24 สรรพคุณและประโยชน์ต้นทองหลางใบมน !

24 สรรพคุณและประโยชน์ต้นทองหลางใบมน !

ทองหลางใบมน

ทองหลางใบมน ชื่อวิทยาศาสตร์ Erythrina suberosa Roxb. จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยถั่ว FABOIDEAE (PAPILIONOIDEAE หรือ PAPILIONACEAE)[1],[2]

สมุนไพรทองหลางใบมน มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ทองกี ทองแค ทองบก (ภาคเหนือ) เป็นต้น[1],[2]

ลักษณะของทองหลางใบมน

  • ต้นทองหลางใบมน จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงได้ประมาณ 5-15 เมตร ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง เปลือกต้นหนาเป็นร่องลึก ตามกิ่งและก้านมีหนามแหลมคมเล็ก ๆ ขึ้นกระจายอยู่ทั่วไป ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด พบได้ทั่วไปทางภาคเหนือ มักขึ้นตามป่าโปร่ง ป่าผลัดใบ และมีปลูกไว้ตามบ้านและหัวไร่ปลายนา[1],[2]

ต้นทองหลางใบมน

  • ใบทองหลางใบมน ใบเป็นใบประกอบ ใบย่อยมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดแต่มุมโค้งมน ขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 7 เซนติเมตร และยาวประมาณ 5 เซนติเมตร[1],[2]

ใบทองหลางใบมน

  • ดอกทองหลางใบมน ออกดอกเป็นช่อแน่นที่ปลายกิ่ง ดอกเป็นสีแดงเลือดนก มีลักษณะคล้ายดอกแค[1],[2]

ต้นทองหลาง

ดอกทองหลางใบมน

  • ผลทองหลางใบมน ผลมีลักษณะเป็นฝักแคบ ภายในฝักมีเมล็ดประมาณ 2-4 เมล็ด[1]

ฝักทองหลางใบมน

สรรพคุณของทองหลางใบมน

  1. เปลือกต้นและรากมีสรรพคุณช่วยทำให้นอนหลับ (เปลือกต้น, ราก)[1]
  2. แก่น เปลือกต้น และใบมีสรรพคุณเป็นยาลดระดับน้ำตาลในเลือด (แก่น, เปลือกต้น, ใบ)[1]
  3. เปลือกต้นมีสรรพคุณเป็นยาแก้ลมทั้งปวง (เปลือกต้น)[1],[3] ใช้ผสมกับยาอื่นกินเป็นยาแก้ลมกองละเอียด (เวียนหัวตามัว) (เปลือกต้น)[4]
  4. รากใช้เป็นยาแก้ไข้ (ราก)[1],[2] หรือจะใช้ใบนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ไข้ ดับพิษไข้ ใช้ตำผสมกับยาอื่นสุมกระหม่อมเด็กเป็นยาดับพิษร้อนถอนพิษไข้ (ใบ)[2],[3],[4]
  1. ใช้เป็นยาแก้ร้อนในกระหายน้ำ (ราก)[1],[3]
  2. เปลือกต้นและรากมีสรรพคุณเป็นยาแก้เสมหะ (เปลือกต้น, ราก)[1],[2],[3],[4]
  3. ช่วยแก้อาการสะอึก (เปลือกต้น)[1]
  4. ใช้เป็นยาแก้โรคตา (ราก)[3] แก้ตาบวม (เปลือกต้น)[3] ส่วนน้ำคั้นจากใบสดใช้หยอดตาแก้ตาแดง ตาแฉะ (ใบ)[3],[4]
  5. ใช้เป็นยาแก้ปวดฟัน (เปลือกต้น)[1]
  6. แก่นมีสรรพคุณเป็นยาแก้ฝีในท้อง (แก่น)[1],[2],[3]
  7. ใบนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาขับพยาธิไส้เดือน (ใบ)[2],[3]
  8. เปลือกต้นมีสรรพคุณเป็นยาแก้นิ่ว ขับนิ่ว (เปลือกต้น)[1],[2],[3]
  9. ดอกมีสรรพคุณเป็นยาขับโลหิตระดูของสตรี (ดอก)[1],[2],[3]
  10. รากมีสรรพคุณเป็นยาแก้ริดสีดวง (ราก)[1] ส่วนอีกข้อมูลระบุให้ใช้ใบเป็นยาแก้ริดสีดวง (ใบ)[3]
  11. ฝักมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงน้ำดี (ฝัก)[1],[3]
  12. เปลือกต้นและรากมีสรรพคุณเป็นยาแก้ดีพิการ (เปลือกต้น, ราก)[1],[2],[3]
  13. ใบแก่นำมารมควันชุบกับน้ำเหล้าใช้ปิดแผลเนื้อร้ายที่กัดกินลามบวมดังจะแตก และช่วยดูดหนองให้ยุบแห้งหายดี (ใบแก่)[3]
  14. รากมีสรรพคุณเป็นยาแก้ลมพิษ (ราก)[1] ส่วนอีกข้อมูลระบุให้ใช้เปลือกต้นกินเป็นยาแก้ลมพิษ (เปลือกต้น)[4]
  15. รากใช้เป็นยาแก้พิษดับพิษทั้งปวง (ราก)[2],[3]
  16. ใบนำมาคั่วให้เกรียมใช้เป็นยาเย็นดับพิษ น้ำคั้นจากใบสดใช้เป็นยาดับพิษอักเสบ (ใบ)[2],[3]
  17. แก่นและกระพี้มีสรรพคุณเป็นยาแก้พิษฝี (แก่น, กระพี้)[1],[3] ส่วนเปลือกต้นใช้ตำผสมกับข้าวเป็นยาพอกฝีแก้ปวดแสบปวดร้อน (เปลือกต้น)[4]
  18. ใบใช้ตำพอกแก้อาการปวด (ใบ)[2] ใช้ทาแก้ปวดตามข้อ (ใบ)[3]
  19. ช่วยแก้อาการปวดข้อ (เปลือกต้น)[1]

ขนาดและวิธีใช้ : การใช้ตาม [1] แก่นหรือเปลือกต้นให้ใช้ครั้งละ 3-4 ชิ้น นำมาต้มกับน้ำ 3 แก้ว นาน 30 นาที แล้วนำมาดื่มก่อนอาหารเช้าและเย็น ส่วนใบให้นำมารับประทานเป็นอาหาร[1]

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของทองหลางใบมน

  • สารสำคัญที่พบ ได้แก่ arachidic acid, behenic acid, campesterol, cyanidin-3-5-Ii-O-β-D-dlucoside, delphinidin-3-5-di-O-β-D-glucoside, erythrina suberosa lectin, flavonone, linoleic acid, myristic acid, oleic acid, palmitic acid, pelargonidin-3-5-di-O-β-D-glucoside, β-sitosterol, stearic acid, stigmasterol[1]
  • ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่พบ ได้แก่ ฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต ยับยั้งการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ยับยั้งเนื้องอก ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา[1]
  • จากการทดสอบความเป็นพิษ เมื่อฉีดสารสกัดจากใบและเปลือกต้นทองหลางใบมนด้วยเอทานอล 50% เข้าช่องท้องของหนูถีบจักรทดลอง พบว่าขนาดที่ทนได้สูงสุดคือ 1 กรัมต่อกิโลกรัม และ 250 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมตามลำดับ ส่วนสาร alkaloid จากใบในขนาด 306.4 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ทำให้หนูถีบจักรตาย 50%[1]
  • จากการทดลองในปี ค.ศ.1973 ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งทำการทดลองใช้สารสกัดจากเปลือกต้นและใบทองหลางใบมนในสัตว์ทดลอง พบว่า สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของสัตว์ทดลองได้[1]

ประโยชน์ของทองหลางใบมน

  • ยอดอ่อนและใบอ่อนนำมารับประทานเป็นผักสด เช่น ใช้เป็นผักจิ้มกับน้ำพริก เป็นผักแกล้มกับยำ ลาบหมู แกล้มกับตำมะม่วง เป็นต้น[1],[2]
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือสมุนไพรบำบัดเบาหวาน 150 ชนิด.  (เภสัชกรหญิง จุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก).  “ทองหลางใบมน”.  หน้า 91-92.
  2. ผักพื้นบ้านในประเทศไทย, กรมส่งเสริมการเกษตร.  “ทองหลางใบมน”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : 203.172.205.25/ftp/intranet/Research_AntioxidativeThaiVegetable/.  [11 ธ.ค. 2014].
  3. สงขลาพอร์ทัล.  (เวสท์สงขลา).  “ทองหลางใบมน”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.songkhlaportal.com.  [11 ธ.ค. 2014].
  4. สมุนไพร ภูมิปัญญาไทย, เทศบาลเมืองทุ่งสง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช.  “ทองหลาง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.tungsong.com.  [11 ธ.ค. 2014].

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Dinesh Valke, Qamar Mehdi)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด