ยาธาตุน้ำแดง (Mixture Stomachica) สรรพคุณ วิธีใช้ ผลข้างเคียง ฯลฯ

ยาธาตุน้ำแดง

ยาธาตุน้ำแดง (ภาษาอังกฤษ : Stomachic MixtureMixture Stomachica หรือ Mixt. Stomachica) เป็นยาสามัญประจำบ้านที่มีรสหวานเล็กน้อย เย็น ซ่า และเผ็ดร้อนเล็กน้อย มีข้อบ่งใช้สำหรับเป็นยาแก้ท้องขึ้น จุกเสียด ท้องแน่นเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว โดยตัวยาหลักจะประกอบด้วยโซเดียมไบคาร์บอเนตและ/หรือสารออกฤทธิ์อื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยดูดซับแก๊สในทางเดินอาหาร ขับลม แก้อาการท้องอืด ไม่สบายท้อง เช่น

  • โกฐน้ำเต้า (Rhubarb) เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ทางยาในการรักษาอาการอาหารไม่ย่อย ช่วยขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว ดับพิษร้อนถอนพิษไข้ แก้ธาตุอ่อน ธาตุพิการ และมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ โดยการกระตุ้นให้เกิดการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ ช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ
  • การบูร (Camphor) เป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นจำเพาะ รสเผ็ดร้อน หอมเย็นซ่า มีสรรพคุณเป็นยาขับลม แก้อาการจุกเสียด ปวดท้อง ฯลฯ
  • สะระแหน่/เปปเปอร์มินต์ (Peppermint) เป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเย็น ช่วยขับลม ทำให้สบายท้อง
  • ขิง (Ginger) สมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นช่วยแก้อาการจุกเสียด ขับลม ขับเสมหะ ปัสสาวะขัด แก้บิด ฯลฯ

ยาธาตุน้ําแดง ในท้องตลาดจะมีอยู่ด้วยกันหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีขนาดและส่วนผสมของตัวยาสำคัญแตกต่างกันออกไป โดยในสูตรตำรับ 15 มิลลิลิตร (15 ซีซี หรือเทียบเท่าปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ) มักจะประกอบไปด้วยตัวยาสำคัญ 3 อย่าง คือ

  • โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium Bicarbonate) หรือที่มักเรียกกันว่า Baking Soda : 0.15-0.60 กรัม เป็นสารที่ช่วยทำให้สภาพความเป็นกรดในกระเพาะอาหารเป็นกลางมากขึ้น จึงช่วยลดการเป็นกรดในกระเพาะอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการท้องอืดเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว
  • ทิงเจอร์โกฐน้ำเต้า (Compound rhubarb tincture) : 0.5-2.0 มิลลิลิตร และ/หรือทิงเจอร์อื่น ๆ ที่มีสรรพคุณทางยา ได้แก่ ทิงเจอร์กระวานเทศ (Compound cardamom tincture) 0.01-1.0 มิลลิลิตร, ทิงเจอร์เจนเชียน (Compound gentian tincture) 0.18-1.10 มิลลิลิตร, ทิงเจอร์บอระเพ็ด (Compound tinospora tincture) 0.50 มิลลิลิตร, ทิงเจอร์ขิงอ่อน (Weak ginger tincture) 0.48-2.01 มิลลิลิตร, ทิงเจอร์ขิงเข้มข้น (Strong ginger tincture) 0.10-0.30 มิลลิลิตร, ทิงเจอร์นักสะวอมมิกา (Nux vomica tincture) จากต้นแสลงใจ 0.09-0.10 มิลลิลิตร, ทิงเจอร์ไอพีแคกอวนนา (Ipecacuanha tincture) 0.18-0.30 มิลลิลิตร
  • สารระเหย (Volatile substances) อื่น ๆ ที่มีสรรพคุณทางยา ได้แก่ เหล้าสะระแหน่ (Peppermint spirit) 0.15-0.30 มิลลิลิตร, น้ำมันสะระแหน่ (Peppermint oil) 0.03-0.20 มิลลิลิตร, เมนทอล (Menthol) 0.05-0.30 มิลลิลิตร, Concentrated dill water 0.1 มิลลิลิตร, การบูร (Camphor) 0.012-0.019 กรัม

สรรพคุณของยาธาตุน้ำแดง

ยาธาตุน้ำแดงมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดท้องจากกรดเกินในกระเพาะและจากลมในทางเดินอาหาร (ขับลมในลำไส้ ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด เรอเหม็นเปรี้ยว)

  • ช่วยลดกรดเกินในกระเพาะอาหาร (ผลจาก โซเดียมไบคาร์บอเนต ที่มีค่า pH เป็นด่าง มันจึงช่วยลดความเป็นกรดได้)
  • ช่วยขับลม
  • มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ (ผลจากสมุนไพร โกฐน้ำเต้า ตัวช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ

ข้อห้าม/ข้อควรระวังในการใช้ยาธาตุน้ำแดง

  • เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี และสตรีตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานยานี้ เนื่องจากยานี้มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม แม้จะมีปริมาณน้อยก็ตาม
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจหรือโรคไต เพราะในยาธาตุน้ำแดงจะมีเกลือโซเดียมค่อนข้างสูง (0.15-0.60 กรัม) จึงไม่ควรใช้ยานี้กับผู้ที่เป็นโรคหัวใจและโรคไต ซึ่งต้องงดหรือลดปริมาณเกลือที่รับประทานอยู่แล้ว
  • ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับไม่ควรรับประทานยาธาตุน้ำแดงยี่ห้อที่มีส่วนประกอบของทิงเจอร์บอระเพ็ด (Compound tinospora tincture) เช่น ยาธาตุน้ำแดงองค์การเภสัชกรรม เพราะจากรายงานการวิจัยพบว่า บอระเพ็ดในขนาดสูงมีความเป็นพิษต่อไตและตับในสัตว์ทดลอง และมีความเป็นพิษในคน โดยทำให้ค่าเอนไซม์ในตับสูงขึ้น
  • ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจวาย
  • ห้ามใช้ยานี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะร่างกายอาจดูดซึมโซเดียมไบคาร์บอเนตซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง จนทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นด่าง (Alkalosis) ได้
  • ควรระมัดระวังในการใช้ยานี้ในเด็กโตและเด็กที่มีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดตีบหรือชัก
  • ควรระมัดระวังในการใช้ยานี้ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ถ้ารับประทานยาพร่ำเพรื่อก็อาจทำให้ความดันโลหิตขึ้นสูงได้

ตัวอย่างยาและวิธีการใช้ยาธาตุน้ำแดง

ยาธาตุน้ำแดงเป็นยาที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้เป็นยาสามัญประจำบ้านที่ประชาชนทั่วไปหาซื้อมาใช้ได้อย่างไม่มีอันตราย เพื่อนำมาใช้รักษาตนเองในเบื้องต้น รักษาอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่มีอาการรุนแรง

โดยยี่ห้อที่จัดจำหน่ายในท้องตลาด (เรียงตามความนิยม) มีดังนี้

  1. ยาธาตุน้ำแดง ยาธาตุ ๔ ตรากิเลน : ยาธาตุน้ำแดงยอดนิยม ยี่ห้อนี้มีจำหน่ายด้วยกัน 3 ขนาด คือ เล็ก กลาง และใหญ่ มีจุดเด่นในเรื่องของส่วนผสมเพิ่มเติม คือ ทิงเจอร์ขิงสกัดเข้มข้น ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับลมให้ดียิ่งขึ้น
    • ส่วนผสม : ใน 1 ช้อนโต๊ะ (15 ซีซี) ประกอบด้วย
      • โซเดียมไบคาร์บอเนต 0.48 กรัม
      • ทิงเจอร์โกฐน้ำเต้า (โกฐน้ำเต้า, น้ำมันลูกกระวาน, น้ำมันลูกผักชี) 1.6 ซีซี
      • เหล้าสะระแหน่ 0.30 ซีซี
      • ทิงเจอร์ขิงสกัดเข้มข้น 0.20 ซีซี
    • ขนาดบรรจุ/ราคา :
      • ขนาด 180 ซีซี ราคา 30-37 บาท
      • ขนาด 300 ซีซี ราคา 35-40 บาท
      • ขนาด 450 ซีซี ราคา 50-63 บาท
    • วิธีใช้ยา (ทานยานี้ก่อนอาหาร และเขย่าขวดก่อนใช้ยา) :
      • เด็กอายุ 6-12 ปี : รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ ½ ช้อนโต๊ะ
      • ผู้ใหญ่ : รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 หรือ 2 ช้อนโต๊ะ
ยาธาตุ ๔ ตรากิเลน : มีจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไป (เนื่องจากเป็นยาแผนปัจจุบันที่เป็นยาสามัญประจำบ้าน) เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของชำ ร้านขายยาทั่วไป
ยาธาตุ ๔ ตรากิเลน : มีจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไป (เนื่องจากเป็นยาแผนปัจจุบันที่เป็นยาสามัญประจำบ้าน) เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของชำ ร้านขายยาทั่วไป

  1. ยาธาตุน้ำแดงวิทยาศรม : ยาธาตุที่มีส่วนผสมสำคัญหลัก ๆ อยู่ครบถ้วน และมีส่วนผสมที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ การบูร (Camphor) ซึ่งก็มีสรรพคุณในการช่วยขับลมเช่นกัน
    • ส่วนผสม : ใน 1 ช้อนโต๊ะ (15 ซีซี) ประกอบด้วย
      • โซเดียมไบคาร์บอเนต 0.27 กรัม
      • ทิงเจอร์โกฐน้ำเต้า 0.075 กรัม
      • น้ำมันสะระแหน่ 0.0255 ซีซีั
      • การบูร 0.0135 กรัม
    • ขนาดบรรจุ/ราคา :
      • ขนาด 300 ซีซี ราคา 33-38 บาท
      • ขนาด 500 ซีซี ราคา 40-65 บาท
    • วิธีใช้ยา (ทานยานี้ก่อนอาหาร และเขย่าขวดก่อนใช้ยา) :
      • เด็ก : รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 ช้อนกาแฟ (½ ช้อนชา)
      • ผู้ใหญ่ : รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 ช้อนคาว (หมายถึงช้อนกินข้าว หรือปริมาณ 7.5 ซีซี)
ยาธาตุน้ำแดงวิทยาศรม
ยาธาตุน้ำแดงวิทยาศรม

  1. ยาธาตุน้ำแดงองค์การเภสัชกรรม : ยาธาตุน้ำแดงที่องค์การเภสัชกรรมทำขึ้นมาขายเอง มีส่วนผสมสำคัญครบทั้ง 3 อย่างเช่นกัน (Sodium Bicarbonate, Rhubarb และ Peppermint Oil) แต่มีส่วนประกอบของสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการขับลมเพิ่มเข้ามาอีก 2 ชนิด คือ กระวานเทศ (Cardamon) และบอระเพ็ด (Tinospora)
    • ส่วนผสม : ใน 1 ช้อนโต๊ะ (15 ซีซี) ประกอบด้วย
      • โซเดียมไบคาร์บอเนต 0.60 กรัม
      • ทิงเจอร์โกฐน้ำเต้า 1.60 ซีซี
      • เหล้าสะระแหน่ 0.30 ซีซี
      • ทิงเจอร์กระวานเทศ 0.50 ซีซี
      • ทิงเจอร์บอระเพ็ด 0.50 ซีซี
    • ขนาดบรรจุ/ราคา :
      • ขนาด 180 ซีซี ราคา ~25 บาท
    • วิธีใช้ยา (ทานยานี้ก่อนอาหาร และเขย่าขวดก่อนใช้ยา) :
      • เด็กอายุ 6-12 ปี : รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ ½ ช้อนโต๊ะ
      • ผู้ใหญ่ : รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ
ยาธาตุน้ำแดงองค์การเภสัชกรรม
IMAGE SOURCE : www.tudsinjai.net

  1. ยาธาตุน้ำแดงสหการ : ยาธาตุน้ำแดงที่มีส่วนผสมเพิ่มเติมของการบูร (Camphor)
    • ส่วนผสม : ใน 1 ช้อนโต๊ะ (15 ซีซี) ประกอบด้วย
      • โซเดียมไบคาร์บอเนต 0.60 กรัม
      • ทิงเจอร์โกฐน้ำเต้า 1.60 ซีซี
      • น้ำมันสะระแหน่ 0.014 ซีซี
      • การบูร 0.012 กรัม
    • ขนาดบรรจุ/ราคา :
      • ขนาด 60 ซีซี ราคา ~15 บาท
    • วิธีใช้ยา (ทานยานี้ก่อนอาหาร และเขย่าขวดก่อนใช้ยา) :
      • เด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป : รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1-2 ช้อนชา
      • ผู้ใหญ่ : รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ
ยาธาตุน้ำแดสหการ
IMAGE SOURCE : www.tudsinjai.net

  1. ยาธาตุน้ำแดงเอชเอ็มตราเสือดาว : ยาธาตุน้ำแดงที่มีส่วนผสมของทิงเจอร์ขิงสกัดที่มีสรรพคุณช่วยขับลม
    • ส่วนผสม :
      • โซเดียมไบคาร์บอเนต 
      • ทิงเจอร์โกฐน้ำเต้า
      • ทิงเจอร์ขิงสกัด
    • ขนาดบรรจุ/ราคา :
      • ขนาด 180 ซีซี ราคา ~21 บาท
    • วิธีใช้ยา (ทานยานี้ก่อนอาหาร และเขย่าขวดก่อนใช้ยา) :
      • เด็กอายุ 6-12 ปี : รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ ½-1 ช้อนโต๊ะ
      • ผู้ใหญ่ : รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ
ยาธาตุน้ำแดงตราเสือดาว
ยาธาตุน้ำแดงตราเสือดาว

  1. ยาธาตุน้ำแดงตำรับศิริราช : ยาธาตุน้ำแดงที่มีส่วนผสมเพิ่มเติมของทิงเจอร์ไอพีแคกอวนนา และทิงเจอร์บอระเพ็ด
    • ส่วนผสม :
      • ทิงเจอร์โกฐน้ำเต้า
      • น้ำมันสะระแหน่
      • ทิงเจอร์บอระเพ็ด
      • ทิงเจอร์ไอพีแคกอวนนา
    • ขนาดบรรจุ/ราคา :
      • ขนาด 120 ซีซี ราคา ~45 บาท
    • วิธีใช้ยา (ทานยานี้ก่อนอาหาร และเขย่าขวดก่อนใช้ยา) :
      • เด็กอายุ 4-7 ปี : รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 ช้อนชา
      • เด็กอายุ 7-12 ปี : รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 2 ช้อนชา
      • ผู้ใหญ่ : รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ
ยาธาตุน้ำแดงตำรับศิริราช
IMAGE SOURCE : www.healthshop2u.com

  1. มิกซเจอร์ คาร์มิเนตีฟ : ยาอีกสูตรที่มักถูกเรียกว่า ยาธาตุน้ำแดง เนื่องจากไม่มีส่วนประกอบสำคัญอย่างโกฐน้ำเต้าเหมือนยี่ห้ออื่น ๆ แต่โดยรวมก็มีสรรพคุณทางยาเหมือนกัน เพียงแต่สูตรนี้จะเน้นไปที่สมุนไพรชนิดอื่น ๆ มากกว่า โดยเฉพาะ Capsicum (เม็ดพริก)
    • ส่วนผสม :
      • ทิงเจอร์กระวานเทศ 1.8 ซีซี
      • ทิงเจอร์ขิงเข้มข้น 0.024 ซีซี
      • ทิงเจอร์พริก 0.06 ซีซี
    • ขนาดบรรจุ/ราคา :
      • ขนาด 180 ซีซี ราคา 25 บาท
      • ขนาด 450 ซีซี ราคา 35-70 บาท
    • วิธีใช้ยา (ทานยานี้หลังอาหารหรือเมื่อมีอาการ และเขย่าขวดก่อนใช้ยา) :
      • เด็กอายุ 6-12 ปี : รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ ½-1 ช้อนโต๊ะ
      • ผู้ใหญ่ : รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ
มิกซเจอร์ คาร์มิเนตีฟ
มิกซเจอร์ คาร์มิเนตีฟ

คำแนะนำในการใช้ยาธาตุน้ำแดง

  • ควรเขย่าขวดทุกครั้งก่อนรับประทานยานี้
  • ไม่ควรรับประทานยานี้เป็นเวลานานเกินกว่า 2 สัปดาห์ นอกจากแพทย์สั่ง
  • ยาธาตุน้ำแดงมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ จึงควรใช้ยาด้วยความระมัดระวัง
  • ยานี้ไม่ใช่ยารักษาโรคกระเพาะ เพียงแต่ช่วยบำบัดอาการให้ดีขึ้นเท่านั้น
  • ขนาดและวิธีการใช้ยาดังกล่าวเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งแพทย์หรือวิธีใช้ที่ระบุไว้บนฉลากยาได้ หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร

การเก็บรักษายาธาตุน้ำแดง

  • ควรเก็บยานี้ในภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจุมา ปิดฝาให้สนิท และเก็บยาให้พ้นมือเด็กเสมอ
  • ควรเก็บยานี้ที่อุณหภูมิห้อง เก็บยาให้พ้นแสงแดด ไม่ให้อยู่ในที่ร้อนมากกว่า 30 องศาเซลเซียส (เช่น ในรถยนต์ บริเวณใกล้หน้าต่าง) และไม่เก็บยาในบริเวณที่เปียกหรือชื้น (เช่น ในห้องน้ำ)
  • ให้ทิ้งยาที่เสื่อมสภาพหรือหมดอายุแล้ว

ผลข้างเคียงของยาธาตุน้ำแดง

ยาธาตุน้ำแดงเป็นยาที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมในปริมาณเจือจาง โดยทั่วไปถ้าไม่รับประทานยาเกินขนาดก็มักไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงอะไร แต่อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคกระเพาะ ถ้ารับประทานยาแล้วมีอาการแสบท้องก็ควรงด

ยาธาตุน้ำแดงกับยาธาตุน้ำขาวต่างกันอย่างไร ?

ยาธาตุทั้ง 2 ชนิดมีความต่างกัน โดยยาธาตุน้ำแดงตัวยาที่เป็นส่วนผสมจะเน้นไปที่เรื่องการลดความเป็นกรดและขับลมเสียมากกว่า (ไม่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อ) ส่วน ยาธาตุน้ำขาว จะเหมาะกับผู้ที่มีอาการท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อแบบไม่รุนแรง (ไม่ช่วยลดกรด) กล่าวคือ

  1. ยาธาตุน้ำแดง = ใช้บรรเทาอาการปวดท้องจากกรดเกินในกระเพาะและจากลมในทางเดินอาหาร (ขับลมในลำไส้ ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว)
    • ลดกรด (ผลจาก Sodium Bicarbonate ที่มีค่า pH เป็นด่าง มันจึงช่วยลดความเป็นกรดได้ เมื่อความเป็นกรดในทางเดินอาหารลดลง ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องได้)
    • ขับลม (ผลจากสมุนไพรโกฐน้ำเต้า, สะระแหน่, ขิง ฯลฯ)
    • ฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ (ผลจากสมุนไพรโกฐน้ำเต้า ตัวช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ)
  2. ยาธาตุน้ำขาว = ใช้บรรเทาอาการปวดท้องอันเนื่องมาจากท้องเสียแบบติดเชื้อไม่รุนแรงและมีลมในทางเดินอาหารมากเกินไป
    • ท้องเสียแบบติดเชื้อไม่รุนแรง (ผลจาก Salol หรือ Phenyl salicylate ที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อในลำไส้)
    • ขับลม (ผลจาก Anise Oil ที่มีสรรพคุณช่วยขับลม ทั้งลมจากอาการท้องเสียทั้งแบบติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ)

ทั้งนี้ ทั้งยาธาตุน้ำแดงและยาธาตุน้ำขาว ไม่สามารถใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน ปวดท้องกระเพาะปัสสาวะ และปวดท้องจากไส้ติ่งได้

เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 1.  “ยาธาตุน้ำแดง (Mixt. Stomachica)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 276-277.
  2. หาหมอดอทคอม.  “ยาธาตุน้ำแดง Mixture stomachica ยาธาตุน้ำขาว Salon and Menthol  Mixture”.  (ศ.เกียรติคุณ พญ.พวงทอง ไกรพิบูลย์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [20 ต.ค. 2016].
  3. เล่าเรื่องจากร้านยา.  “ยาธาตุน้ําแดง”.  (ภญ. สมใจ วิลาศวโรดม).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : muay-drugstore.blogspot.com.  [20 ต.ค. 2016].
  4. หน่วยคลังข้อมูลยา, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.  “อยากทราบว่าทำไมยาน้ำ stomachic mixture (ยาธาตุน้ำแดง) ถึงห้ามใช้ในโรคหัวใจและโรคไต”.  (ภญ.ธนิยา ไพบูลย์วงษ์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.pharmacy.mahidol.ac.th.  [20 ต.ค. 2016].









เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด