ลูกท้อ สรรพคุณและประโยชน์ของลูกท้อ 18 ข้อ ! (ลูกพีช)

ลูกท้อ

ท้อ (ลูกท้อ, ลูกพีช) ชื่อสามัญ Peach

ท้อ ชื่อวิทยาศาสตร์ Prunus persica (L.) Stokes (แต่เดิมใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Prunus persica (L.) Batsch) จัดอยู่ในวงศ์กุหลาบ (ROSACEAE)

ท้อ มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ในบ้านเราอีก เช่น มะฟุ้ง, มักม่น, มักม่วน, หุงหม่น, หุงคอบ เป็นต้น

ลักษณะของต้นท้อ

• ต้นท้อ จัดเป็นไม้เมืองหนาวที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน และในบ้านเราเองก็มีการปลูกท้อเช่นกัน ในพื้นที่ทางภาคเหนือที่มีอากาศเย็น ลักษณะของต้นท้อ เป็นไม้เมืองหนาวที่ขึ้นได้ดีในพื้นที่ที่มีความสูงตั้งแต่ 3,000 ฟุตขึ้นไป และมีอุณหภูมิเฉลี่ยที่ 10 องศาเซลเซียส และทนแล้งได้ดี ท้อจัดเป็นไม้พุ่มผลัดใบ

• ใบท้อ ลักษณะของใบเป็นไม้ใบเดี่ยว เรียงสลับ คล้ายรูปหอก
• ดอกท้อ ดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกเป็นกระจุก กลีบดอก 5 กลีบ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ มีสีขาว สีชมพู สีแดง

• ผลลูกท้อ ลักษณะของผลเป็นผลสดเมล็ดเดี่ยว มีขนปกคลุมทั่วบริเวณผิว

Tip แต่สิ่งที่ควรระวังในการรับประทานลูกท้อหรือลูกพีชก็คือ ผลท้อจะมีขนอ่อน ๆ ปกคลุมอยู่ทั่วผล การสัมผัสโดยตรงอาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองและคันได้ ดังนั้นก่อนนำมารับประทานควรนำไปล้างให้สะอาด ให้ขนเหล่านั้นหลุดออกให้หมดก่อน

สรรพคุณของท้อ

1. ช่วยลดอาการเหงื่อออกมาก
2. ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ (เมล็ด)
3. ช่วยบำรุงโลหิต (เมล็ด)
4. ช่วยลดความดันโลหิต
5. ช่วยแก้อาการไอ (เมล็ด)
6. ช่วยรักษาโรคหอบหืด
7. ช่วยทำให้ลำไส้หล่อลื่น ช่วยทำความสะอาดลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่
8. ช่วยแก้อาการท้องผูก (เมล็ด)
9. ช่วยทำให้ลำไส้และหัวใจทำงานได้อย่างเป็นปกติ (เมล็ด)
10. ดอกใช้เป็นยาระบาย (ดอก)
11. ช่วยรักษาอาการปวดของโรคไส้เลื่อน
12. ช่วยในการขับปัสสาวะ (ดอก)
13. ช่วยขับพยาธิ (ใบ)

ประโยชน์ของลูกท้อ

1. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด
2. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
3. ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
4. ช่วยเสริมสร้าง บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
5. ประโยชน์ของลูกท้อกับความงาม ช่วยทำให้ผิวขาวเนียน ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน โดยใช้เนื้อท้อประมาณครึ่งลูกนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปปั่นให้ละเอียดจนเป็นเนื้อครีม แล้วนำมาพอกใบหน้าหลังจากที่ล้างหน้าสะอาดแล้ว พอกทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออก
6. ลูกท้อเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกมาอย่างยาวนาน และในวัฒนธรรมของชนชาติต่าง ๆ ก็จะมีท้อรวมอยู่ด้วย ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือประเทศจีน โดยชาวจีนมีความเชื่อว่า ลูกท้อเป็นสัญลักษณ์ของการมีอายุยืนยาว ช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ถ้าดอกท้อบานในระหว่างการฉลองวันปีใหม่ มีความเชื่อว่าปีต่อไปจะเป็นปีแห่งโชคลาภ และดอกท้อยังนำมาใช้ประดับตกแต่งภายในบ้านเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลอีกด้วย นอกจากนี้แล้วในสมัยโบราณหากมีการเขียนป้ายคำอวยพร ก็จะนิยมเขียนลงไม้ที่ทำมาจากต้นท้อเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

คุณค่าทางโภชนาการของลูกท้อ ต่อ 100 กรัม

• พลังงาน 39 กิโลแคลอรี
• คาร์โบไฮเดรต 9.54 กรัม
• น้ำตาล 8.39 กรัม
• เส้นใย 1.5 กรัม
• ไขมัน 0.25 กรัม
• โปรตีน 0.91 กรัม
• วิตามินเอ 16 ไมโครกรัม 2%
• เบตาแคโรทีน 162 ไมโครกรัม 2%
• วิตามินบี 1 0.024 มิลลิกรัม 2%
• วิตามินบี 2 0.031 มิลลิกรัม 3%
• วิตามินบี 3 0.806 มิลลิกรัม 5%
• วิตามินบี 5 0.153 มิลลิกรัม 3%
• วิตามินบี 6 0.025 มิลลิกรัม 2%
• วิตามินบี 9 4 ไมโครกรัม 1%
• โคลีน 6.1 มิลลิกรัม 1%
• วิตามินซี 6.6 มิลลิกรัม 8%
• วิตามินอี 0.73 มิลลิกรัม 5%
• วิตามินเค 2.6 ไมโครกรัม 2%
• ธาตุแคลเซียม 6 มิลลิกรัม 1%
• ธาตุเหล็ก 0.25 มิลลิกรัม 2%
• ธาตุแมกนีเซียม 9 มิลลิกรัม 3%
• ธาตุแมงกานีส 0.061 มิลลิกรัม 3%
• ธาตุฟอสฟอรัส 20 มิลลิกรัม 3%
• ธาตุโพแทสเซียม 190 มิลลิกรัม 4%
• ธาตุโซเดียม 0 มิลลิกรัม 0%
• ธาตุสังกะสี 0.17 มิลลิกรัม 2%

% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)

แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)