น้ำเต้าน้อย สรรพคุณและประโยชน์ของต้นน้ำเต้าน้อย 3 ข้อ ! (นมแมว)

น้ำเต้าน้อย

น้ำเต้าน้อย ชื่อวิทยาศาสตร์ Cyathostemma micranthum (A.DC.) J.Sinclair จัดอยู่ในวงศ์กระดังงา (ANNONACEAE)[1]

สมุนไพรน้ำเต้าน้อย ยังมีชื่ออื่นอีกว่า นมแมว (ประจวบคีรีขันธ์), เถาฤาษี ผสมแก้ว (สุราษฎร์ธานี), นมแมวน้อย, พญามีฤทธิ์, น้ำเต้าน้อย (ปราจีนบุรี) เป็นต้น[1],[2],[3],[4]

ลักษณะของน้ำเต้าน้อย

  • ต้นน้ำเต้าน้อย จัดเป็นไม้พุ่มแกมไม้เถาเนื้อแข็ง เลื้อยพาดอาศัยกับต้นไม้อื่น ๆ พยุงตัวขึ้นไปยาวได้ประมาณ 10-15 เมตร เปลือกเถาเป็นสีน้ำตาล ตามกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนสีน้ำตาลปกคลุมอยู่ ต้นน้ำเต้าน้อยมีเขตการกระจายพันธุ์ตั้งแต่ประเทศพม่าและหมู่เกาะอันดามันไปจนถึงประเทศมาเลเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ นิวกินี และทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด สามารถพบได้ในป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง และตามป่าเบญจพรรณทั่วไป ที่ระดับความสูงตั้งแต่ระดับน้ำทะเลประมาณ 300-800 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง[1],[2],[3]

ต้นน้ำเต้าน้อย

  • ใบน้ำเต้าน้อย ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก ปลายใบเรียวแหลม โคนใบมน ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.3-5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 6-14 เซนติเมตร หลังใบเรียบเป็นมัน ส่วนท้องใบเรียบเช่นกัน ใบค่อนข้างหนาและเหนียว ก้านใบยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร[1],[3]

ใบน้ำเต้าน้อย

  • ดอกน้ำเต้าน้อย ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่งหรือตามกิ่ง ช่อดอกมีดอกย่อยประมาณ 2-5 ดอก ดอกเป็นสีเหลืองอ่อน สีเหลืองแกมเขียว หรือสีน้ำตาลแกมเหลือง ก้านดอกยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร ดอกมีกลิ่นหอม กลีบดอกมี 6 กลีบ ลักษณะของกลีบดอกเป็นรูปสามเหลี่ยม ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมี 3 กลีบเป็นสีเขียว ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมและมีขน เมื่อดอกบานออกกลีบจะกางออกและปลายโค้งเข้าหากัน โดยจะออกดอกในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม[1],[2],[3]

ดอกน้ำเต้าน้อย

  • ผลน้ำเต้าน้อย ออกผลเป็นกลุ่ม ก้านช่อผลยาวประมาณ 7 มิลลิเมตร มีผลย่อยประมาณ 10-20 ผล ก้านผลยาวประมาณ 2-2.5 เซนติเมตร ผลย่อยมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมเรียว ยาวประมาณ 1.2 เซนติเมตร ผิวผลมีขนปกคลุม ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ภายในผลมีเมล็ด 1 เมล็ด เมล็ดมีลักษณะกลม โดยจะติดผลในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม[1],[3]

ผลน้ำเต้าน้อย

สรรพคุณของน้ำเต้าน้อย

  • เนื้อไม้มีรสฝาดเฝื่อน สรรพคุณเป็นยาแก้ไข้หวัด แก้ไข้เพื่อเสมหะ แก้ไข้ทับระดู แก้ไข้กลับ (เนื้อไม้)[1]
  • รากใช้ฝนกับน้ำทาแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย (ราก)[1],[2]
  • รากมีรสฝาดเฝื่อน สรรพคุณเป็นยาแก้กาฬผอมแห้งของสตรีที่อยู่ไฟไม่ได้ (ราก)[1]
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1.  “นมแมว (Nom Maeo)”.  (ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์).  หน้า 150.
  2. ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.  “นมแมว”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.qsbg.org.  [26 มี.ค. 2014].
  3. หนังสือพรรณไม้และพันธุ์สัตว์ในหุบเขาลำพญา ฉบับเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ. (มหาวิทยาลับราชภัฏยะลา).  “น้ำเต้าน้อย”.  หน้า 80.
  4. พืชอาหารของหนอนผีเสื้อกลางวัน, ส่วนประสานงานโครงการพระราชดำริ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 (สงขลา).  “นมแมวน้อย”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: paro6.dnp.go.th.  [26 มี.ค. 2014].

ภาพประกอบ : www.qsbg.org, www.pharmacy.mahidol.ac.th/siri/, www.magnoliathailand.com (by ANS160)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด