ไนอะซิน
- วิตามินบี 3 (ไนอะซิน, ไนอะซินาไมด์, กรดนิโคตินิก, นิโคตินาไมด์) (Niacin) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ มีหน่วยวัดเป็นมิลลิกรัม (มก. หรือ mg.) เป็นวิตามินที่มีความเสถียรมาก ทนต่อความร้อนจากการปรุงอาหารและการเก็บรักษาโดยสูญเสียประสิทธิภาพน้อยมาก ร่างกายของเรานั้นสามารถสร้างไนอะซินขึ้นเองได้โดยใช้กรดอะมิโนทริปโตเฟน สำหรับผู้ที่ร่างกายขาดวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 จะไม่สามารถสร้างวิตามินบี 3 จากทริปโตเฟนได้
- นอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญในการสังเคราะห์ฮอร์โมนเพศ เอสโตรเจน โพรเจสเทอโรน เทสโทสเตอโรน เช่นเดียวกับคอร์ติโซน ไทรอกซิน และอินซูลิน มีความจำเป็นต่อระบบประสาทและการทำงานของสมองและสุขภาพ บุคลิกภาพจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลงหากร่างกายคุณขาดไนอะซิน
- แหล่งที่พบวิตามินบี 3 ตามธรรมชาติ ได้แก่ ไข่ ปลา เนื้อไม่ติดมัน เนื้อขาวจากพวกสัตว์ปีก ตับ โฮลวีต จมูกข้าวสาลี ถั่วลิสง อะโวคาโด อินทผลัม ลูกพรุน มะเดื่อฝรั่ง บริเวอร์ยีสต์ เป็นต้น
- ผลเสียของการรับประทานเกินขนาด อาจมีแนวโน้มเป็นโรคเกาต์หรือมีอาการปวดตามข้อได้ หากในร่างกายคุณมีไนอะซิน มากเกินไป หรืออาจมีอาการร้อนวูบวาบ หน้าแดง คันตามตัวเมื่อรับประทานเกินกว่า 100 มิลลิกรัม และอาจทำให้ผู้ที่มีแนวโน้มเป็นโรคเบาหวานมีปัญหาต่อการควบคุมน้ำตาลในเลือด หรือส่งผลให้อาการของโรคเบาหวานรุนแรงขึ้นได้ และอาจทำให้ตับทำงานผิดปกติได้ เพราะไนอะซินในร่างกายที่มีสูงมากเกินไปจะส่งผลต่อการควบคุมน้ำตาลในร่างกาย
- โรคจากการขาดวิตามินบี 3 ได้แก่ โรคเพลลากรา (Pellagra) ลักษณะอาการคือเป็นผื่นผิวหนังอักเสบรุนแรง
ประโยชน์ของวิตามินบี 3
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
- วิตามินบี 3 มีความจำเป็นต่อระบบประสาทและการทำงานของสมอง
- ช่วยเผาผลาญไขมันและช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น บรรเทาปัญหาต่าง ๆ ของระบบย่อยอาหาร
- วิตามินบี 3 ช่วยบำรุงผิวพรรณ
- บรรเทาอาการปวดศีระษะจากไมเกรน
- เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความดันโลหิต
- วิตามินบี 3 ช่วยบรรเทาอาการท้องร่วง
- ลดอาการวิงเวียนศีรษะของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
- ช่วยเพิ่มพลังงานที่ได้จากการย่อยและเผาผลาญอาหาร
- ช่วยรักษาอาการร้อนในและกลิ่นปาก
คำแนะนำในการรับประทานวิตามินบี 3
- วิตามินบี 3 ในรูปแบบของอาหารเสริม ส่วนมากจะวางจำหน่ายในรูปของไนอะซิน อินอซิทอลเฮกซานิโคติเนต (IHN) และไนอะซินาไมด์ โดยอยู่ในรูปแบบที่เป็นแคปซูล เม็ด ผง มีขนาดตั้งแต่ 50-1,000 มิลลิกรัม (โดยในอาหารเสริมในรูปแบบของวิตามินบีรวมและวิตามินรวมที่มีคุณภาพมักจะมีไนอะซินอยู่ด้วยประมาณ 50-500 มิลลิกรัม โดยคุณสามารถดูได้ที่หลังฉลากของผลิตภัณฑ์อาหารเสริม)
- ปริมาณที่แนะนำให้คุณรับประทานต่อวันคือ 13-19 มิลลิกรัมสำหรับวัยผู้ใหญ่ และ 20 มิลลิกรัมสำหรับหญิงผู้ให้นมบุตร
- หากรับประทานวิตามินบี 3 หรือไนอะซินแล้วพบว่ามีอาการร้อนวูบวาบ ซึ่งเป็นอาการที่พบเห็นได้บ่อยครั้ง อย่าเพิ่งตกใจ สักพักประมาณครึ่งชั่วโมงอาการเหล่านี้ก็จะหายไปเอง ซึ่งการดื่มน้ำมาก ๆ สามารถช่วยได้ แนะนำว่าควรหาไนอะซินแบบไม่ร้อนวูบวาบที่มีส่วนผสมของอินอซิทอลเฮกซานิโคติเนตมารับประทาน อาการดังกล่าวก็จะไม่เกิดขึ้น
- ไม่ควรรับประทานไนอะซินในขณะท้องว่างและไม่ควรรับประทานพร้อมเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิสูง เพื่อป้องกันการเสียดท้อง
- สำหรับผู้ที่มีปัญหาในเรื่องคอเลสเตอรอลสูง การรับประทานไนอะซินเพิ่มสามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ประจำตัว
- ผิวที่ไวต่อแสงแดดอาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นว่าร่างกายคุณกำลังขาดไนอะซิน
- ไม่ควรให้สัตว์กินไนอะซินโดยเฉพาะสุนัข เพราะอาจมีอาการเหงื่อออก ร้อนวูบวาบตามตัว และสร้างความอึดอัดแก่สัตว์เลี้ยงได้ โดยศัตรูของวิตามินบี 3 ได้แก่ แอลกอฮอล์ น้ำ ยานอนหลับ ฮอร์โมนเอสโตรเจน ยาในกลุ่มซัลฟา
แหล่งอ้างอิง : หนังสือวิตามินไบเบิล (ดร.เอิร์ล มินเดลล์)
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)