20 วิธีลดริ้วรอยร่องแก้ม ! ร่องแก้มลึกทำไงดี ??

ร่องแก้มลึก

ร้อยทั้งร้อยเชื่อเลยว่าทุกคนคงไม่อยากให้หน้าตัวเองเหี่ยวย่นจนดูแก่ก่อนวัยหรอกจริงไหม? แต่ทว่าความเสื่อมโทรมของผิวหนังนั้นถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่อาจปฏิเสธได้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนที่กำลังก้าวเข้าสู่เลข “3” เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า โดยเฉพาะจุดที่เห็นได้เด่นชัดที่สุดอย่าง “ริ้วรอยร่องแก้ม” ที่จากเดิมเคยเรียบตึงกระชับตอนนี้กลับกลายเป็นร่องขึ้นมาซะอย่างงั้น เห้อ…ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม !

ปัญหาร่องแก้ม หรือ รอยย่นที่แก้ม มีสาเหตุหลักมาจากความหย่อนคล้อยของผิว อันเนื่องมาจากคอลลาเจนและอีลาสตินที่อยู่ใต้ผิวเกิดเสื่อมประสิทธิภาพจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ริ้วรอยบริเวณร่องแก้มยังมาจากปัจจัยกระตุ้นและพฤติกรรมอื่น ๆ อีก เช่น การสูบบุหรี่ รังสียูวีจากแสงแดด ที่เป็นตัวส่งผลให้เกิดการทำลายโครงสร้างผิว ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วรอยย่นที่แก้มจะมีลักษณะเป็นร่องลึก เป็นเส้นยาวตั้งแต่บริเวณปีกจมูกโค้งลงมาถึงที่มุมปาก หรืออาจยาวลงมาถึงคางเลยทีเดียว !

สำหรับใครที่กำลังมองหาคำตอบในการดูแลรักษารอยย่นเป็นร่องบริเวณแก้ม งานนี้ห้ามพลาด ! เพราะเราได้นำเคล็ดลับในการดูแลตัวเองและวิธีรักษาร่องแก้มอย่างได้ผลมาฝาก !! ถ้าอยากจะเพิ่มความสดใส ไร้ริ้วรอย เปลี่ยนใบหน้าตัวเองให้ดูเด็กลง…ก็อย่ารอช้า ไปดูกัน…

วิธีลดร่องแก้ม

  1. [Tie-in โฆษณา] เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่แก้ปัญหาริ้วรอยที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล (Retinol) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์และคอลลาเจน ทำให้ริ้วรอยลึกตื้นขึ้น ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอมากขึ้น ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลที่มีประสิทธิภาพสูงก็เช่น ProX by Olay (สูตร Dermatological Intensive Wrinkle Fading Serum) เซรั่มที่มีส่วนประกอบของ Pro-Retinol complex
    • ส่วนประกอบของ Pro-Retinol complex ของ ProX มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro-Retinol ทั่วไป 1.4 เท่า จึงช่วยตรงเข้าจัดการริ้วรอยร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเรตินอลและ Pro-Retinol ทั่วไป
    • ส่วนประกอบนี้ถูกคิดค้นและรับรองโดยแพทย์ผิวหนัง พร้อมทั้งผ่านการวิจัยในระดับ Genomics เป็นเวลามากกว่า 20 ปี จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่แก้ปัญหาผิวได้ตั้งแต่ที่ต้นเหตุ
    • เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์นี้มีลักษณะเป็นเซรั่มน้ำนม บางเบา ซึมไว เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก และผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้
    • ช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึกแก้ยาก ได้ถึง 20% ใน 28 วัน
      PROX by OLAY
      PROX by OLAY
  2. ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายเป็นประจำก็สามารถช่วยเพิ่มเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมนักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะมีใบหน้าที่แสนอ่อนเยาว์และไร้ริ้วรอยอยู่ตลอดเวลา เพราะการออกกำลังกายนั้นสามารถช่วยลดการเกิดริ้วรอยต่าง ๆ รวมทั้งริ้วรอยร่องแก้มได้อย่างไม่น่าเชื่อ !
  3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นผักใบเขียว ผลไม้ หรืออาหารทะเล ซึ่งอาหารเหล่านี้จะอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี รวมถึงเกลือแร่ที่มีส่วนช่วยทำให้ผิวสดใสและคงความชุ่มชื่นอยู่เสมอ และที่สำคัญคุณควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยบำรุงผิว และช่วยระบบการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ
  4. อาหารเสริมช่วยได้ ให้เลือกอาหารเสริมหรือวิตามินที่ช่วยเสริมความแข็งแรงและฟื้นฟูสภาพผิว ปกป้องผิว ลดรอยเหี่ยวย่น และป้องกันการทำลายของอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะไม่สมดุลของพลังงาน อย่างเช่น วิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม วันละ 1 เม็ด
  5. นอนหงายไร้ริ้วรอย ท่านอนถือเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อการเกิดริ้วรอย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม” ซึ่งปัญหานี้มักเกิดขึ้นกับผู้ที่ชอบนอนตะแคงเป็นประจำ เพราะจะทำให้ใบหน้าถูกกดทับเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดรอยย่นเป็นร่องลึกแบบยากที่จะแก้ไข ลองคิดดูว่าแค่เพียง 1 คืน ผิวหน้าของคุณถูกกดทับนานแค่ไหน? ดังนั้นการนอนอย่างถูกวิธีด้วยการนอนหงายจึงเป็นการป้องกันและลดการเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
  1. ไม่หัวเราะเกินความจำเป็น แม้การหัวเราะจะเป็นสิ่งที่ดีและเป็นตัวบ่งบอกถึงความสุขของมนุษย์อย่างเราก็ตาม แต่การหัวเราะที่มากเกินความจำเป็น หัวเราะจนไม่แคร์ผิวหน้า ก็คงจะไม่ดีต่อสุขภาพผิวหน้านัก ! เพราะสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยร่องแก้มก็มาจากการหัวเราะหรือยิ้มมากจนเกินไปนั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ความว่าคุณจะต้องทำหน้านิ่งหรือบึ้งตลอดเวลานะ เพียงแค่ลดการหัวเราะที่ไม่จำเป็นหรือหัวเราะกว้างจนเกินไปก็เท่านั้น
  2. หลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวต้องเผชิญหน้ากับแสงแดดรังสี UV เพราะแสงแดดเป็นตัวการทำลายผิว หากต้องออกไปข้างนอก คุณควรหมั่นทาครีมกันแดดบริเวณใบหน้าและลำคอเป็นประจำ
  3. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่ การนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ภาวะเครียด การล้างถูหน้าแรง ๆ การเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดริ้วรอยและความเหี่ยวย่นที่มากยิ่งขึ้น
  4. แต่งหน้าลดร่องแก้ม ด้วยเทคนิคดังต่อไปนี้จะช่วยทำให้คนที่มีปัญหาร่องแก้มลึกมีผิวเรียบเนียนได้อย่างไม่ยากเย็น ! โดยเริ่มจากให้แต้มครีมรองพื้น 5 จุด ให้ทั่วทั้งใบหน้า (หน้าผาก, จมูก, คาง และแก้มทั้งสองข้าง) จากนั้นให้ใช้ฟองน้ำเกลี่ยให้ทั่วใบหน้าจนเรียบเนียน ส่วนบริเวณร่องแก้มให้ใช้คอนซีลเลอร์ชนิดดินสอเนื้อบาง ๆ ที่สีสว่างกว่าผิวจริง (คอนซีลเลอร์เนื้อดินสอจะเกาะผิวได้ดีกว่าชนิดอื่น ๆ) โดยเขียนลงไปบริเวณร่องแก้ม แล้วใช้ปลายนิ้วกลางค่อย ๆ ตบและเกลี่ยคอนซีลเลอร์แบบเบา ๆ จนกระทั่งเนื้อครีมเรียบกลมกลืนไปกับผิว (สาเหตุที่เป็นนิ้วกลางก็เพราะว่า นิ้วกลางจะมีคุณสมบัติในเรื่องของความอุ่นที่ช่วยทำให้ครีมรองพื้นและคอนซีลเลอร์ผสมเป็นเนื้อเดียวกัน และช่วยลดปัญหารองพื้นเป็นคราบระหว่างวันได้เป็นอย่างดี) จากนั้นให้ใช้แป้งฝุ่นปัดทับเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้าเพื่อรองพื้นเซตตัว แล้วจึงค่อยแต่งหน้าในขั้นตอนอื่นต่อไป…
    แต่งหน้าลดร่องแก้ม
  5. นวดหน้าลดริ้วรอย การใช้มือนวดคลึงบนใบหน้าเบา ๆ เป็นประจำ ประมาณ 15 นาที จะช่วยทำให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนังบริเวณใบหน้ามากยิ่งขึ้น จึงช่วยทำให้ผิวเปล่งปลั่ง อัตราการเกิดริ้วรอยก็ลดน้อยลง
  6. บริหารหน้าลดริ้วรอยร่องแก้ม ด้วยวิธีง่าย ๆ เพียงแค่ออกเสียง เอ อี ไอ โอ ยู (A E I O U) โดยเกร็งกล้ามเนื้อให้มากที่สุด ซึ่งการออกเสียงโดยการเกร็งกล้ามเนื้อรอบปากก็เหมือนกับการทำโยคะหน้าไปในตัว แต่วิธีนี้จะช่วยเน้นการลดริ้วรอยร่องแก้ม ส่วนอีกสูตร ใน 1 เซต จะมีอยู่ด้วยกัน 5 สเต็ป โดยเริ่มจากสเต็ปแรก ให้อ้าปากให้กว้างมากเท่าที่จะทำได้ค้างไว้ นับ 1-10 สเต็ปต่อมา ให้ทำปากจู๋ ยื่นริมฝีปากออกไปให้มากที่สุด (แต่ห้ามเม้มปาก) นับ 1-10 สเต็ปที่ 3 ให้ยิ้มจนมุมปากตึงทั้งซ้ายและขวา นับ 1-10 สเต็ปที่ 4 ให้เหยียดริมฝีปากไปทางด้านซ้ายให้มากที่สุด นับ 1-10 และสเต็ปสุดท้ายให้เหยียดริมฝีปากไปด้านขวาให้ได้มากที่สุด แล้วนับ 1-10 โดยให้ทำวันละ 3 เซต เป็นประจำทุกวัน
    บริหารหน้าลดริ้วรอยร่องแก้ม
  7. การทำทรีตเมนต์ประเภทยกกระชับต่าง ๆ ที่ช่วยยกกล้ามเนื้อใบหน้าให้กระชับเต่งตึงยิ่งขึ้นได้ รวมไปถึงการทำไอออนโตหรือโฟโนโดยใช้เจลคอลลาเจนหรือไฮย่า ก็ช่วยลดริ้วรอยร่องแก้มได้เช่นกัน แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมออาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
  8. ฉีดโบทอกซ์ (ฉีดลดริ้วรอย) นับเป็นเทรนด์เสริมความงามยอดนิยมของโลก นอกจากจะช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณกราม ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลงได้แล้ว การฉีดโบทอกซ์ซึ่งมีคุณสมบัติทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อก็ช่วยกระชับแก้มและลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ ให้จางหายไปได้เหมือนกัน โดยจะเริ่มเห็นผลหลังการฉีดประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งจะสังเกตได้ว่า ข้างแก้มทั้งสองข้างจะดูเรียบเนียนเต่งตึงขึ้น แต่วิธีนี้จะใช้ได้ผลดีกับผู้ที่มีร่องแก้มตื้น ๆ เท่านั้น ถ้าร่องแก้มลึกมากก็อาจจะไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงมากนัก
    ฉีดโบท็อกซ์ลดร่องแก้ม
  9. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม (ฉีดร่องแก้ม) เทรนด์ฮิตติดลมที่ตามโบทอกซ์มาติด ๆ สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เติมร่องแก้ม จะเป็นการฉีดสารเติมเต็มตามธรรมชาติซุึ่งอยู่ได้ชั่วคราว (Hyaluronic acid – ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและผ่าน อย. ในบ้านเราจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ยี่ห้อ คือ Restylane และ Esthelis) เข้าไปในผิวหนังบริเวณที่เป็นริ้วรอยร่องลึกเพื่อเต็มเติมให้ผิวดูเรียบเนียนและเต่งตึงไร้ริ้วรอย หลังฉีดเสร็จบริเวณที่ฉีดจะมีอาการบวมตึง แดงเล็กน้อย หรือเขียวช้ำประมาณ 1-2 วัน และจะหายไปเองประมาณ 1-2 สัปดาห์ วิธีนี้เรียกได้ว่าฉีดเสร็จปุ๊บ ผิวจะอวบอิ่มและเต่งตึงขึ้นมาแบบทันตาเลยทีเดียว โดยทั่วไปแล้วสารเติมเต็ม (Hyaluronic acid) จะอยู่ได้นานประมาณหนึ่งถึงสองปี (ถ้าเป็นของแท้) แต่หากอยู่ในสภาวะที่ต้องเจอความร้อนสูงอย่างการเข้าเซาน่าเป็นประจำ จะทำให้อายุของสารเติมเต็มน้อยลง
    ฉีดร่องแก้ม
  10. ร้อยไหมดึงหน้า จัดเป็นการยกกระชับอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยยกกระชับหน้าได้ผลดีและรวดเร็ว เมื่อไหมเข้าสู่ผิวหนังจะทำให้เกิดการอักเสบเล็ก ๆ ของผิวหนังที่ร้อยไหมเข้าไป จึงเป็นการช่วยกระตุ้นการสร้างเลือดใหม่ ทำให้ผิวเกิดการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น และมีผลให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนรอบ ๆ เส้นไหม จึงเกิดการยกกระชับมากขึ้น
    ร้อยไหมลดร่องแก้ม
  11. ลดริ้วรอยด้วยเลเซอร์ (เลเซอร์ร่องแก้ม) เป็นการใช้เครื่องมือเลเซอร์ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เพื่อเป็นการช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ได้แก่ Nd:YAG, Fractional laser และ IPL
  12. สร้างคอลลาเจนจากเกล็ดเลือด (PRP – Platelet Rich Plasma) เป็นการนำเลือดของเราเองที่ผ่านกระบวนการคัดแยกเกล็ดเลือด (ใช้เลือดเพียงไม่กี่ซีซี) แล้วนำมาฉีดกลับเข้าไปที่ผิวในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งเกล็ดเลือดนี้จะเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์รอบ ๆ ตัวมัน จึงเป็นการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูอวบอิ่ม แต่วิธีนี้จะต้องทำเดือนละครั้งติดต่อกัน 3 เดือน หลังจากนั้นก็สามารถเว้นระยะได้เกือบปี
    PRP
  13. ใช้สารเติมเต็มที่สร้างจาก Stem cell ซึ่งสกัดมาจากเซลล์ในร่างกายของเราเอง วิธีนี้จะเป็นการดูดเอาไขมันบริเวณหน้าท้องออกมา แล้วนำมาผ่านกระบวนการคัดแยกเซลล์ต้นกำเนิดจากไขมัน และกระตุ้น ซึ่งจะได้เซลล์ต้นกำเนิดที่ดีกว่าในเลือด สามารถให้ผลการรักษาที่ดีกว่าการสร้างคอลลาเจนจากเกล็ดเลือด ทำเพียงปีละครั้ง แต่ราคาทำต่อครั้งค่อนข้างแพง และมีขั้นตอนการทำที่ยุ่งยาก เพราะการเอาเลือดออกมาเพียงไม่กี่ซีซีย่อมง่ายกว่าการเอาไขมันออกมาจากร่างกาย
  14. Fractional RF Microneedle เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มมวลของผิวให้กับใบหน้า โดยเป็นการใช้เทคโนโลยีพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) ส่งพลังงานไปกระตุ้นองค์ประกอบสำคัญของผิว คือ คอลลาเจน อีลาสติน และไฮยาลูโรนิก แอซิดพร้อมกันในคราวเดียว เป็นการส่งพลังงานลงไปที่ใต้ผิวเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างมวลผิวด้วยตัวเอง จุดเด่นอีกอย่างของเครื่องมือชนิดนี้ก็คือมันจะส่งพลังงานเป็นระยะ ๆ ในอุณหภูมิแบบคงที่ด้วยเข็มนาโนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ทำให้พลังงานลงสู่ผิวชั้นลึกที่เราต้องการได้โดยตรง ไม่เกิดการสูญเสียพลังงานไประหว่างชั้นผิวและไม่ทำลายเซลล์ผิวส่วนอื่น ๆ
    Fractional-RF-MicroneedleFractional-RF-Microneedle

อย่างไรก็ดี การจะเลือกเทคโนโลยีตัวไหนเพื่อแก้ปัญหาร่องแก้ม แม้ว่าเทคโนโลยีเหล่านั้นจะแก้ปัญหาได้เหมือนกัน แต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะ คุณจึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพ และให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปมากที่สุด และแม้ว่าวิธีการต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยที่เกิดขึ้นบริเวณแก้มได้จริง แต่ทางออกที่ดีที่สุดก็คือการใส่ใจและดูแลผิวหน้าให้เหมาะสมกับสภาพผิวและเติมเต็มความชุ่มชื่นให้ผิวอยู่เสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดริ้วรอย

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด