นมแมวซ้อน
นมแมวซ้อน ชื่อวิทยาศาสตร์ Anomianthus dulcis (Dunal) J.Sinclair จัดอยู่ในวงศ์กระดังงา (ANNONACEAE)[1]
สมุนไพรนมแมวซ้อน มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ตบหู ตีนตังน้อย (นครพนม), ตีนตั่ง (อุบลราชธานี), นมวัว เป็นต้น[1],[3]
ลักษณะของนมแมวซ้อน
- ต้นนมแมวซ้อน จัดเป็นไม้เถาเลื้อยที่อาศัยไม้อื่นพยุงตัวขึ้นไป สามารถเลื้อยไปได้ไกลประมาณ 4-8 เมตร เปลือกเถาเรียบเป็นสีเทา ลำต้นเหนียว เนื้อไม้แข็ง มีกิ่งที่ปลายเป็นหนามแข็งอยู่ทั่วไปตามลำต้น ตามกิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาลขึ้นปกคลุม ขยายพันธุ์ได้ทั้งการเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง[1],[2]
- ใบนมแมวซ้อน ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับสองด้านในระนาบเดียวกัน ลักษณะของใบเป็นรูปไข่กลับแกมขอบขนาน หรือรูปหอกกลับแกมขอบขนาน ปลายใบเป็นติ่งแหลม โคนใบมนหรือเว้าเล็กน้อย ส่วนขอบใบเรียบ ส่วนที่ค่อนไปทางปลายใบจะมีขนาดกว้างกว่าส่วนที่ค่อนมาทางโคนใบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 5-7 เซนติเมตร และยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร หรือหลังใบด้านบนเกลี้ยง ส่วนท้องใบด้านล่างมีขน ก้านใบป่องเล็กน้อยและมีขนสาก ๆ ขึ้นปกคลุม ยาวได้ประมาณ 5 มิลลิเมตร ใบอ่อนมีขนนุ่มทั้งสองด้าน[1],[2]
- ดอกนมแมวซ้อน ออกดอกเดี่ยวหรือออกเป็นกระจุกตามซอกใบและปลายยอด ประมาณ 2-4 ดอก ก้านช่อดอกเรียว ดอกเป็นสีเหลือง สีชมพูอ่อน หรือสีเหลืองอมชมพู ดอกมีลักษณะห้อยลง กลีบดอกมี 6 กลีบ แบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ วางสับหว่างกัน กลีบดอกบางเป็นรูปไข่ ปลายกลีบดอกแหลม ขอบกลีบดอกบิดเป็นลอนหรือเป็นคลื่น มีขนาดกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร และยาวประมาณ 2.5-3 เซนติเมตร มีขนนุ่มทาด้านนอก ส่วนกลีบเลี้ยงดอกเป็นสีเขียวรูปไข่ มี 3 กลีบ มีขนาดกว้างและยาวประมาณ 0.5 เซนติเมตร ด้านนอกมีขนสีน้ำตาลขึ้นหนาแน่น ออกดอกในช่วงประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนกรกฎาคม ดอกจะบานและโรยภายในวันเดียว มีกลิ่นหอมอมเปรี้ยว ช่วงกลางวันมีกลิ่นหอมอ่อน และจะหอมมากในช่วงเย็นจนถึงกลางคืน[1],[2]
- ผลนมแมวซ้อน ออกผลเป็นกลุ่ม มีผลย่อยประมาณ 8-15 ผล ผลย่อยมีลักษณะเป็นรูปกระสวยหรือรูปทรงกระบอก ผิวผลเรียบ ผลสดเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองจนถึงสีแดงเข้ม มีรสหวาน ภายในมีเมล็ดประมาณ 1-2 เมล็ด[1],[2]
สรรพคุณของนมแมวซ้อน
- ลำต้นหรือรากนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาบำรุงน้ำนมขณะอยู่ไฟของสตรี (ลำต้น, ราก)[1],[2]
ประโยชน์ของนมแมวซ้อน
- ผลสุกมีรสหวาน ใช้รับประทานได้[1],[2]
- นิยมใช้ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไปตามรั้วหรือซุ้ม[3]
เอกสารอ้างอิง
- หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1. (ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์). “นมแมวซ้อน (Nom Maeo Son)”. หน้า 151.
- หนังสือสมุนไพรในอุทยานแห่งชาติภาคเหนือ. (พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ). “นมแมวซ้อน”. หน้า 124.
- ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. “นมวัว”. อ้างอิงใน : หนังสือพรรณไม้เมืองไทย ไม้ต่างถิ่นในเมืองไทย 1. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.qsbg.org. [02 ธ.ค. 2014].
ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Tony Rodd), www.magnoliathailand.com (by นายไม้ล้านนา)
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)