6 ประโยชน์ของวิตามินบี 2 (Riboflavin – ไรโบฟลาวิน) !

ไรโบฟลาวิน

  • วิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน (Riboflavin) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ถูกดูดซึมได้ง่าย ปริมาณที่ถูกขับออกมาจะขึ้นอยู่กับความต้องการของร่างกายเป็นหลัก ร่างกายจึงไม่เก็บสะสมไว้ เราจึงควรได้รับอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจากอาหารหรืออาหารเสริม
  • วิตามินบี 2 มีอีกชื่อว่า วิตามินจี (Vitamin G) มีหน่วยวัดเป็นมิลลิกรัม (มก.หรือ mg.) วิตามินชนิดนี้จะถูกแสงสว่างทำลายได้โดยง่าย แต่ไม่ถูกทำลายด้วยความร้อนเหมือน วิตามินบี 3 โดยวิตามินที่พบว่าชาวอเมริกันขาดมากที่สุดคือไรโบฟลาวินหรือวิตามินบี 2
  • แหล่งที่พบวิตามินบี 2 ได้ในธรรมชาติ ได้แก่ ไข่ นม ถั่ว โยเกิร์ต ชีส ผักใบเขียว ปลา ตับ ไต เป็นต้น
  • โรคจากการขาดวิตามินบี 2 ได้แก่ โรคปากนกกระจอกหรือโรคขาดวิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 พบที่บริเวณริมฝีปาก มุมปาก ผิวหนัง อวัยวะสืบพันธุ์
  • ผลเสียของการรับประทานเกินขนาด ปัจจุบันยังไม่พบอาการที่บ่งชี้ว่าเป็นพิษที่เกิดจากการรับประทานวิตามินชนิดนี้ แต่ที่มีความไปได้ว่าหากในร่างกายมีวิตามินตัวนี้สูงเกินไปก็คือ คัน รู้สึกชา อาการแสบยิบ ๆ โดยศัตรูของวิตามินบี 2 ได้แก่ แสงแดดหรือแสงยูวี ความเป็นด่าง ยากลุ่มซัลฟา ฮอร์โมนเอสโตรเจน แอลกอฮอล์ และน้ำ เพราะวิตามินบี 2 จะถูกเจือจางในน้ำที่ประกอบอาหาร

ประโยชน์ของวิตามินบี 2

  1. วิตามินบี2ช่วยในกระบวนการสร้างการเจริญเติบโตและสืบพันธุ์
  2. บำรุงผิวพรรณ เล็บ และเส้นผม
  3. เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ช่วยบรรเทาอาการอ่อนล้าของสายตา
  4. ช่วยลดความเจ็บปวดจากไมเกรน
  5. กำจัดอาการเจ็บแสบในปาก ริมฝีปาก และลิ้น
  6. ทำงานร่วมกับสารอื่น ๆ ในการเผาผลาญอาหารประเภทแป้ง ไขมัน และโปรตีน

คำแนะนำในการรับประทานวิตามินบี 2

  • วิตามินบี 2 ในรูปแบบอาหารเสริม ขนาดที่ใช้โดยทั่วไปคือ 100 มิลลิกรัม จะทำงานได้ดีที่สุดเมื่ออยู่ในรูปแบบของวิตามินบีรวม โดยขนาดที่ใช้รับประทานโดยทั่วไปคือ 100-300 มิลลิกรัมต่อวัน
  • ปริมาณที่แนะนำให้รับประทานต่อวันคือ 1.2-1.7 มิลลิกรัมสำหรับผู้ใหญ่, 1.6 มิลลิกรัมสำหรับหญิงตั้งครรภ์, 1.8 มิลลิกรัม สำหรับหญิงให้นมบุตรในหกเดือนแรก และ 1.7 มิลลิกรัมสำหรับหกเดือนหลัง
  • ร่างกายจะต้องการวิตามินชนิดนี้เพิ่มมากขึ้นหากอยู่ในสภาวะเครียด
  • สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือรับประทานยาคุมกำเนิด ร่างกายคุณจะต้องการวิตามินบี 2 เพิ่มขึ้น
  • สำหรับผู้ที่รับประทานเนื้อแดงหรือนมวัวเพียงเล็กน้อย คุณควรหาวิตามินบี 2 มารับประทานเพิ่ม
  • เมื่ออยู่ในสภาวะเครียดทุกรูปแบบ วิตามินบีรวมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคุณ
  • วิตามินบี 2 จะทำงานร่วมกับ วิตามินซี วิตามินบี 3 และวิตามินบี 6 ได้ดีที่สุด
  • สำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ร่างกายจะต้องการวิตามินบี 2 เพิ่มมากขึ้น เพราะแอลกอฮอล์ขัดขวางการดูดซึมของวิตามินบี 2
  • วิตามินชนิดนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังรับประทานยาต้านมะเร็ง เช่น เมโทเทรกเซต เพราะอาจไปลดประสิทธิภาพของยาต้านมะเร็ง
  • สำหรับผู้ที่รับประทานยาปฏิชีวนะ ร่างกายคุณอาจจะไม่ได้รับวิตามินบี 2
  • มีความเป็นไปได้สูงมากที่คนขาดวิตามินบี 2 อาจเป็นเพราะกำลังรักษาแผลหรือโรคเบาหวาน
  • ผู้ป่วยที่รับประทานวิตามินบี 2 วันละ 400 มิลลิกรัม ติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 3-4 เดือน จะมีความถี่ ระยะเวลา และความรุนแรงของโรคไมเกรนลดลงถึงร้อยละ 50

แหล่งอ้างอิง : หนังสือวิตามินไบเบิล (ดร.เอิร์ล มินเดลล์)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด