กําลังเสือโคร่ง
กำลังเสือโคร่ง ชื่อวิทยาศาสตร์ Strychnos axillaris Colebr. จัดอยู่ในวงศ์กันเกรา (LOGANIACEAE หรือ STRYCHNACEAE)
สมุนไพรกําลังเสือโคร่ง ชนิดนี้จัดเป็นไม้เลื้อยที่มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ขวากไก่ หนามเข็ม (ชัยภูมิ), ขอเบ็ด (หนองคาย), เขี้ยวงู (ชุมพร), ขี้แรด (ปราจีนบุรี), ตึ่ง เครือดำตัวแม่ (ลำปาง), เล็บครุฑ (จันทบุรี), หมากตาไก้ (เลย), เล็บรอก (พัทลุง), เบน เบนขอ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เป็นต้น
สมุนไพรกําลังเสือโคร่ง กับความเข้าใจผิด ๆ ยังมีหลายคนที่กำลังสับสนในชื่อของกำลังเสือโคร่งว่าแท้จริงแล้วชื่อต้นไม้ชนิดนี้เป็นพันธุ์ไม้ชนิดนี้ใดกันแน่ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3-4 ชนิด ที่ล้วนแล้วแต่เป็นต้นไม้คนละชนิด ต่างสกุล และต่างวงศ์กัน แต่มีสรรพคุณที่เหมือนกันคือ “เป็นยาบำรุงกำลัง”
- กำลังเสือโคร่ง หรือ กำลังพญาเสือโคร่ง หรือ พญาเสือโคร่ง ชนิดนี้เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 20-35 เมตร มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Betula alnoides Buch.-Ham. ex D.Don จัดอยู่ในวงศ์กำลังเสือโคร่ง (BETULACEAE)
- กําลังเสือโคร่ง ชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ziziphus attopensis Pierre จัดอยู่ในวงศ์พุทรา (RHAMNACEAE) ส่วนนี้ผมพยายามหาข้อมูลที่ถูกต้องอยู่ครับ ว่าแท้จริงแล้วมันคือชนิดใดกันแน่ เพราะบางแห่งบอกว่าเป็นไม้พุ่มสูง 7 เมตร ขอบใบเป็นฟันเลื่อย (ข้อมูลจากเว็บ rspg.or.th) แต่ข้อมูลอีกแห่งระบุว่าเป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 10-15 เมตร ขอบใบไม่เป็นฟันเลื่อย ซึ่งมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกายและบำรุงกำลังทางเพศเป็นหลัก (ข้อมูลจากเว็บมติชนและไทยรัฐ) ซึ่งจะเห็นได้ว่าข้อมูลทั้งสองขัดแย้งกันเอง และผมได้พยายามค้นหาในเว็บไซต์ต่างประเทศ (plantillustrations.org) ก็ได้ไปเจอรูปนี้ครับ ที่อธิบายถึงลักษณะของต้นกำลังเสือโคร่ง ชนิด Ziziphus attopensis Pierre ตามภาพด้านล่างเลยครับ
เมื่อสังเกตดูตามภาพแล้ว จะเห็นว่ามันช่างคล้ายกับ ต้นกำลังเสือโคร่ง ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Strychnos axillaris Colebr. ซึ่งเป็นชนิดไม้พุ่มมากเลยทีเดียว และจากรูปจะเห็นว่าขอบใบนั้นไม่ได้เป็นฟันเลื่อย จนอาจคิดไปว่าเป็นต้นไม้ชนิดเดียวกัน แต่ทั้งนี้ข้อมูลจากเว็บต่างประเทศดังกล่าวก็ระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นพรรณไม้คนละตระกูลและคนละวงศ์กันเลย โดยระบุว่าชนิด Ziziphus attopensis Pierre นั้นจัดอยู่ในวงศ์พุทรา ส่วนชนิด Strychnos axillaris Colebr. จะจัดอยู่ในวงศ์กันเกรา (ภาพลักษณะอยู่ด้านล่าง) ส่วนใครมีข้อมูลเพิ่มเติมก็เสนอแนะได้เลยนะครับ
- นางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย ที่มีดอกเบ่งบานสีชมพู เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 10-15 เมตร ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Prunus cerasoides จัดอยู่ในวงศ์กุหลาบ
- กำลังเสือโคร่ง (ไม้พุ่ม) เป็นชนิดที่เรากล่าวถึงในบทความนี้ (ตามภาพด้านล่าง) ซึ่งเป็นไม้พุ่มรอเลื้อย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Strychnos axillaris Colebr. และจัดอยู่ในวงศ์กันเกรา
ลักษณะของกำลังเสือโคร่ง
- ต้นกำลังเสือโคร่ง จัดเป็นไม้พุ่มรอเลื้อยหรือไม้เถาขนาดใหญ่ มีลำต้นสีเขียวอมเทาถึงสีน้ำตาล หรือสีน้ำตาลอมดำ ลำต้นกลมหรือเป็นเหลี่ยม ไม่มีช่องอากาศ ลำต้นมีหนามตามง่ามใบ มีมือจับอันเดียวและมีขน สามารถพบขึ้นได้ทั่วไปตามป่าดงดิบแล้ง ป่าละเมาะ และป่าโปร่งทั่ว ๆ ไป
- ใบกำลังเสือโคร่ง มีใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน แผ่นใบมีลักษณะเป็นรูปสีเหลี่ยมข้าวหลามตัดถึงค่อนข้างกลม รูปใบหอกถึงรูปไข่ โคนใบแหลมถึงตัดหรือเว้าเล็กน้อยคล้ายรูปหัวใจ ส่วนปลายใบแหลมหรือมนเป็นติ่ง ใบมีความกว้างประมาณ 1-5.8 เซนติเมตร และยาวประมาณ 1.5-11 เซนติเมตร แผ่นใบหนาเกลี้ยง หรือมีขนสั้นตามเส้นกลางใบและตามโคนเส้นแขนงใบ มีเส้นตามยาวของใบ 3-5 เส้น ส่วนเส้นกลางใบด้านบนจะเป็นร่อง ด้านล่างนูน หูใบเป็นแนวนูนเกลี้ยง หรืออาจมีขน และก้านใบมีความประมาณ 1-10 มิลลิเมตร
- ดอกกำลังเสือโคร่ง ออกดอกเป็นช่อกระจุกแยกแขนงตามง่ามใบหรือปลายกิ่ง ยาวประมาณ 5-20 มิลลิเมตร ก้านช่อดอกสั้นหรือยาวได้ถึง 9 มิลลิเมตร ดอกมีจำนวนมาก ส่วนก้านดอกยาว 0-2.5 มิลลิเมตร มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ ลักษณะคล้ายรูปไข่ถึงกลม มีความยาวประมาณ 0.9-1.7 มิลลิเมตร ด้านนอกเกลี้ยงหรือมีขน ส่วนด้านในเกลี้ยง กลีบดอกมีสีเขียวถึงสีขาว มีกลีบ 5 กลีบ ยาวประมาณ 2.3-3.6 มิลลิเมตร โคนติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 แฉก หลอดยาวกว่าแฉก 2 เท่า ด้านนอกเกลี้ยงมีขนหรือเป็นตุ่ม ๆ ส่วนด้านในมักมีขนเป็นวงอยู่ตรงปากหลอด นอกนั้นเกลี้ยง แฉกหนา มีเกสรตัวผู้อยู่ 5 ก้าน ติดอยู่ใกล้ปากหลอด ยาวยื่นออกมาพ้นปากหลอด ก้านเกสรมีความยาวประมาณ 0.2-0.6 มิลลิเมตร ส่วนอับเรณูเป็นรูปไข่ มีความยาวประมาณ 0.6-0.9 มิลลิเมตร มีขนแผง และมักมีติ่งแหลมอ่อน รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ มีอยู่ 2 ช่อง แต่ละช่องจะมีไข่อ่อนจำนวนมาก และยอดเกสรตัวเมียเป็นตุ่ม
- ผลกำลังเสือโคร่ง ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมหรือรูปไข่ มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5-1.5 เซนติเมตร ผลมีสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเป็นสีส้มหรือแดง เปลือกผลบางเรียบ ในผลมีเมล็ด 1-2 เมล็ด
สรรพคุณของกําลังเสือโคร่ง
- แก่นกำลังเสือโคร่งใช้ต้มน้ำดื่ม มีสรรพคุณช่วยบำรุงกำลัง (แก่น)
- ช่วยบำรุงร่างกาย ด้วยการใช้ลำต้นผสมกับผลพริกไทยและหัวกระเทียม แล้วนำมาต้มดื่ม (ลำต้น)
- ช่วยบำรุงโลหิตในร่างกาย (แก่น)
- แก่นช่วยแก้กระษัย หรือจะใช้เปลือกต้น แก่น และใบ นำมาต้มดื่ม (เปลือกต้น, แก่น, ใบ)
- ช่วยแก้โลหิตเป็นพิษในการคลอดบุตร บาดทะยักปากมดลูก และสันนิบาตหน้าเพลิง (ลำต้น)
- ช่วยรักษาอาการปอดพิการ (ลำต้น)
- ช่วยแก้พิษตานซาง (ลำต้น)
- แก่นช่วยดับพิษไข้ (แก่น)
- ช่วยแก้อาการไอ (ลำต้น)
- ผลใช้เป็นยาถ่ายสำหรับเด็ก (ผล)
- ช่วยขับพยาธิในท้อง (ลำต้น)
- ช่วยแก้เถาดานในท้อง (ลำต้น)
- ช่วยแก้ริดสีดวงในลำไส้ (ราก)
- ช่วยแก้กามโรค (ลำต้น)
- ช่วยแก้ปัสสาวะพิการ (แก่น)
- ช่วยแก้ไตพิการ (แก่น)
- ใบช่วยรักษาโรคผิวหนัง (ใบ)
- รากใช้ตำพอกแก้ฝี (ราก)
- ช่วยดับพิษในข้อกระดูกและเส้นเอ็น (ลำต้น)
- ช่วยแก้อัมพาต (ใบ)
- ช่วยแก้เส้นเอ็นพิการโดยใช้เปลือกต้น แก่น และใบ นำมาต้มดื่ม (เปลือกต้น, แก่น, ใบ)
- ช่วยแก้เหน็บชา แก้เข้าข้อ โดยใช้เปลือกต้น แก่น และลำต้น นำมาต้มดื่มแก้อาการ (เปลือกต้น, แก่น, ใบ)
- ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยใช้แก่นนำมาต้มเป็นน้ำดื่ม หรือจะใช้เปลือกต้น แก่น และใบ นำมาต้มดื่ม (เปลือกต้น, แก่น, ใบ)
- สารสกัดใบแห้งด้วยแอลกอฮอล์ 95% ช่วยยับยั้งเชื้อหนองชนิด Staphylococcus aureus แต่ไม่มีผลต่อเชื้อหนองชนิด Bacillus subtilis และ Pseudomonas aeruginosa รวมทั้งเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของอาการตกขาวหรือฝ้าขาวในปากได้ (Candida albicans)
- นอกจากนี้ยังใช้ใบในการอาบลูกดอกด้วย (ใบ) (แต่ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าอาบลูกดอกอะไร อาบลูกดอกยาพิษรึเปล่า อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน)
แหล่งอ้างอิง : ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, ฐานข้อมูลเครื่องยาสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, สมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, สารานุกรมสมุนไพร เล่ม 4 กกยาอีสาน, ฐานข้อมูลพันธุ์ไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ภาพประกอบ : www.phargarden.com (by Sudarat Homhual), www.thaicrudedrug.com (by Sudarat Homhual), www.flickr.com (by ibsut)
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)