ลูกชายหรือลูกสาวดีกว่ากัน
ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีก้าวล้ำจนทำให้เราสามารถเลือกเพศของเด็กในท้องได้ โอกาสที่พ่อแม่จะได้ลูกออกมาเป็นชายหรือหญิงจึงกำหนดได้ตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์ ทั้งด้วยการใช้หลักการทางการแพทย์ไปจนถึงความเชื่อที่บอกเล่าต่อ ๆ กันมา ทำให้โอกาสของการได้เพศลูกตามใจพ่อแม่ได้ต่างจากเมื่อก่อน อย่างไรก็ตาม ข้อดีของการมีลูกชายหรือลูกสาวมีความแตกต่างกันออกไป
ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีเพศไหนที่จะสมบูรณ์แบบไปด้วยข้อดีเพียงอย่างเดียว ความพึงพอใจและสิ่งที่พ่อแม่วาดฝันเอาไว้กับลูกที่เกิดมาจึงมักจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเพศไหนสำหรับพวกเขามีข้อดีมากกว่ากัน การเลี้ยงดูเด็กทั้งสองเพศจึงแตกต่างกันออกไปด้วย พ่อแม่ที่วาดหวังให้ลูกน้อยได้ดั่งใจจึงจำเป็นต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจพัฒนาการความต่างของแต่ละเพศที่จะมีการเปลี่ยนแปลงกันตั้งแต่วินาทีแรกที่ทารกลืมตาขึ้นมาดูโลก เราอาจจะลองมาดูตัวเลือกที่จะเป็นข้อตัดสินใจบางส่วนให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ว่าการมีลูกผู้ชายหรือลูกผู้หญิงมีข้อดีแตกต่างกันออกไปอย่างไรบ้าง
แม่ส่วนใหญ่รัก “ลูกชาย” มากกว่า
นี่เป็นหนึ่งในผลการวิจัยที่เกิดขึ้นจริง ! ซึ่งผลสรุปที่ได้จากแม่ทั้งหมด 2,000 คนที่มีทั้งลูกผู้หญิงและชายในครอบครัว สิ่งที่คุณแม่เหล่านี้กระซิบผ่านผลการวิจัยในครั้งนี้คือพวกเขารู้สึกว่าตัวเองรักลูกชายมากกว่า พยายามที่จะเอาอกเอาใจให้ลูกชายมีความสุข ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้หมายความว่าเหล่าแม่ ๆ จะทิ้งลูกผู้หญิงให้กลายเป็นเด็กไร้ตัวตนในบ้าน ทว่าการแสดงออกของแม่จะทำให้ลูกผู้หญิงสัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียวว่าแม่เอนเอียงไปทางลูกชายมากกว่าพวกเธอ
สาเหตุส่วนใหญ่ที่เหล่าคุณแม่บอกว่าทำไมถึงรักลูกชายมากกว่า นั่นก็เป็นเพราะว่าลูกชายมักจะมีนิสัยร่าเริง เต็มไปด้วยความน่ารักน่าชัง ขี้เล่น ตลก และยังมากมายด้วยอารมณ์ขันที่ทำให้คุณแม่รู้สึกเพลินใจไปด้วย ส่วนลูกผู้หญิงซึ่งถือว่าเป็นเพศเดียวกัน เหมือนกับความรู้สึกระหว่างผู้หญิงด้วยกันที่สัมผัสถึงกันได้ แม่จึงรู้ว่าลูกผู้หญิงต้องการอะไร และการแสดงออกเหล่านั้นมักจะน่าอารมณ์เสียกับการพยายามต่อปากต่อคำจนน่าปวดหัวของพวกเธอนั่นเอง
ผลจากการวิจัยนี้แสดงให้เห็นความน่าเป็นห่วงที่คุณแม่ทั้งหลายหันมาเอาอกเอาใจลูกชายมากกว่า อาจจะส่งผลให้ลูกผู้หญิงเติบโตขึ้นมามีปัญหาได้ในภายหลัง รู้สึกว่าตัวเองขาดความอบอุ่น พ่อแม่ไม่รัก ซึ่งนั่นสามารถทำให้พวกเธอเก็บกดและกลายเป็นปัญหาสังคมตามมาได้ คุณแม่ที่ไม่อยากให้ลูกต้องเผชิญกับความก้าวร้าวในอนาคต ควรพยายามแสดงออกอย่างเท่าเทียมกัน แม้จะรู้สึกว่าการเลี้ยงลูกชายให้ความสุขมากกว่า ก็ควรเก็บความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้ในใจเพื่อให้ครอบครัวอบอุ่นและเด็ก ๆ เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่อย่างสมบูรณ์แบบ
ทำความเข้าใจกับการเลี้ยงลูกชายลูกสาว
เป็นเรื่องปกติที่พ่อแม่จะเลี้ยงลูกเพศชายและหญิงแตกต่างกันออกไป ซึ่งเด็กผู้ชายพ่อแม่มักจะแสดงออกกับลูกด้วยท่าทางที่ไม่อ่อนหวานหรือนุ่มนวลเหมือนเด็กผู้หญิง แต่ก็ยังมีการแสดงออกด้วยความเอ็นดูเช่นเดียวกัน เพราะจะเห็นว่าลูกชายจะต้องเป็นคนเข้มแข็งและมีความกล้าหาญ การร้องไห้ในเด็กผู้ชายจึงมักไม่ค่อยได้รับการปลอบโยนเท่าใดนัก ส่วนเด็กผู้หญิงพ่อแม่จะเห็นว่ามีความอ่อนแอมากกว่า ก็จะมีการผ่อนหนักเป็นเบาตามความเหมาะสม
พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกได้อย่างถูกวิธีคือการพยายามแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมกับเพศของตัวเองให้ลูกเห็นอย่างชัดเจน พ่อต้องมีความเข้มแข็ง เป็นสุภาพบุรุษ อ่อนโยนต่อสตรีเพศ และมีอดทนอดกลั้นมากกว่า ส่วนแม่จะต้องทำหน้าที่เป็นคนที่คอยดูแลสิ่งต่าง ๆ ในบ้าน ทำหน้าที่ของความเป็นผู้หญิง มีความอ่อนหวาน พูดจาไพเราะ แต่งตัวเรียบร้อยมิดชิด ไม่พูดจาด้วยคำหยาบคาย และที่สำคัญทั้งพ่อและแม่จะต้องไม่แสดงพฤติกรรมรุนแรงให้ลูกเห็น การเติบโตของเด็กทั้งสองเพศในแต่ละช่วงวัยจะมีความแตกต่างกัน การรับรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัวจึงแตกต่างกันออกไปด้วยตามลักษณะทางพฤติกรรมดังต่อไปนี้
ความแตกต่างด้านพัฒนาการของเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงตั้งแต่แรกคลอด
- เมื่อใดก็ตามที่ทารกชายร้องไห้งอแง การปลอบจะยุ่งยากมากกว่าทารกผู้หญิง เด็กจะไม่ค่อยเชื่อฟังเสียงพูดของพ่อแม่เท่าใดนัก อาจจะต้องใช้เวลากว่าเด็กจะสงบลง อีกทั้งเมื่อใดก็ตามที่ได้ยินเสียงร้องไห้จากเด็กคนอื่น ลูกชายมักจะแสดงท่าทีร้องไห้ออกมาอีกได้ง่าย ส่วนในลูกผู้หญิงจะสามารถปลอบให้หยุดร้องได้ง่ายกว่า ซึ่งเนื่องมาจากพัฒนาการทางสมองที่รับรู้ภาษาของพ่อแม่ได้รวดเร็วกว่า แต่เมื่อได้ยินเสียงเด็กคนอื่นร้องไห้ เด็กผู้หญิงจะร้องไห้ตามนานมากกว่าเด็กผู้ชาย
- ด้วยพัฒนาการด้านรับรู้ทางภาษา ทำให้การรับรู้เสียงของเด็กผู้หญิงรวดเร็วกว่า การหันมามองเพื่อหาต้นทางของเสียงจึงดีกว่าในเด็กผู้ชาย กรณีที่ได้ยินเสียงพ่อแม่เด็กผู้ชายจะชะงักและหันไปหาเสียงช้ากว่า
- เด็กผู้หญิงมักจะเรียนรู้สิ่งรอบตัวได้รวดเร็ว สนใจสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งถือว่าเป็นการกระตุ้นพัฒนาการทางด้านสายตาได้ดีกว่า ส่วนในเด็กผู้ชายพ่อแม่ต้องพยายามกระตุ้นทักษะของพวกเขาให้มากขึ้นจึงจะช่วยเพิ่มทักษะทางด้านการมองเห็น ดังนั้นเด็กผู้หญิงจึงสามารถจ้องหน้าและรับรู้รูปลักษณ์ใบหน้าของพ่อแม่ได้ดีกว่า
- เด็กผู้หญิงมีความสามารถในการจดจำใบหน้าได้ดีกว่าเด็กผู้ชาย แถมยังแยกแยะอารมณ์ทางสีหน้าของผู้คนได้มากกว่า ส่วนเด็กชายจะหันไปสนใจกับการแยกแยะความแตกต่างจากสิ่งรอบตัวเสียมากกว่า
- เด็กผู้หญิงจะมีพัฒนาการในการทรงตัวได้ดีกว่า ดังนั้นจึงสามารถลุกขึ้นเดินได้เร็วกว่าในเด็กผู้ชาย
- เด็กผู้ชายจะสนใจสิ่งรอบตัว พยายามเก็บรายละเอียดสิ่งต่าง ๆ และจดจำได้ดีกว่าเด็กผู้หญิง
- พัฒนาการในการเจริญเติบโตทุกอย่าง ในเด็กผู้หญิงจะเป็นไปอย่างรวดเร็วกว่าในเด็กผู้ชาย แต่แม้จะมีพัฒนาการที่ช้ากว่า ทว่าเมื่อถึงระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นทักษะทางด้านการพูด การฟัง การเดิน หรือทักษะด้านอื่น ๆ เด็กผู้ชายจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดดได้ดีกว่า
- การเข้าสังคมสำหรับเด็กผู้หญิงแล้วจะเข้ากับเพื่อนฝูงได้ง่ายกว่า ชอบการพูดคุยและพบปะกับเพื่อนใหม่ ๆ ซึ่งนั่นก็เป็นตัวการที่มักทำให้เด็กผู้ชายมีปัญหาทางความเครียดมากกว่า และเกิดเป็นปัญหาทางด้านพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมตามมาได้ง่าย
- เด็กผู้ชายมักจะชอบการเล่นที่เน้นการแข่งขันเอาชนะ ชอบการเล่นที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้น ผาดโผนและเต็มไปด้วยพลังในการกระโดดโลดเต้นมากกว่า ในขณะที่เด็กผู้หญิงจะชอบเล่นอะไรที่มีความนุ่มนวล เรียบง่าย และเต็มไปด้วยจินตนาการเพ้อฝันมากกว่า
ข้อดีของการมีลูกผู้ชาย
- ใช้ชีวิตได้ปลอดภัยกว่า พ่อแม่ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเท่ากับลูกผู้หญิง โดยเฉพาะเรื่องการถูกทำมิดีมิร้าย เพราะปัญหาส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับเด็กผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพศที่อ่อนแอกว่านั่นเอง
- ดูแลได้ง่ายกว่า ดูแลง่ายในช่วงวัยเด็ก โดยเฉพาะการฉี่ที่ไม่ต้องห่วงเรื่องความสะอาดมากเท่ากับเด็กผู้หญิง เพราะทำความสะอาดได้ง่ายกว่า จึงลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการสะสมของสิ่งสกปรกน้อยลง
- พ่อแม่ส่วนใหญ่หวังพึ่งพิง เนื่องจากลูกชายมักจะมีความสามารถมากกว่าในการช่วยงานในสิ่งที่ผู้หญิงไม่สามารถทำได้ หรือไม่ค่อยมีความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถยนต์ การซ่อมแซมบ้านในส่วนต่าง ๆ ที่มีปัญหา มีลูกชายเอาไว้จึงเป็นเหมือนช่างประจำตัวของบ้านได้
- ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องท้อง แน่นอนว่าการท้องเป็นหน้าที่ของผู้หญิง ดังนั้นพ่อแม่ทั้งหลายจึงไม่ต้องมาคอยนั่งปวดหัวกับการท้องก่อนแต่งของลูกชาย หรือท้องไม่มีพ่อ โตขึ้นมาจึงหมดห่วงในเรื่องนี้ไปได้
- หางานได้ง่ายกว่าผู้หญิง ผู้ชายส่วนมากมีโอกาสเติบโตในสังคมเป็นเจ้าคนนายคนได้ดีกว่า การมีลูกชายจึงเปิดโอกาสให้เหล่าพ่อแม่วาดฝันเอาได้ว่าลูกจะมีความสามารถเจริญกว่าหน้าในหน้าที่การงานของตัวเองได้ โอกาสเอาตัวรอดในเรื่องนี้จึงมีสูง
- ช่วยทำให้บ้านปลอดภัย การมีลูกชายช่วยทำให้บ้านดูปลอดภัยมากกว่าการมีแค่ผู้หญิงอยู่ เมื่อพวกเขาโตขึ้นจึงทำหน้าที่เหมือนบอดี้การ์ดคอยปกป้องครอบครัวจากอันตรายได้บ้าง
- ทำหน้าที่สืบสกุล ด้วยวัฒนธรรมของไทย การแต่งงานคือการสืบสกุลชาติตระกูลของตัวเอง ผู้หญิงจึงจำเป็นต้องหันมาใช้นามสกุลของผู้ชาย (แม้ในปัจจุบันจะมีทางเลือกตามความสมัครใจก็ตาม) มากกว่า ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบเมื่อมีการจดทะเบียนสมรสเกิดขึ้น สกุลของบ้านที่มีลูกชายก็จะสามารถถูกสืบทอดต่อไปได้
- ได้บวชเรียนให้กับพ่อแม่ได้ พ่อแม่ที่มีลูกชายย่อมคาดหวังที่จะได้เห็นพวกเขาบวชเพื่อพวกตนสักครั้งหนึ่งในชีวิต เป็นความเชื่อตามประเพณีไทย พ่อแม่จะรู้สึกดีใจมากเมื่อลูกบวชตามกำหนดเมื่อครบอายุ ให้พวกตนได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์
ข้อดีของการมีลูกผู้หญิง
- มีเสื้อผ้ามากมายให้เลือกใส่ ด้วยชุดเสื้อผ้าสำหรับเด็กผู้หญิงมีให้เลือกมากกว่า คุณแม่จึงสามารถแต่งตัวให้ลูกสาวได้หลากหลาย แถมแต่ละชุดก็ดูน่ารักน่าชัง จะเปลี่ยนเป็นเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ หรือตัวการ์ตูนแสนน่ารักก็ได้ตามใจชอบ
- สนิทกับคุณแม่มากกว่าคุณพ่อ คุณแม่ส่วนใหญ่จึงสามารถกอดหอมลูกไปได้แบบไม่เขินอาย แม้เด็ก ๆ จะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม การแสดงออกทางความรักระหว่างแม่ลูกจึงดูเป็นอะไรที่อบอุ่นมากเป็นพิเศษ
- เป็นเพื่อนสนิทให้กับคุณแม่ ลูกผู้หญิงกับแม่เป็นเพศเดียวกัน ดังนั้นเมื่อใดที่ทั้งสองผูกพันและสนิทสนม คุณแม่ก็จะได้ไม่รู้สึกเหงา มีความสุขกับการได้มีเพื่อนเที่ยว เพื่อนกิน หรือแม้แต่คนที่คอยช่วยเลือกเสื้อผ้าและเครื่องสำอางไปด้วยกัน
- มีความอ่อนโยน เด็กผู้หญิงมีพฤติกรรมที่อ่อนโยนมากกว่าในเด็กผู้ชาย มีนิสัยขี้อ้อน มีความอ่อนโยน อ่อนหวาน และมีมุมที่น่ารักจนคุณพ่อและแม่ต้องอมยิ้มอยู่บ่อย ๆ จึงทำให้พวกเขาดูน่ารัก น่าทะนุถนอม
- เลี้ยงง่ายกว่า ลูกผู้หญิงส่วนมากซนน้อยกว่าและเชื่อฟังได้ดี มีความเมตตากรุณา จะสร้างลักษณะนิสัยพื้นฐานของตนเองโดยมีแม่เป็นตัวอย่าง จึงทำให้พ่อแม่เหนื่อยน้อยกว่าการเลี้ยงลูกชายที่มักจะซนเป็นลิงอยู่บ่อย ๆ
- ช่วยทำงานบ้านได้ดี เด็กผู้หญิงจะทำงานเป็นระเบียบและมีความละเอียดอ่อนได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า พับผ้า และงานบ้านอื่น ๆ พวกเขาสามารถใส่ใจกับรายละเอียดในจุดเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี จึงช่วยแบ่งเบาภาระของคุณแม่ให้น้อยลงได้
- ติดพ่อแม่มากกว่า เด็กผู้หญิงส่วนมากจะติดพ่อแม่มากกว่าเด็กผู้ชาย จะชอบพูดคุยอยู่กับพ่อแม่ แต่เด็กผู้ชายมักจะหันเหจุดสนใจของตัวเองไปที่ของเล่น ที่สำคัญสังคมส่วนใหญ่ที่พบเมื่อเด็กผู้หญิงโตขึ้นก็มักจะให้ความสำคัญกับการดูแลครอบครัว ใส่ใจในรายละเอียด ไม่ค่อยปล่อยปละละเลยพ่อแม่ในยามแก่ชรา
- สอนง่ายกว่าเด็กผู้ชาย เพราะมีพัฒนาการในการเรียนรู้และทำความเข้าใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้ดีกว่า พวกเขาจึงเชื่อฟังและทำตามอย่างง่ายดาย ไม่ค่อยแสดงออกด้วยพฤติกรรมต่อต้านที่ก้าวร้าว
- ช่วยดูแลน้อง ๆ หากคุณแม่มีน้องเพิ่ม ลูกผู้หญิงคนโตจะสามารถทำหน้าที่แบ่งเบาภาระ ช่วยเลี้ยงน้องได้อีกแรง เพราะด้วยเป็นเพศหญิงด้วยกันจึงเข้าใจถึงการเลี้ยงดูเด็กที่เป็นสัญชาตญาณติดตัวมาของผู้หญิงอยู่แล้วนั่นเอง
- เสี่ยงต่อการติดยาเสพติดน้อยกว่า ลูกผู้หญิงส่วนใหญ่หากเลี้ยงให้ดีแล้ว ก็จะช่วยให้พวกเขาสามารถเติบโตขึ้นเป็นเด็กที่ดีได้ง่าย โดยเฉพาะความเสี่ยงที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและสิ่งไม่ดี มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยกว่า
- บ้าพลังน้อยกว่า เพราะความอ่อนโยนเป็นพื้นฐานในตัวผู้หญิง เด็ก ๆ จึงมีโอกาสน้อยที่จะเข้าไปสร้างการทะเลาะวิวาท ชกต่อยกับเพื่อน ๆ เหมือนเด็กผู้ชาย
- มีความระมัดระวัง ลูกผู้หญิงจะมีความระมัดระวังในการทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความไม่ประมาท จึงทำให้ความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้น้อยกว่า ต่างจากเด็กผู้ชายที่ชอบความท้าทาย ผาดโผน จึงไม่ค่อยระมัดระวังตัวเองทำให้พ่อแม่เป็นห่วงอยู่บ่อย ๆ
คำตอบของพ่อแม่ส่วนใหญ่กับการเลือกเพศของลูกคนแรก
สำหรับพ่อแม่มือใหม่ในการเลือกเพศของลูกคนแรก ผลจากคำตอบดูจะแตกต่างกันในกลุ่มของคุณพ่อและคุณแม่ ซึ่งพบว่ากว่า 70% ต้องการมีลูกคนแรกเป็นลูกชายมากกว่า ซึ่งเหตุผลของพวกเขาก็คือการเลี้ยงดูที่ทำได้ง่าย ลูกผู้ชายไม่จำเป็นต้องเลี้ยงประคบประงมเหมือนเด็กผู้หญิง
ด้วยประสบการณ์ที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ไม่ค่อยมี จึงเป็นทางเลือกที่ทำให้พวกเขารู้สึกง่ายกว่าการเลี้ยงลูกผู้หญิงที่แลดูจะเข้าใจยาก ที่สำคัญการมีลูกชายคนแรกและกลายเป็นพี่ชายคนโต จะช่วยให้พวกเขามีหน้าที่ปกป้องน้องได้ดีกว่า และสามารถสืบนามสกุลให้กับวงศ์ตระกูลได้
ในขณะเดียวกันกลุ่มที่รู้สึกว่าการมีลูกคนแรกเป็นผู้หญิงก็มีส่วนดีอยู่ไม่น้อย เพราะพวกเขาดูน่ารักน่าชัง มีความอ่อนหวาน เมื่อโตขึ้นสามารถจะพึ่งพาเป็นพี่สาวที่คอยแบ่งเบาภาระของคุณแม่ ดูแลน้อง ๆ และช่วยงานบ้านได้
ข้อดีของการมีลูกชายหรือลูกสาวของแต่ละครอบครัวจึงแตกต่างกันออกไป ซึ่งถือว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย บางคู่รักก็ชอบเด็กผู้หญิง บางคู่ก็ชอบเด็กผู้ชายมากกว่า ตามการปลูกฝังมาจากครอบครัวและประสบการณ์ที่ตนเองมี ถึงอย่างไรก็ตามไม่ว่าลูกที่ออกมาจะเป็นเพศไหน การเลี้ยงดูเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะช่วยส่งผลให้เด็กเลี้ยงง่ายหรือยาก
พฤติกรรมแต่ละเพศของลูก ๆ จึงเป็นสิ่งที่พ่อแม่จำเป็นต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจถึงจุดต่าง การเลี้ยงดูอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นลูกผู้หญิงหรือชายก็จะทำให้พ่อแม่สบายใจและมีความสุข ดังนั้นหากไม่ได้เพศของลูกอย่างที่ตั้งใจไว้ ขอแค่ให้คุณพ่อและแม่เลี้ยงดูเขาให้ดี ก็จะทำให้ลูก ๆ เป็นคนดีของครอบครัวและสังคม ได้เห็นพวกเขาเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์แบบได้ไม่แพ้กันอย่างแน่นอน
ภาพประกอบ : Bigstock
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)