สำหรับผู้สูงอายุนั้นความต้องการทางด้านโภชนาการจะค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ร่างกายจะต้องการวิตามินและแร่ธาตุเสริม โดยเฉพาะแคลเซียมและแมกนีเซียม และวิตามินบีรวม และวิตามินซี วิตามินอี
ในวัยนี้ควรรับประทานอาหารที่มีกากใยบ้าง เพื่อช่วยลดปัญหาเรื่องท้องผูกที่พบเจอบ่อย ๆ แต่สำหรับผู้ที่การเคี้ยวเป็นปัญหานั้น อาหารที่มีเส้นใยสูงสามารถนำมาบดเป็นชิ้นเล็กให้เนื้อนุ่มได้ โดยไม่ลดประสิทธิภาพของมันแต่อย่างใด
ทั้งนี้ผู้สูงอายุควรพยายามงดของหวาน เพราะอาจเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้ง่าย เรามาดูกันครับว่า วิตามินสำหรับผู้สูงอายุควรมีวิตามินและแร่ธาตุอะไรบ้างที่ควรจะได้รับอย่างสม่ำเสมอทุกวัน
วิตามินสำหรับผู้สูงอายุ
- วิตามินบีรวม ช่วยหลายเรื่องมากครับ เช่น เรื่องสุขภาพต่าง ๆ ในร่างกาย กล้ามเนื้อหัวใจ ระบบประสาท ระบบย่อยอาหาร การไหลเวียนโลหิต
- วิตามินอี ควรรับประทานวันละ 200-400 IU จะช่วยบรรเทาอาการโลหิตไหลเวียนไม่ดีได้
- แคลเซียม ควรได้รับวันละ 1,500 mg. เพื่อช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรงเมื่อทานร่วมกับฟอสฟอรัส
- ฟอสฟอรัส วันละ 750 mg. เพื่อช่วยให้โครงสร้างของกระดูกและฟันแข็งแรง ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
- แมกนีเซียม 250 mg. เมื่อทำงานร่วมกับแคลเซียมจะช่วยให้สุขภาพหัวใจและเส้นเลือดแข็งแรงขึ้น และยังช่วยให้สุขภาพฟันแข็งแรงขึ้นด้วย
- แมงกานีส วันละ 5 mg. จะช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้
- ธาตุเหล็ก วันละ 15 mg. ผู้สูงอายุมักขาดแร่ธาตุชนิดนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคโลหิตจาง ความต้านทานโรคน้อยลงทำให้ร่างกายอ่อนแอและเหนื่อยง่ายขึ้น
- โคเอนไซม์คิวเทน วันละ 100 mg. จะช่วยเสริมการทำงานของหัวใจ และช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- ใบแปะก๊วย หรือสารสกัดจากใบแปะก๊วย วันละ 60 mg. ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดอาการตะคริวหรือเจ็บกล้ามเนื้อต่าง ๆ
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)