วิถีชีวิตแบบเร่งรีบในสังคมเมือง ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ได้เลือกอาหารที่รับประทานเข้าไปตามหลักโภชนาการ จนทำให้ อวบ เจ้าเนื้อ มีพุง แขนใหญ่ ขาใหญ่ หรือเรียกรวมๆ ว่า “อ้วน” นั่นเอง ถึงแม้ทุกคนจะทราบกันดีว่า การออกกำลังกายแบบจริงจัง จะช่วยให้ รูปร่างกลับมาสวยงามดังเดิมได้แน่นอน แต่ปัญหาก็คือ ทุกคนจะคิดว่า “งานยุ่งจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย” จึงเกิดคำถามมากมายถึงการลดน้ำหนัก โดยไม่ต้องออกกำลังกาย ต้องทำอย่างไรบ้าง
แน่นอน เราสามารถลดน้ำหนักโดยไม่ออกกำลังกายได้
แต่ผลลัพธ์ที่ได้ จะเป็นอย่างที่ต้องการจริงหรือ?
วิธีที่นิยมสำหรับการลดน้ำหนักก็คือ การอดอาหาร หรือกินให้น้อยลง กินน้ำน้อยลง ผ่านไปแค่เพียง 2-3 วัน เราก็จะได้น้ำหนักตัวที่ลดลงอย่างแน่นอน แต่ต้นแขน ต้นขา หรือพุง ยังคงไม่มีอาการลดลงเลยแม้แต่น้อย นั่นเป็นเพราะในร่างกายคนเราประกอบไปด้วยน้ำ 70% และน้ำหนักตัวที่ลดลงไป มันคือส่วนประกอบของน้ำในร่างกายนั่นเอง แต่สิ่งที่สะสมในร่างกายเราทำให้อ้วน หุ่นไม่ดี มีพุง มันคือ “ไขมัน” ล้วนๆ ที่สำคัญการอดอาหาร จะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายผิดปกติอีกด้วย และนั่นคือสาเหตุที่วิธีนี้ทำให้เกิด โยโย่ กลับมาอ้วนใหม่ได้ง่ายนั่นเอง
การออกกำลังกาย คือวิธีเดียว ที่จะเผาผลาญไขมันสะสมออกไปจากร่างกาย
มันคือความจริงที่น่าปวดใจ ของคนที่คิดว่า ไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่ถ้าเรามาลองนึกถึงเวลาที่เราไปดูหนัง ไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ หรือไปกินข้าวมื้อใหญ่ๆ เรามีเวลาเหลือเฟือ สรุปคือ ถ้าเป็นการเก็บเกี่ยวไขมันเข้าสู่ร่างกายเรามักจะมีเวลาหรือจัดเวลาให้ได้เสมอ แต่ ถ้าเป็นการเผาผลาญไขมันออกเรามักจะคิดว่า ไม่มีเวลา ถ้าเป็นแบบนี้คงต้องปรับที่ความคิดกันก่อนเลย
การออกกำลังกายสำหรับการเผาผลาญไขมันยังแบ่งออกเป็น
เวทเทรนนิ่ง
การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งคือการออกกำลังกายที่อาศัยแรงต้านต่างๆ ทั้งจากอุปกรณ์ดัมเบล บาร์เบล หรือแม้แต่น้ำหนักตัวของเราเอง โดยให้กล้ามเนื้อทำงานหนักขึ้น และร่างกาย ก็จะรับรู้และเสริมสร้างกล้ามเนื้อในส่วนนั้นให้มากขึ้น และกล้ามเนื้อนี่แล่ะคือเตาเผาชั้นดี ในการนำเอาไขมันไปละลายทิ้ง ซึ่งถ้าเราลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร กล้ามเนื้อเราก็จะลดลงเช่นกัน นั่นแปลว่า เตาเผาสำหรับละลายไขมันก็ทำงานได้น้อยลงด้วยนั่นเอง และเป็นสาเหตุที่น้ำหนักลดลงแต่ ไขมันยังคงที่ หรือเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ
แต่สำหรับคุณสาวๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่า ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งแล้ว จะทำให้แขนโต หรือต้นขาโตเหมือนพวกนักกล้ามนะ เพราะฮอร์โมนในร่างกายที่แตกต่างกัน ทำให้คุณผู้หญิงที่ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งจะได้หุ่นที่สวยงาม สะโพกสวย เอวเล็ก
คาร์ดิโอ
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เป็นการออกกำลังกายในแบบที่ให้หัวใจทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง เช่นการวิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เพียงแต่ ร่างกาย จะเริ่มเผาผลาญไขมันจากการออกกำลังกายแบบ คาร์ดิโอ ไปแล้วประมาณ 30 นาทีขึ้นไป
นอกจากนี้ การดูแลในเรื่องของโภชนาการที่ดี ยังเป็นการส่งเสริมระบบเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย และอาหารหมู่สำคัญที่เราต้องใส่ใจในการบริโภคก็คือ
โปรตีน และ ไขมันดี
เป็นสารอาหารจำเป็นในการออกกำลังกายเพื่อลดนำ้หนัก และการเผาผลาญไขมัน โดยปกติแล้ว เราต้องการโปรตีนในแต่ละวันคือ 1 กรัม ต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม นั่นแปลว่า ถ้าเราน้ำหนักตัว 45 กิโลกรัม ในแต่ละวันเราต้องการโปรตีนจากแหล่งต่างๆ 45 กรัมนั่นเอง และโปรตีนแหล่งที่แนะนำ จะได้มาจาก เนื้ออกไก่ เนื้อปลา และจากอาหารประเภทถั่วต่างๆ เพราะแหล่งที่กล่าวมานั้นจะมีปริมาณไขมันอยู่ในจำนวนที่น้อย หรือหากมี ส่วนใหญ่จะเป็นไขมันดี ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
การควบคุมอาหารประเภทแป้ง หรือกลุ่มที่ให้สารอาหาร คาร์โบไฮเดรต
ถึงแม้ว่า แป้ง คืออาหารประเภทที่ให้พลังงานต่อร่างกาย และถ้าใช้ไม่หมดร่างกายก็จะเปลี่ยนจากแป้งไปเป็นไขมันที่สะสมตามส่วนต่างๆของร่างกาย แต่ในการลดน้ำหนักแล้ว แป้งก็เป็นสิ่งที่ร่างกายขาดไม่ได้เช่นกัน แต่ควรบริโภคให้พอดี ไม่น้อยเกินไป และไม่มากเกินไป โดยเฉพาะในการออกกำลังกายในช่วง 30 นาทีแรก ร่างกายจะนำเอาแป้งที่เพิ่งกินเข้าไปใหม่ๆ มาใช้ก่อนนั่นเอง ถ้าเรามีไม่เพียงพอ อาจทำให้หมดแรง และเกิดอาการโหย จนต้องหยุดออกกำลังกายและไปจัดมื้อใหญ่แทนแน่ๆ
ตัวช่วยดีๆ ชีวิตก็จะง่ายขึ้นเยอะ
อาหารเสริมดีๆ ถ้าเรารู้จักเอามาใช้ จะทำให้การออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักนั้นง่ายขึ้นเยอะเลย และต้องทำความเข้าใจด้วยว่า อาหารเสริม กับ ยาลดความอ้วน นั้นเป็นคนละอย่างกัน อาหารเสริมที่ดี ไม่มีส่วนผสมของยาลดความอ้วน ให้สังเกตจากส่วนประกอบ และแหล่งผลิต หรือง่ายที่สุด ก็คือ การได้รับเครื่องหมายรับรองจาก อ.ย. อย่างเช่น LeVif S7 ที่เป็นเจลลี่รสแอ๊ปเปิ้ล ในซองสีเขียวสดใสตัวนี้ ที่เคลมเอาไว้ว่า มีส่วนผสมของสารอาหารประเภท GIC Complex ลิขสิทธิ์เฉพาะจากเกาหลี ที่นอกจากจะช่วยบล็อกไขมันแล้วยังทำงานควบคู่กับระบบเผาผลาญ ช่วยในการดึงไขมันเก่าออกมาใช้ได้อย่างปลอดภัย แต่มีประสิทธิภาพ ทานง่ายๆแค่ฉีกซอง บีบเจล อั้มๆ ก่อนออกกำลังกาย เท่านี้ก็ช่วยให้เห็นผลจากการเวิร์คเอ๊าท์ชัดเจนขึ้น 2-3 เท่า (เมื่อเทียบจากระยะเวลาและความหนักในการออกกำลังกายเท่าเดิม)
การดื่มน้ำอย่างถูกวิธีและในปริมาณที่เหมาะสม
แน่นอนว่าทุกคนทราบกันดีว่า เราควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร หรือประมาณ 8 แก้วจะดีต่อสุขภาพ แต่วิธีการดื่มน้ำที่ถูกวิธีก็คือ ค่อยๆ จิบ ทีละนิดไปเรื่อยๆ ทั้งวันนั่นเอง รวมไปถึงในช่วงของการออกกำลังกาย เราก็ควรพกขวดน้ำติดตัวด้วยตลอดเวลา เพื่อให้ร่างการนำน้ำไปช่วยระบายความร้อน และระบายของเสียออกมาทางเหงื่อ
การออกกำลังกาย ที่ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหาร และอาหารเสริมที่มีประโยชน์ จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แล้วเราจะรออะไรกันอยู่ล่ะ?
ผู้สนับสนุนเนื้อหาดีๆ : ผลิตภัณฑ์ LeVif S7 : คู่ใจสาวๆ
ที่ควบคุมน้ำหนักโดยการออกกำลังกายจากประเทศเกาหลี
ข้อมูลเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์ : http://www.levifbeauty.com/product