10 ประโยชน์ของวิตามินบี 3 (Niacin-ไนอะซิน) !

ไนอะซิน

  • วิตามินบี 3 (ไนอะซิน, ไนอะซินาไมด์, กรดนิโคตินิก, นิโคตินาไมด์) (Niacin) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ มีหน่วยวัดเป็นมิลลิกรัม (มก. หรือ mg.) เป็นวิตามินที่มีความเสถียรมาก ทนต่อความร้อนจากการปรุงอาหารและการเก็บรักษาโดยสูญเสียประสิทธิภาพน้อยมาก ร่างกายของเรานั้นสามารถสร้างไนอะซินขึ้นเองได้โดยใช้กรดอะมิโนทริปโตเฟน สำหรับผู้ที่ร่างกายขาดวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 จะไม่สามารถสร้างวิตามินบี 3 จากทริปโตเฟนได้
  • นอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญในการสังเคราะห์ฮอร์โมนเพศ เอสโตรเจน โพรเจสเทอโรน เทสโทสเตอโรน เช่นเดียวกับคอร์ติโซน ไทรอกซิน และอินซูลิน มีความจำเป็นต่อระบบประสาทและการทำงานของสมองและสุขภาพ บุคลิกภาพจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลงหากร่างกายคุณขาดไนอะซิน
  • แหล่งที่พบวิตามินบี 3 ตามธรรมชาติ ได้แก่ ไข่ ปลา เนื้อไม่ติดมัน เนื้อขาวจากพวกสัตว์ปีก ตับ โฮลวีต จมูกข้าวสาลี ถั่วลิสง อะโวคาโด อินทผลัม ลูกพรุน มะเดื่อฝรั่ง บริเวอร์ยีสต์ เป็นต้น
  • ผลเสียของการรับประทานเกินขนาด อาจมีแนวโน้มเป็นโรคเกาต์หรือมีอาการปวดตามข้อได้ หากในร่างกายคุณมีไนอะซิน มากเกินไป หรืออาจมีอาการร้อนวูบวาบ หน้าแดง คันตามตัวเมื่อรับประทานเกินกว่า 100 มิลลิกรัม และอาจทำให้ผู้ที่มีแนวโน้มเป็นโรคเบาหวานมีปัญหาต่อการควบคุมน้ำตาลในเลือด หรือส่งผลให้อาการของโรคเบาหวานรุนแรงขึ้นได้ และอาจทำให้ตับทำงานผิดปกติได้ เพราะไนอะซินในร่างกายที่มีสูงมากเกินไปจะส่งผลต่อการควบคุมน้ำตาลในร่างกาย
  • โรคจากการขาดวิตามินบี 3 ได้แก่ โรคเพลลากรา (Pellagra) ลักษณะอาการคือเป็นผื่นผิวหนังอักเสบรุนแรง

วิตามินบี3

ประโยชน์ของวิตามินบี 3

  1. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
  2. วิตามินบี 3 มีความจำเป็นต่อระบบประสาทและการทำงานของสมอง
  3. ช่วยเผาผลาญไขมันและช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น บรรเทาปัญหาต่าง ๆ ของระบบย่อยอาหาร
  4. วิตามินบี 3 ช่วยบำรุงผิวพรรณ
  5. บรรเทาอาการปวดศีระษะจากไมเกรน
  6. เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความดันโลหิต
  7. วิตามินบี 3 ช่วยบรรเทาอาการท้องร่วง
  8. ลดอาการวิงเวียนศีรษะของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
  9. ช่วยเพิ่มพลังงานที่ได้จากการย่อยและเผาผลาญอาหาร
  10. ช่วยรักษาอาการร้อนในและกลิ่นปาก

คำแนะนำในการรับประทานวิตามินบี 3

  • วิตามินบี 3 ในรูปแบบของอาหารเสริม ส่วนมากจะวางจำหน่ายในรูปของไนอะซิน อินอซิทอลเฮกซานิโคติเนต (IHN) และไนอะซินาไมด์ โดยอยู่ในรูปแบบที่เป็นแคปซูล เม็ด ผง มีขนาดตั้งแต่ 50-1,000 มิลลิกรัม (โดยในอาหารเสริมในรูปแบบของวิตามินบีรวมและวิตามินรวมที่มีคุณภาพมักจะมีไนอะซินอยู่ด้วยประมาณ 50-500 มิลลิกรัม โดยคุณสามารถดูได้ที่หลังฉลากของผลิตภัณฑ์อาหารเสริม)
  • ปริมาณที่แนะนำให้คุณรับประทานต่อวันคือ 13-19 มิลลิกรัมสำหรับวัยผู้ใหญ่ และ 20 มิลลิกรัมสำหรับหญิงผู้ให้นมบุตร
  • หากรับประทานวิตามินบี 3 หรือไนอะซินแล้วพบว่ามีอาการร้อนวูบวาบ ซึ่งเป็นอาการที่พบเห็นได้บ่อยครั้ง อย่าเพิ่งตกใจ สักพักประมาณครึ่งชั่วโมงอาการเหล่านี้ก็จะหายไปเอง ซึ่งการดื่มน้ำมาก ๆ สามารถช่วยได้ แนะนำว่าควรหาไนอะซินแบบไม่ร้อนวูบวาบที่มีส่วนผสมของอินอซิทอลเฮกซานิโคติเนตมารับประทาน อาการดังกล่าวก็จะไม่เกิดขึ้น
  • ไม่ควรรับประทานไนอะซินในขณะท้องว่างและไม่ควรรับประทานพร้อมเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิสูง เพื่อป้องกันการเสียดท้อง
  • สำหรับผู้ที่มีปัญหาในเรื่องคอเลสเตอรอลสูง การรับประทานไนอะซินเพิ่มสามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ประจำตัว
  • ผิวที่ไวต่อแสงแดดอาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นว่าร่างกายคุณกำลังขาดไนอะซิน
  • ไม่ควรให้สัตว์กินไนอะซินโดยเฉพาะสุนัข เพราะอาจมีอาการเหงื่อออก ร้อนวูบวาบตามตัว และสร้างความอึดอัดแก่สัตว์เลี้ยงได้ โดยศัตรูของวิตามินบี 3 ได้แก่ แอลกอฮอล์ น้ำ ยานอนหลับ ฮอร์โมนเอสโตรเจน ยาในกลุ่มซัลฟา

แหล่งอ้างอิง : หนังสือวิตามินไบเบิล (ดร.เอิร์ล มินเดลล์)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด