มะขามเทศ
มะขามเทศ ชื่อสามัญ Manila tamarind
มะขามเทศ ชื่อวิทยาศาสตร์ Pithecellobium dulce (Roxb.) Benth. จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยสีเสียด (MIMOSOIDEAE หรือ MIMOSACEAE)
ผลไม้ท้องถิ่นในบ้านเราที่เห็นปลูกกันอยู่ทั่วไปตามต่างจังหวัดมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมอย่างมาก และไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับโรคหรือแมลงศัตรูแต่อย่างใด แหล่งเพาะปลูกที่สำคัญนั้นจะอยู่ที่อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี โดยเป็นผลไม้ที่มีรูปทรงฝักโค้งเป็นวงกลม ให้รสชาติออกหวานมัน ผสมรสฝาดนิด ๆ ขายกันอยู่ประมาณกิโลกรัมละ 30-40 บาท ถ้าขึ้นห้างฝักใหญ่ ๆ ก็กิโลกรัมละเป็นร้อยเลยทีเดียว
สำหรับประโยชน์ของมะขามเทศนั้นมีมากมาย เพราะประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์หลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก โปรตีน เส้นใย เป็นต้น และยังถือว่ามะขามเทศนั้นเป็นสมุนไพรไทยอีกชนิดหนึ่งด้วย เพราะคนโบราณนิยมนำมาใช้รักษาโรคปากนกกระจอกเทศนั่นเอง และยังช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้อีกด้วย
ประโยชน์ของมะขามเทศ
- มะขามเทศ มีวิตามินเอ ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องการมองเห็น
- มะขามเทศมีวิตามินซีสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องการบำรุงผิวและเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
- มะขามเทศมีวิตามินอีสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัย
- มะขามเทศมีวิตามินบี 1 ซึ่งช่วยในการบำรุงประสาทและสมอง
- มะขามเทศมีวิตามินบี 2 ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณ เล็บ และเส้นผม
- มะขามเทศมีวิตามินบี 3 (ไนอะซิน) ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอล
- มะขามเทศเป็นผลไม้ที่มีแคลเซียมสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและฟัน
- มะขามเทศมีฟอสฟอรัส ซึ่งมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย
- มะขามเทศมีธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนช่วยในการป้องกันอาการอ่อนเพลียของร่างกาย
- สามารถนำมาทำเป็นสมุนไพรพอกหน้าได้อีกด้วย ด้วยการใช้ฝักมะขามเทศที่แก่จัดแล้ว นำมาโขลกเอาแต่น้ำมะขามเทศแล้วนำมาผสมกับน้ำมะนาวและไข่ขาว คนให้เข้ากันจนเป็นครีมเหนียวได้ที่ แล้วนำมาพอกหน้า
- มะขามเทศสามารถนำมาประกอบเป็นอาหารได้ เช่น แกงส้ม เป็นต้น
- ดอกและใบอ่อนของมะขามเทศสามารถนำมารับประทานเป็นอาหารได้
- มะขามเทศสามารถนำมาใช้ทำยาย้อมผมหรือยาสระผมได้
- ใช้นำมาทำเป็นยาย้อมผ้า แห อวน จากน้ำฝาดสีดำของมะขามเทศ
- เนื้อไม้ของต้นมะขามเทศสามารถนำมาใช้ทำเป็นเขียงที่มีคุณภาพสูงได้ เพราะเนื้อไม้จะค่อนข้างเหนียวทนทาน
- เนื้อไม้ที่นำมาต้มกับน้ำนำมาใช้กับสตรีหลังคลอด
- น้ำที่ต้มแล้วนำมาใช้อาบหรืออบไอน้ำได้
- ในประเทศอินเดียนิยมนำเมล็ดมาป่นให้ละเอียดแล้วต้มกับผ้า จะทำให้ผ้าแข็งเหมือนกับการลงแป้ง
- มีส่วนช่วยในการรักษาโรคโลหิตจาง
- ใช้นำมาปรุงเป็นยาแก้ไอได้
- เนื้อไม้เมื่อนำมาต้มผสมกับหัวหอมใช้โกรกศีรษะเด็กในยามเช้ามืด จะช่วยแก้หวัดจมูกได้
- ช่วยในการขับเสมหะในลำไส้
- ช่วยในการสมานแผล ห้ามเลือด ด้วยการนำเปลือกมาต้มกับน้ำ เอาน้ำฝาดมาใช้กับบาดแผล
- ช่วยรักษาโรคปากเปื่อยหรือโรคปากนกกระจอกเทศ ด้วยการนำเปลือกต้นมะขามเทศโดยเอาเปลือกชั้นนอกออก เหลือแต่เปลือกชั้นในประมาณ 15 กรัม เกลือป่นอีก 1 ช้อนชา แล้วนำมาต้มกับน้ำ กะปริมาณพอท่วมยาเล็กน้อยจนน้ำเดือด รอจนน้ำอุ่นแล้วนำมาอมหลังจากแปรงฟันทุกครั้งจะทำให้แผลในปากค่อย ๆ บรรเทาทุเลาลงได้
- ช่วยบรรเทาอาการปวดฟัน โดยใช้เปลือกต้มกับน้ำรวมกับเปลือกข่อยและเกลือแกง แล้วนำมาอมแก้ปวดฟัน
- เปลือกต้นมะขามเทศก็ช่วยป้องกันโรคฟันผุได้
- มะขามเทศช่วยในการขับถ่ายและช่วยลดปัญหาของอาการท้องผูกอีกด้วย เพราะมีเส้นใยในปริมาณมาก
- เมล็ดแก่ของมะขามเทศ เมื่อนำมาคั่วแล้วกะเทาะเปลือก (ประมาณ 30 เม็ด) นำไปแช่น้ำเกลืออ่อน แล้วนำมารับประทานเป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือนในท้องเด็กได้ด้วย ส่วนเปลือกนอกนั้นก็นำมากินแก้ท้องร่วงและแก้อาเจียนได้อีกเช่นกัน
- ช่วยรักษาโรคบิด
- เปลือกของต้นที่นำมาต้มกับน้ำสามารถนำมาปรุงเป็นยาแก้ท้องร่วงได้
แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)