มะเดื่อ สรรพคุณและประโยชน์ของมะเดื่อฝรั่ง 26 ข้อ ! (Fig)

มะเดื่อ

มะเดื่อ ชื่อสามัญ Fig, Common Fig

มะเดื่อ ชื่อวิทยาศาสตร์ Ficus carica L. จัดอยู่ในวงศ์ขนุน (MORACEAE)

สมุนไพรมะเดื่อ ชนิดนี้มีชื่อเรียกอื่นว่า มะเดื่อฝรั่ง, มะเดื่อญี่ปุ่น (ลูกฟิก)

หมายเหตุ : มะเดื่อที่พูดถึงในบทความนี้จะเป็นคนละชนิดกับมะเดื่อไทย (มะเดื่ออุทุมพร, มะเดื่อชุมพร) ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ficus racemosa L.

ลักษณะของมะเดื่อ

  • ต้นมะเดื่อ เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง พบมากในประเทศตุรกีและกรีก จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นจะเป็นปุ่มแตกกิ่งก้านออก ลำต้นมียางสีขาว ลักษณะของใบเป็นใบเดี่ยวหนาค่อนข้างแข็ง ด้านหนึ่งมีขนอ่อน ส่วนผิวด้านบนจะหยาบ ขอบใบหยักลึก 3-5 หยัก ส่วนผลมะเดื่อจะออกเป็นกระจุก ผลกลมแป้นหรือรูปไข่ มีเปลือกบาง โดยผลอ่อนจะสีเขียว แต่เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีแดง หรือสีชมพู ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ ด้านในมีเนื้อสีแดงเข้ม เมื่อสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม นอกจากนี้มะเดื่อยังจัดเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของประเทศอียิปต์ อิตาลี และกรีซอีกด้วย

ต้นมะเดื่อ

  • ผลมะเดื่อ

มะเดื่อฝรั่งรูปมะเดื่อแห้ง

สำหรับประเทศไทยได้มีการนำเข้ามะเดื่อแห้งจากต่างประเทศ และได้มีการทดลองปลูกครั้งแรกที่ดอยอ่างขางเมื่อ พ.ศ.2524 โดยมูลนิธิโครงการหลวงและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น นอกจากนี้มะเดื่อยังเป็นผลไม้ต่างถิ่นที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกอีกด้วย

สรรพคุณของมะเดื่อฝรั่ง

  1. ช่วยบำรุงร่างกายและต่อต้านอนุมูลอิสระ
  2. ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ
  3. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
  4. ช่วยทำให้หัวใจทำงานได้อย่างเป็นปกติและช่วยป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง
  5. ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง เนื่องจากมีธาตุเหล็กและโฟเลตสูง
  6. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
  7. ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
  8. ช่วยปรับสมดุลของกรดด่างในร่างกาย
  9. ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ
  10. ช่วยสมานแผลในช่องปาก
  11. มะเดื่อเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารสูง จึงช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยในการขับถ่ายและกำจัดของเสียออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี และยังช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย
  12. ใช้เป็นยาระบาย ป้องกันอาการท้องผูก
  13. ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
  14. ช่วยป้องกันนิ่วในไตและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
  15. ช่วยฟอกตับและม้าม
  16. ช่วยบรรเทาอาการของโรคกามโรค
  17. เชื่อว่าลูกมะเดื่อสามารถช่วยเสริมสร้างพลังทางเพศ
  18. ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งเต้านมในหญิงวัยทอง

ประโยชน์ของมะเดื่อฝรั่ง

  1. มะเดื่อเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยลดปริมาณการใช้อินซูลินในผู้ป่วยเบาหวาน
  2. มะเดื่อเป็นผลไม้ที่เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก เพราะมีเส้นใยสูง
  3. มะเดื่อเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง มีคอเลสเตอรอลและไขมันน้อยมาก ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคตับ จึงรับประทานได้
  4. ช่วยคงความอ่อนเยาว์และชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
  5. มะเดื่อมีแคลเซียม เหล็ก และฟอสฟอรัสสูง จึงช่วยเสริมสร้าง ซ่อมแซม และเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ
  6. ในประเทศอินเดียนิยมใช้ใบมะเดื่อมารับประทานเป็นอาหาร
  7. ประโยชน์มะเดื่อ เปลือกของมะเดื่อสามารถนำมาใช้แทนน้ำตาลได้
  8. ประโยชน์ของมะเดื่อ นอกจากจะใช้รับประทานเป็นผลไม้สดแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ทำขนมได้อีกด้วย เช่น พาย แยม อบแห้ง ผลไม้กวน พุดดิง เค้ก ไอศกรีม ใช้ผสมในชาไข่มุก ใส่ขนมแทนลูกเกด ผลแห้งนำไปคั่วแล้วนำมาป่นใช้แทนกาแฟ เป็นต้น

คุณค่าทางโภชนาการของมะเดื่อฝรั่งแห้ง ต่อ 100 กรัม

  • พลังงาน 249 กิโลแคลอรี
  • คาร์โบไฮเดรต 63.87 กรัม
  • น้ำตาล 47.92 กรัม
  • เส้นใย 9.8 กรัม
  • ไขมัน 0.93 กรัม
  • โปรตีน 3.3 กรัม
  • วิตามินบี 1 0.085 มิลลิกรัม 7%
  • วิตามินบี 2 0.082 มิลลิกรัม 7%
  • วิตามินบี 3 0.619 มิลลิกรัม 4%
  • วิตามินบี 5 0.434 มิลลิกรัม 9%
  • วิตามินบี 6 0.106 มิลลิกรัม 8%
  • วิตามินบี 9 9 ไมโครกรัม 2%
  • โคลีน 15.8 มิลลิกรัม 3%
  • วิตามินซี 1.2 มิลลิกรัม 1%
  • วิตามินเค 15.6 ไมโครกรัม 15%
  • ธาตุแคลเซียม 162 มิลลิกรัม 16%
  • ธาตุเหล็ก 2.03 มิลลิกรัม 16%
  • ธาตุแมกนีเซียม 68 มิลลิกรัม 19%
  • ธาตุแมงกานีส 0.51 มิลลิกรัม 24%
  • ธาตุฟอสฟอรัส 67 มิลลิกรัม 10%
  • ธาตุโพแทสเซียม 680 มิลลิกรัม 14%
  • ธาตุโซเดียม 10 มิลลิกรัม 1%
  • ธาตุสังกะสี 0.55 มิลลิกรัม 6%

% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)

คำแนะนำ : การรับประทานมะเดื่อฝรั่งแห้งอาจทำให้ฟันผุได้ เนื่องจากมีปริมาณของน้ำตาลสูง และการรับประทานมะเดื่อในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจจะทำให้ท้องร่วงได้เช่นกัน

แหล่งอ้างอิง : หนังสือผลไม้ 111 ชนิด คุณค่าอาหารและการกิน (ทวีทอง หงษ์วิวัฒน์, นิดดา หงษ์วิวัฒน์), เว็บไซต์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, www.organicfacts.net

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด