป็นที่น่าพอใจได้ หากรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)