ชมพูพวง สรรพคุณและประโยชน์ของต้นชมพูพวง 13 ข้อ !

ชมพูพวง

ชมพูพวง ชื่อวิทยาศาสตร์ Kleinhovia hospita L.[1] ปัจจุบันจัดอยู่ในวงศ์ชบา (MALVACEAE)

สมุนไพรชมพูพวง มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ปอฝรั่ง โพฝรั่ง หัสคุณเทศ (กรุงเทพฯ), ฉำฉา (ภาคกลาง), พาเขา (ภาคใต้) เป็นต้น[1]

ลักษณะของชมพูพวง

  • ต้นชมพูพวง จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มกว้าง เปลือกลำต้นเป็นสีเทาดำ แตกเป็นสะเก็ด[1]

ต้นชมพูพวง

  • ใบชมพูพวง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปหัวใจ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบมนเว้า ส่วนขอบใบเรียบ หลังใบและท้องใบเรียบ ก้านใบยาว[1]

ใบชมพูพวง

  • ดอกชมพูพวง ออกดอกเป็นช่อ โดยจะออกตามซอกใบ ดอกย่อยเป็นสีชมพูขนาดเล็ก กลีบดอกเป็นรูปขอบขนาน มีจำนวนมาก[1]

รูปชมพูพวง

ดอกชมพูพวง

  • ผลชมพูพวง ออกผลเป็นช่อ ไม่มีเนื้อผล ผลมีลักษณะพอง แบ่งออกเป็นพู 5 พู ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อแห้งแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และแตกออกตามสันพู ภายในผลมีเมล็ด 1 เมล็ด[1]

ภาพชมพูพวง

ผลชมพูพวง

สรรพคุณของชมพูพวง

  1. ใบมีรสหอมเผ็ดร้อน มีสรรพคุณช่วยกระจายเลือดลมให้เดินสะดวก (ใบ)[1]
  2. เปลือกต้นและใบมีรสหอมร้อน ใช้รมควันสูบแก้ริดสีดวงจมูก (เปลือกต้นและใบ)[1]
  3. ใบใช้เป็นยาแก้ไข้ แก้หืดไอ (ใบ)[1]
  4. ต้นมีรสหอมร้อน มีสรรพคุณเป็นยาแก้ไอ (ต้น)[1]
  5. ดอกมีรสหอมร้อน มีสรรพคุณเป็นยาขับเสมหะให้ลงสู่เบื้องล่าง (ดอก)[1]
  6. ต้นใช้เป็นยาช่วยขับลมภายใน (ต้น)[1]
  7. รากมีรสหอมร้อน ใช้เป็นยาขับพยาธิ (ราก)[1]
  8. ผลมีรสเปรี้ยวร้อน ใช้เป็นยาถ่าย (ผล)[1]
  9. รากใช้เป็นยาขับเลือดและหนองให้ตก (ราก)[1]
  10. รากใช้เป็นยาพอกแผลริดสีดวงและคุดทะราด (ราก)[1]
  11. ใช้เป็นยาแก้โรคผิวหนัง (ราก)[1]
  12. ใบใช้ตำพอกประคบแก้ผื่นคัน (ใบ)[1]
  13. ใบใช้เป็นยาแก้ลมอัมพฤกษ์อัมพาต แก้ขัดยอกเสียดแทง (ใบ)[1]
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1.  (ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์).  “ชมพูพวง (Chompohu Phuang)”.  หน้า 100.

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Jayesh Patil, 翁明毅)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด