คดสัง สรรพคุณและประโยชน์ของต้นคดสัง 12 ข้อ !

คดสัง

คดสัง ชื่อวิทยาศาสตร์ Combretum trifoliatum Vent. จัดอยู่ในวงศ์สมอ (COMBRETACEAE)[1]

สมุนไพรคดสัง มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า เบน เบ็น (ขอนแก่น, มหาสารคาม), เบนน้ำ (อุบลราชธานี), เปือย (นครพนม), ย่านตุด คดสัง (สุราษฎร์ธานี), หญ้ายอดคำ (ภาคเหนือ), กรด (ภาคกลาง), จุด ชุด สุด (ภาคใต้) เป็นต้น[1],[2],[3]

ลักษณะของคดสัง

  • ต้นคดสัง จัดเป็นพรรณไม้เถาหรือไม้พุ่มรอเลื้อย มีความสูงได้ประมาณ 3-5 เมตร ตามกิ่งอ่อนมีขนนุ่มสีน้ำตาลแกมเหลืองขึ้นปกคลุม เมื่อแก่ผิวจะเกลี้ยง ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด ชอบขึ้นบริเวณที่ชุ่มชื้น ตามสองฝั่งแม่น้ำ หรือที่ราบที่น้ำท่วมถึง มีเขตการกระจายพันธุ์จากอินเดียถึงอินโดนีเซีย ในประเทศไทยพบได้ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทางภาคใต้[1],[3]

ต้นคดสัง

  • ใบคดสัง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกที่ข้อเดียวกัน 3-5 ใบ ลักษณะของใบเป็นรูปรีหรือรูปใบหอก ปลายใบแหลมมีติ่งสั้น โคนใบมนหรือค่อนข้างกลมเล็กน้อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 3-5.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 8-16 เซนติเมตร เนื้อใบหนามัน หรือค่อนข้างหนามัน ด้านบนค่อนข้างเกลี้ยง ส่วนด้านล่างมีตุ่มหูด หรือมีแถบของขนนุ่มสีน้ำตาลแกมเหลืองพาดขนานตามความยาวของเส้นกลางใบ เส้นใบมีประมาณ 6-8 คู่ ก้านใบยาวประมาณ 4-7 มิลลิเมตร มีสีน้ำตาลแดงหรือสีสนิมเหล็กและมีขนนุ่ม เมื่อแก่ผิวจะเกลี้ยงและเปลี่ยนเป็นสีดำ[1]

รูปคดสัง

ใบคดสัง

  • ดอกคดสัง ออกดอกเป็นช่อกระจายที่ปลายยอดหรือออกตามง่ามใบ ช่อดอกยาวประมาณ 8-20 เซนติเมตร ดอกเป็นสีขาวหรือสีขาวอมเหลือง มีกลิ่นหอม กลีบเลี้ยงตอนล่างเชื่อมติดกันเป็นท่อ ยาวประมาณ 1-1.5 มิลลิเมตร มีขนคล้ายเส้นไหมสีเทา ตอนบนแผ่ออกเป็นรูปถ้วยตื้น ๆ ปลายแยกออกเป็น 5 กลีบ ลักษณะของกลีบเป็นรูปสามเหลี่ยมแกมรูปไข่ มีขนาดกว้างประมาณ 0.2-0.4 เซนติเมตร และยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร มีขนหนาแน่น กลีบดอกมี 5 กลีบ มีขนนุ่มหนาแน่น ดอกมีเกสรเพศผู้ 10 อัน ก้านเกสรเพศเมียยาวประมาณ 4-5 มิลลิเมตร อับเรณูยาวประมาณ 0.5 มิลลิเมตร ส่วนท่อเกสรเพศเมียยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร[1]

ดอกคดสัง

  • ผลคดสัง ลักษณะของผลเป็นรูปรีแคบ มีขนาดกว้างประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 3-3.5 เซนติเมตร ผิวผลเกลี้ยง สีน้ำตาลดำเป็นมัน ไม่มีก้าน มีครีบปีกแข็ง 5 ปีก หรืออาจพบแบบ 4 หรือ 6 ปีกได้บ้าง โดยปีกจะมีขนาดกว้างประมาณ 3-4 มิลลิเมตร ผลเมื่อแห้งจะแข็ง[1]

ผลคดสัง

สรรพคุณของคดสัง

  1. ผลนำมาผสมกับเมล็ดข้าวโพด แล้วทำให้สุก นำมาปั้นเป็นยาลูกกลอนเอามาเคี้ยวเป็นยาบำรุงและรักษาเหงือก (ผล)[1],[2]
  2. ผลนำมาต้มเอาน้ำอมแก้ปากเปื่อยและเหงือกบวม (ผล)[2]
  3. ทั้งต้นใช้เป็นยารักษาโรคบิด (ทั้งต้น)[1],[2]
  4. เปลือกและรากใช้ฝนกับน้ำซาวข้าวกินเป็นยาสมานลำไส้ แก้บิด แก้ท้องร่วง (เปลือกและราก)[2]
  5. เปลือกและรากใช้ดองกับเหล้ากินเป็นยาแก้ปวดท้อง แก้อาการจุกเสียด (เปลือกและราก)[2]
  6. ทั้งต้นใช้เป็นยาขับพยาธิ (ทั้งต้น)[1],[2]
  7. ผลใช้เป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือน (ผล)[2]
  8. รากใช้ปรุงเป็นยาชงรักษาอาการตกขาว และยังใช้ชำระล้างอวัยวะสืบพันธุ์ได้ด้วย (ราก)[1],[2]
  9. ยาพื้นบ้านจังหวัดอุบลราชธานีจะใช้ลำต้นคดสังเข้ายากับแก่นมะขาม เบนน้ำ เพกา และจำปาขาว ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้นิ่วในไต (ลำต้น)[2]
  10. รากใช้ฝนทาแก้ฝีหนอง (ราก)[2]

ประโยชน์ของคดสัง

  • รากใช้ชำระล้างอวัยวะสืบพันธุ์[1],[2]
  • ยอดหรือใบอ่อนคดสังใช้รับประทานสดเป็นผักร่วมกับลาบ ก้อย[3]
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5.  (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).  “คดสัง”.  หน้า 156-157.
  2. ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.  “คดสัง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.phargarden.com.  [24 ม.ค. 2015].
  3. ผักพื้นบ้านในประเทศไทย กรมส่งเสริมการเกษตร.  “เบ็น”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : ftp://smc.ssk.ac.th/intranet/Research_AntioxidativeThaiVegetable/.  [24 ม.ค. 2015].

ภาพประกอบ : biodiversity.forest.go.th, www.phargarden.com (by Sudarat Homhual)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด