กระวานป่า
กระวานป่า ชื่อวิทยาศาสตร์ Amomum uliginosum J.Koenig (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Amomum ovoideum Pierre ex Gagnep., Amomum robustum K.Schum., Amomum uliginosum Koenig, Cardamomum uliginosum (J.Koenig) Kuntze, Wurfbainia uliginosa (J.Koenig) Giseke) จัดอยู่ในวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE)[1]
สมุนไพรกระวานป่า มีชื่อเรียกอื่นว่า เร่ว (ภาคใต้ฝั่งตะวันออก) ส่วนที่จังหวัดปัตตานีจะเรียกชื่อว่า “กระวานป่า“[1]
ลักษณะของกระวานป่า
- ต้นกระวานป่า จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ลำต้นที่อยู่เหนือดินมีความสูงได้ประมาณ 2.5-4 เมตร[1]
- ใบกระวานป่า ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียน เจริญจากลำต้นที่อยู่ใต้ดิน มีใบประมาณ 16-24 ใบ ลักษณะของใบเป็นรูปขอบขนานหรือรูปใบหอก ปลายใบแหลมมีติ่งแหลม ห้อยย้อยลง โคนใบเป็นรูปลิ่ม ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดยาวกว้างประมาณ 7-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 40-60 เซนติเมตร ผิวใบด้านบนเกลี้ยง ส่วนผิวใบด้านล่างมีขนสีน้ำตาล[1]
- ดอกกระวานป่า ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะ ดอกจะเกิดจากตาเหง้าบริเวณโคนของลำต้นเหนือดิน มีดอกย่อยประมาณ 15 ดอก กลีบเลี้ยงดอกเป็นสีขาวปนสีชมพูอ่อน ส่วนกลีบดอกเป็นสีขาว ดอกมีเกสรเพศผู้สีขาว มีสีชมพูอ่อนที่โคน เกสรเพศผู้ที่สมบูรณ์มี 1 อัน เกสรเพศเมียมีรังไข่อยู่ใต้วงกลีบ[1]
- ผลกระวานป่า ผลเป็นแบบแคปซูล[1] เป็นผลแห้ง เมื่อสุกเป็นสีแดง ภายในผลมีเมล็ดสีน้ำตาล รวมกลุ่มเป็น 3 กลุ่ม มีกลิ่นคล้ายการบูร[2]
สรรพคุณของกระวานป่า
- เมล็ดใช้เป็นยาขับลม แก้อาการปวดท้อง (เมล็ด)[1],[2]
ประโยชน์ของกระวานป่า
- เมล็ดใช้เป็นเครื่องเทศ[1],[2]
เอกสารอ้างอิง
- ระบบจัดการฐานความรู้ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ สำนักงานความหลากหลายทางชีวภาพด้านป่าไม้ กรมป่าไม้. “กระวานป่า”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : biodiversity.forest.go.th. [03 ก.ย. 2015].
- อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. “กระวานป่า”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.pharmacy.mahidol.ac.th/siri/. [03 ก.ย. 2015].
ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Abu Bakar Rapaee, Zaharil Dzulkafly)
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)