ย่านพาโหม สรรพคุณและประโยชน์ของต้นย่านพาโหม 12 ข้อ !

ย่านพาโหม

ย่านพาโหม ชื่อวิทยาศาสตร์ Paederia scandens (Lour.) Merr. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Paederia tomentosa var. glabra Kurz) จัดอยู่ในวงศ์เข็ม (RUBIACEAE)[1]

สมุนไพรย่านพาโหม มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า เถาผ้าห่ม (ประจวบคีรีขันธ์), มันปู (สงขลา), ตดหมา ปานูดู (ภาคเหนือ) ส่วนทางสุราษฎร์ธานีเรียก “ย่านพาโหม[1],[2]

ลักษณะของย่านพาโหม

  • ต้นย่านพาโหม จัดเป็นไม้พุ่มเลื้อยพัน อายุหลายปี มีกลิ่นเหม็นฉุน ลำต้นมีลักษณะเรียวยาว ตามกิ่งมีขนละเอียดสีขาวขึ้นปกคลุม ลำต้นมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.2-3.5 มิลลิเมตร ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและใช้เถาปักชำ ชอบดินร่วน ระบายน้ำได้ดี และมีแสงแดดแบบเต็มวัน พบขึ้นในดินที่มีสภาพดินลูกรัง เช่น จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสตูล ที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 35-77 เมตร[1],[2],[3]

ต้นย่านพาโหม

  • ใบย่านพาโหม ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้าม ลักษณะของใบเป็นรูปไข่หรือรูปใบหอก ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2-4 เซนติเมตร และยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร แผ่นใบมีขนละเอียดทั้งสองด้านตามเส้นกลางใบ เส้นใบ และปกคลุมหนาแน่นตามขอบใบ หลังใบมีปุยขนสั้นสีขาวเป็นกระจุก ที่มุมเส้นกลางใบตัดกับเส้นใบ ก้านใบยาวประมาณ 1.8-4.1 เซนติเมตร มีหูใบอยู่ระหว่างก้านใบ[1],[2]

ใบย่านพาโหม

  • ดอกย่านพาโหม ออกดอกเป็นช่อบริเวณซอกใบและที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยมีจำนวนมาก กลีบดอกเป็นสีม่วงแดง[1]

ดอกย่านพาโหม

  • ผลย่านพาโหม ผลเป็นผลแห้ง ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม ผลแก่เป็นสีน้ำตาล แข็งและเปราะ[1]

ผลย่านพาโหม

สรรพคุณของย่านพาโหม

  1. ต้นมีสรรพคุณช่วยทำให้เจริญอาหาร (ต้น)[3]
  2. ตำรับยาพื้นบ้านล้านนาจะใช้รากย่านพาโหมผสมกับสมุนไพรอื่น ได้แก่ เปลือกต้นเพกา เหง้าไพล กะเม็งทั้งต้น อย่างละเท่ากัน นำมาตากแห้งแล้วบดให้เป็นผง ผสมกับน้ำอุ่นหรือเหล้ากินเป็นยารักษาโรคลมที่มีอาการไข้และเลือดลมเดินไม่สะดวก (ราก)[1],[2]
  3. ช่วยแก้ตานซาง (ต้น)[3]
  4. รากใช้เป็นยาหยอดตา แก้ตามัว ตาฟาง ตาแฉะ (ราก)[1],[2]
  5. รากนำมาต้มกับน้ำใช้บ้วนปากแก้อาการปวดฟัน (ราก)[3]
  6. ต้นใช้เป็นยาขับลม (ราก)[3]
  7. ตำรายาไทยจะใช้ทั้งต้น เป็นยาแก้ท้องเสีย ลำไส้พิการ (ทั้งห้า)[1],[2]
  8. ช่วยแก้ริดสีดวงทวาร (ราก)[3]
  9. ใบใช้ตำพอกแก้รำมะนาด (ใบ)[1],[2],[3]
  10. ใบใช้เป็นยาแก้พิษงู (ใบ)[3]

ประโยชน์ของย่านพาโหม

  • ยอดอ่อนและดอกอ่อนใช้รับประทานเป็นผักสดจิ้มกับน้ำพริกได้[3] ย่านพาโหมพันธุ์ Paederia tomentosa var. glabra แผ่นใบบาง มีกลิ่นฉุน ใช้รับประทานเป็นผักใส่ข้าวยำด้วย ส่วนพันธุ์ Paederia tomentosa จะมีกลิ่นเหม็นเขียว รับประทานไม่ได้[2]
  • ใช้เป็นอาหารสัตว์จำพวก โค กระบือ โดยต้นที่มีอายุราว 45 วัน จะประกอบไปด้วย โปรตีน 9.7-11.6%, แคลเซียม 1.47-1.64%, ฟอสฟอรัส 0.28%, โพแทสเซียม 2.23-2.46%, ADF 35.8-42.3%, NDF 43.0-46.9%, DMD 69.9%, ลิกนิน 15.2%[2]
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือสมุนไพรพื้นบ้านล้านนา.  (ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล).  “ย่านพาโหม”.  หน้า 162.
  2. สำนักพัฒนาอาหารสัตว์ กรมปศุสัตว์.  “ย่านพาโหม”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : nutrition.dld.go.th.  [29 ต.ค. 2014].
  3. คมชัดลึกออนไลน์.  (นายสวีสอง).  “ย่านพาโหม เป็นยา-อาหาร”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.komchadluek.net.  [29 ต.ค. 2014].

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Phuong Tran), luirig.altervista.org

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด